“แอสเซทไวส์” เผยผลประกอบการปี 2563 คว้ารายได้กว่า 4,205 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิสูงถึง 20.6% ย้ำความสำเร็จการดำเนินธุรกิจ มั่นใจเดินหน้ารุกตลาดอสังหาฯปี 2564 ด้วยคอนเซ็ปต์ The NEXT Paradigm อย่างแข็งแกร่ง วางแผนเปิดตัว 6 โครงการ มูลค่า 10,850 ล้านบาท ชู 3 แบรนด์หลัก MODIZ, ATMOZ และ KAVE มอบความสุขที่แตกต่าง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของทุกกลุ่มลูกค้า
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับปี 2563 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่อสังหาริมทรัพย์เผชิญความท้าทายอย่างมาก แต่สำหรับแอสเซทไวส์นับเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญในการพัฒนาและเติบโต โดย ณ สิ้นปี 2563 บริษัทได้พัฒนาโครงการไปแล้วถึง 33 โครงการ มีมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นกว่า 30,400 ล้านบาท
ในปี 2563 เป็นปีที่แอสเซทไวส์ประสบความสำเร็จอย่างมากในการเปิดตัวโครงการ 3 โครงการ คือ โมดิซ ไรห์ม รามคำแหง (Modiz Rhyme Ramkhamhaeng), โมดิซ ลอนช์ (Modiz Launch) และบ้านภูริปุรี คอร์ทยาร์ด พัฒนาการ (Baan Puripuri Courtyard – Pattanakarn) รวมมูลค่าโครงการ 3,637 ล้านบาท และสามารถทำยอดขายจากโครงการใหม่ที่เปิดในปีนี้ได้ถึง 2,407 ล้านบาท โดย ณ สิ้นปี 2563 บริษัทมี backlog คิดเป็นมูลค่า 7,848 ล้านบาท ซึ่งสามารถรับรู้รายได้ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564 – 2566 ในส่วนของโครงการพร้อมอยู่ (Ready-to-move Projects) ณ วันที่ 31 ธ.ค. 63 บริษัทมีห้องของโครงการพร้อมอยู่คงเหลือในปีคิดเป็นมูลค่า 4,094 ล้านบาท และบริษัทจะมีโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2564 คิดเป็นมูลค่า 6,694 ล้านบาท
โดยโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2563 คือ บ้านภูริปุรี ทาวน์โฮม ลาดพร้าว 41 (Baan Puripuri Townhome Ladprao 41), แอทโมซ แจ้งวัฒนะ (Atmoz Chaengwattana), แอทโมซ รัชดา - ห้วยขวาง (Atmoz Ratchada - Huaikwang) และเคฟทาวน์ สเปซ (Kave Town Space) ซึ่งทุกโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่ดี จัดสรร สิ่งอำนวยความสะดวกให้อย่างหลากหลาย และมีรูปแบบห้องที่ตรงกับความต้องการ เมื่อรวมกับโครงการคุณภาพที่สร้างเสร็จก่อนหน้านี้ ทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้ถึง 4,205 ล้านบาท เติบโตจากปี 2562 ถึง 60% และด้วยการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้น 44.2% ทำผลกำไรสุทธิได้ถึง 871 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 20.6% ซึ่งจัดเป็นอัตราที่สูงน่าพอใจ
“สำหรับในปี 2564 บริษัทจะมีโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ 5 โครงการ มูลค่ารวม 6,694 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการ เคฟทาวน์ ชิฟท์ (Kave Town Shift), บ้านภูริปุรี คอร์ทยาร์ด พัฒนาการ (Baan Puripuri Courtyard – Pattanakarn), เคฟทียู (Kave TU), บ้านภูริปุรี โฮมออฟฟิศ ลาดพร้าว 41 (Baan Puripuri Homeoffice Ladprao 41) และโมดิซ สุขุมวิท 50 (Modiz Sukhumvit 50) และบริษัทฯ วางแผนเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 6 โครงการ โดยแบ่งเป็นโครงการแนวสูง 5 โครงการ ได้แก่ โครงการ เคฟ ศาลายา (Kave Salaya), โมดิซ ไรห์ม คลาวด์ (Modiz Rhyme Cloud), แอทโมซ บางนา (Atmoz Bangna), เคฟ เอวา (Kave Ava), โมดิซ ศรีราชา (Modiz Sriracha)และโครงการแนวราบ 1 โครงการคือ บ้านภูริปุรี โฮมออฟฟิศ ลาดพร้าว 41 (Baan Puripuri Homeoffice Ladprao 41 รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 10,850 ล้านบาท”
และสำหรับ The NEXT Paradigm ของแอสเซทไวส์ บริษัทฯ ได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ถือเป็นอีกก้าวสำคัญสำหรับแอสเซทไวส์ ในการพัฒนาผล
งานคุณภาพด้วยการดำเนินงานที่ได้มาตรฐานในระดับบริษัทมหาชน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งมั่นจะเชื่อมต่อความสุขของการอยู่อาศัยเพื่อให้เกิดความสุขอย่างยั่งยืน” นายกรมเชษฐ์ กล่าวทิ้งท้าย