ทุกวันนี้มีการนำเอาเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาปรับใช้ในชีวิตประจำวันเยอะมาก หนึ่งอย่างที่เห็นได้ชัดเลยคือการใช้
smart watch ที่สามารถตอบสนองผู้ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วได้เป็นอย่างดี และทำหน้าที่ต่าง ๆ ได้หลายอย่าง เพียงแค่เชื่อมต่อกับ
มือถือผ่านแอปพลิเคชันก็รับ - ตอบข้อความ, โทรศัพท์หรือ
ฟังเพลงได้โดยที่คุณไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาเลย บางรุ่นยังตอบโจทย์สายสปอร์ตชอบออกกำลังกายเพราะสามารถวิเคราะห์อัตราการเต้นของหัวใจ, จับก้าวเดิน ฯลฯ และอื่น ๆ ได้อีกเพียบ เพราะแบบนี้จึงทำให้ smart watch ได้รับความนิยมได้รวดเร็วมาก ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจ และอยากมีไว้ในครอบครองแต่ไม่รู้ถึงวิธีในการเลือกซื้อ ก็สามารถตามเรามาทางนี้ได้เลย เพราะเรามีวิธีเกี่ยวกับการเลือกซื้อ
smart watch เอามาฝาก ว่าแต่จะมีวิธีเลือกซื้อยังไงบ้างนั้นตามมาดูกันได้เลย
การเลือกซื้อ
smart watch ให้ตอบโจทย์ในการใช้
งาน1.เลือกฟังก์ชันตามไลฟ์สไตล์
สมาร์ทวอทช์รุ่นเบสิค ๆ จะสามารถวัดการเต้นของหัวใจและจำนวนก้าวเดินได้ แต่อาจจะไม่สามารถวัดความดัน การเผาผลาญไขมันหรือการนอนหลับ การเลือกซื้อสมาร์ทวอทช์เราควรคำนึงถึงความต้องการของเราว่าจำเป็น หรืออยากได้ฟังก์ชันใดบ้างสังเกตุจากการใช้ชีวิตในแต่ละวันของเรา
2.เลือกรุ่นที่สามารถใช้เป็นสมาร์ทโฟนได้ด้วย
สมาร์ทวอทช์ที่มีฟังก์ชันสมาร์ทโฟนด้วย ถือว่าเป็นรุ่นที่สะดวกมากสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวันสามารถเตือนเวลามีข้อความเข้าหรือบางรุ่นใช้เช็คอีเมลหรือใช้รับโทรศัพท์ได้โดยที่ไม่ต้องหยิบมือถือออกมา
3.เลือกจากวัสดุและสีสันของตัวเรือน
สายของสมาร์ทวอทช์ควรเลือกชนิดที่มีความอ่อนนุ่ม เพราะเมื่อเราใส่สบายเวลาเทรนนิ่งแม้ตัวสายจะกระทบกับผิวก็ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ ถ้าเลือกชนิดที่เป็นสายซิลิโคนก็จะกันน้ำกันเหงื่อและสามารถล้างสิ่งสกปรกออกได้ ช่วยรักษาให้นาฬิกาสะอาดน่าใช้อีกด้วย สีสันของตัวเรือนถ้าเลือกสีที่เข้มหน่อยอย่างสีน้ำเงินหรือสีดำก็จะช่วยอำพรางรอยขูดขีดหรือคราบต่าง ๆ ได้ด้วยค่ะ
4.แนะนำให้เลือกซื้อรุ่นที่ใช้ระบบ IP67 หรือมากกว่า เพื่อประสิทธิผลด้านการกันฝุ่นและกันน้ำ
IP Code คือประสิทธิภาพในการกันน้ำและกันฝุ่นซึ่งมีอยู่ในสมาร์ทวอทช์ทั่วไป ตัวอย่างเช่น IP67 หมายถึงระดับการป้องกันฝุ่นอยู่ที่ระดับ 6 และป้องกันน้ำได้ที่ระดับ 7 ยิ่งคนที่ใช้สมาร์ทวอทช์ในการทำกิจกรรม Outdoor ต่าง ๆ แล้วละก็ความสามารถในการป้องกันฝุ่นและน้ำเป็นเรื่องสำคัญค่ะ
5.ตรวจสอบเรื่องสมรรถภาพของแบตเตอรี่
นาฬิกาอัจฉริยะก็เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชิ้นหนึ่งที่ต้องการแบตเตอรี่มาช่วยในการทำงาน ซึ่งสำหรับสมาร์ชวอทช์นี้แบ่งประเภทของแบตเตอรี่ออกได้เป็น 2 ลักษณะคือแบบเปลี่ยนก้อนแบตเตอรี่กับแบบชาร์จไฟ ซึ่งแบบแรกมีข้อดีตรงที่ให้คุณใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานแรมปี ในขณะที่แบบที่สองนั้นคุณต้องชาร์จไฟเติมแบตฯ อยู่เสมอแต่ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
6.ตรวจสอบอุปกรณ์ที่รองรับการเชื่อมต่อ
คุณสมบัติที่ดีอีกอย่างของนาฬิกาอัจฉริยะคือคุณสามารถเชื่อมต่อข้อมูลจากนาฬิกาลงสมาร์ทโฟน/
คอมพิวเตอร์ของคุณได้ด้วย ถือเป็นการแบคอัพข้อมูลของคุณไม่ให้หายไป มีประโยชน์กรณีที่คุณต้องการติดตามผลการออกกำลัง, อัตราการหายใจหรือการนอนหลับในช่วงสัปดาห์/เดือนที่ผ่านมาได้
7.รูปลักษณ์ภายนอก
ดังที่กล่าวไปแล้วว่านาฬิกาอัจฉริยะเป็นให้คุณได้หลายอย่าง นอกจากบอกเวลาแล้วยังเป็นอุปกรณ์ดิจิตอลคู่ใจหรือเป็นเครื่องมือช่วยวัดสภาพร่างกายได้ด้วย ดังนั้น ในการเลือกซื้อจึงควรคำนึงถึงเรื่องดีไซน์ตัวเรือนที่เหมาะสม เลือกสีเบสิค ๆ ที่ใส่ได้ในทุกโอกาสเช่น ไปทำงาน, ไปเรียนหนังสือ, ไปติดต่อธุรกิจ, ไปออกกำลังกายหรือบางคนก็สวมเวลานอนด้วยเพื่อวัดค่าการนอนหลับ เป็นต้น
8.เลือกจากราคา
ราคาของนาฬิกาอัจฉริยะมีช่วงความต่างค่อนข้างกว้างตั้งแต่หลักร้อย – หลักหมื่น และอาจเป็นหลายหมื่นหากว่าเป็นสินค้าแบรนด์เนมระดับไฮเอน ซึ่งโดยหลัก ๆ แล้วความต่างของราคานั้นมีผลมาจากคุณสมบัติและดีไซน์เฉพาะตัวของแต่ละรุ่น
หากคุณกำลังมองหา
smart watch ทั่ว ๆ ไปไม่ได้ต้องการฟีเจอร์ใดเป็นพิเศษ เราขอแนะนำให้เริ่มต้นด้วยการตั้งราคาที่ต้องการในใจเพื่อกระชับกรอบสินค้าที่คุณต้องชั่งใจเลือกค่ะ หากราคาเกินกว่าที่ตั้งไว้ก็ตัดทิ้งไป คงเหลือไว้เพียงรุ่นที่ต้องการแล้วจากนั้นค่อยมาเปรียบเทียบกันว่าสมาร์ทวอทช์รุ่นอื่นที่เข้าตาบ้าง