สวัสดีครับ คุณผู้อ่านและคุณลูกค้าทุกท่าน จอร์จไทร์บิด ผู้เชี่ยวชาญยางรถยนต์ ยินดีต้อนรับครับ ช่วงเกร็ดความรู้ยานยนต์วันนี้เกี่ยวข้องกับระบบของเหลวกันสักหน่อยครับ น้ำมันหล่อลื่นเลือกอย่างไร? เป็นคำถามที่หลายๆ ท่านยังคงวิ่งวนหาคำตอบกันอยู่ บ้างก็เลือกตามที่เพื่อนแนะนำ บ้างก็เลือกตามช่าง หรือศูนย์บริการแนะนำ หรือบางท่านก็อาจจะหลงคารมของเซลล์ที่ชักจูงให้ท่านเลือกซื้อเรื่อย
แต่จะดีกว่าไหม ถ้าต่อไปนี้เราสามารถรับรู้ได้ว่า น้ำมันหล่อลื่นชนิดไหนเป็นอย่างไร ค่าความหนืดของน้ำมันหล่อลื่นบอกอะไร และคุณสมบัติพิเศษที่เขียนไว้ข้างกระป๋องช่วยอะไร วันนี้ทางจอร์จ TIRESBID จะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจ เพียงรู้แค่ 3 สิ่งนี้ก็สามารถเลือกซื้อน้ำมันหล่อลื่นที่ตรงกับความต้องการของรถได้ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง
1. ประเภทของน้ำมันหล่อลื่น โดยน้ำมันหล่อลื่นจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทได้แก่
- น้ำมันหล่อลื่นสังเคราะห์ 100% (Fully Synthetic)
น้ำมันหล่อลื่นสังเคราะห์ 100% ถือเป็นน้ำมันที่มีคุณสมบัติสูงที่สุดใน 3 ประเภท ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นที่สังเคราะห์จากน้ำมันปิโตรเลียม ช่วยเสริมสมรรถนะเครื่องยนต์ ทนความร้อนได้ดี ระเหยช้า มีอายุการใช้
งานนานที่สุด (ระยะประมาณ 10,000-15,000 กม.) เหมาะกับ “รถใหม่หรือรถที่ใช้งานหนัก” ที่วิ่งมากกว่า 50 กม./วัน
- น้ำมันหล่อลื่นกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic)
คุณสมบัติของน้ำมันหล่อลื่นกึ่งสังเคราะห์ ถือเป็นตัวรองลงมาจากน้ำมันหล่อลื่นสังเคราะห์ ซึ่งผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นธรรมดากับน้ำมันชนิดสังเคราะห์ ซึ่งน้ำมันหล่อลื่นแบบนี้จะมีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน หรือ 7,000-10,000 กม. (อย่างใดอย่างหนึ่ง) เหมาะกับรถที่ใช้งานน้อย หรือ รถยนต์ที่วิ่งต่ำกว่า 50 กม./วัน
- น้ำมันหล่อลื่นธรรมดา (Mineral)
น้ำมันหล่อลื่นธรรมดา มีราคาถูกที่สุดในท้องตลาด ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นที่กลั่นจากน้ำมันดิบ เหมาะกับ “รถเก่า” อย่างเช่นรถคลาสสิก หรือรถที่ไม่ค่อยได้ใช้งานที่จอดทิ้งไว้เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากน้ำมันประเภทนี้มีระยะการใช้งานที่สั้น 3,000-5,000 กม.
2. ค่าความหนืดของน้ำมันหล่อลื่น
หลังจากที่รู้แล้วว่าน้ำมันหล่อลื่นชนิดไหนให้อายุการใช้งานเท่าไหร่ ต่อมาก็ต้องเลือกค่าความหนืดของน้ำมันหล่อลื่น โดยตามหลักแล้ว “ค่าความหนืดสามารถดูได้จากข้างแกลลอน” ซึ่งรถแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อจะต้องการค่าความหนืดที่แตกต่างกันออกไป ตามที่ระบุไว้ในคู่มือการใช้รถยี่ห้อนั้นๆ
โดยค่าความหนืดของน้ำมันหล่อลื่นนั้นจะถูกทดสอบโดยสถาบัน สมาคมวิศวกรรมยานยนต์ หรือ SAE (SOCIETY OF AUTOMOTIVE ENGINEERS) โดยจะแบ่งเป็นตัวเลขชุดหน้า และชุดหลัง อักษร W
เลขชุดหน้า หมายถึงค่าความหนืดของน้ำมันหล่อลื่นในอุณหภูมิต่ำ หรือติดลบ เช่น 5W หมายความว่า น้ำมันหล่อลื่นนี้มีค่าความหนืดอยู่ในเกรดที่ 5 ยิ่งตัวเลขน้อย ยิ่งทนความหนาวได้ดี แต่สำหรับภูมิอากาศแบบในประเทศไทย เราไม่จำเป็นต้องกังวลกับตัวเลขชุดนี้
เลขชุดหลัง หมายถึงค่าความหนืดของน้ำมันหล่อลื่นในอุณหภูมิสูง เช่น 40 หมายความว่าน้ำมันหล่อลื่นนี้มีค่าความหนืดอยู่ในเกรด 40 หรือตัวเลขยิ่งมาก ความหนืดยิ่งเยอะ
3. คุณสมบัติของน้ำมันหล่อลื่น
เมื่อเลือกประเภทของน้ำมันหล่อลื่น และค่าความหนืดที่เหมาะกับเครื่องยนต์ของรถคุณแล้ว สิ่งที่จะเป็นตัวชี้วัด คือคุณสมบัติพิเศษและเทคโนโลยีใส่เข้ามาในน้ำมันหล่อลื่นยี่ห้อนั้นๆ ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และปกป้องเครื่องยนต์ของคุณได้ดียิ่งขึ้นไปอีก ทั้งนี้การเลือกน้ำมันหล่อลื่นที่ดี ที่ตรงตามคุณสมบัติที่รถคุณต้องการ จะเป็นตัวช่วยให้รถของคุณมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครื่องยนต์ ให้เครื่องยนต์กลับมาสมบูรณ์เหมือนใหม่ได้อีกครั้ง ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้งาน บางคนอาจใช้งานน้อย บางคนอาจใช้งานหนัก ก็ควรที่จะเลือกน้ำมันหล่อลื่นให้ถูกประเภท และค่าความหนืดให้ถูกต้องตามที่รถของคุณต้องการ
หากลูกค้าไทร์บิดหายห่วงเลยครับ จอร์จ บริการช่วยเหลือประสานงาน และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญยางรถยนต์ได้ตลอดเวลาทำการฟรี หรือ สนใจเช็คราคานัดหมายติดต่อซื้อยางง่ายดายสุดๆ ผ่านทาง Line@ : @tiresbid ได้เลยครับ หากไม่สะดวกพิมพ์อยากคุยกันมากกว่า โทรมาเลย : 090-986-8762 คุยง่าย แนะนำดี ไม่ผิดหวัง วันนี้ก็ขอตัวแล้วครับโอกาสหน้าเรากลับมาเจอกันใหม่ครับ ส่งท้ายหากเพื่อนต้องการ ให้จัดหายาง สั่งยี่ห้อใดรุ่นใด ไซส์ใดเป็นพิเศษ สนใจแจ้งเข้ามาได้เลยครับ จอร์จและทีมงานยินดีให้บริการเต็มที่ ขอบคุณครับ
2.ติดต่อไทร์บิด
- โทร : 090-986-8762 / 090-958-7416 - Line Official : @tiresbid │https://lin.ee/717tUdr
- Inbox : m.me/Tiresbidonline - เวลาทำการ : วันจันทร์ - วันเสาร์ 08.30 - 17.30 น. (หยุดวันอาทิตย์)
- YouTube : http://bit.ly/TiresbidYoutube -
Facebook Tiresbid Group : http://bit.do/TiresbidGroup