1. มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 3-5 ปี
บริษัทที่ดีที่ควรลงทุนควรมียอดขายหรือรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 3-5 ปี เพื่อบ่งชี้ว่าบริษัท xo ยังคงเติบโตและไม่ถึงจุดอิ่มตัว ซึ่งคาดการณ์ได้ว่าในอนาคตบริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้น ผู้ลงทุนสามารถมั่นใจได้ว่าปีหน้ามีโอกาสทำกำไรสูง
2. บริหารธุรกิจดี กำไรสม่ำเสมอ
บริษัท ที่ดีในการลงทุนควรมีกำไร จากกำไรขั้นต้นสู่กำไรสุทธิซึ่งเป็นกำไรสุดท้ายที่บริษัทจะได้รับ และมีกำไรสม่ำเสมอมากกว่า 3 ปี ซึ่งกำไรควรมาจากการขายสินค้าและบริการหลักของบริษัท เพราะจะดีต่อบริษัทในระยะยาวเพราะเป็นรายได้ประจำ หลีกเลี่ยงการลงทุนในบริษัทที่ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง เพราะราคาจะขึ้นยาก และอาจจะไม่เหลือเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นด้วย แต่ในบางกรณี บริษัทลงทุนเงินจนขาดทุน แต่จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทในระยะยาว ซึ่งต้องพิจารณาเป็นรายกรณีไป
3. ธุรกิจมีจุดแข็งมีความสามารถในการแข่งขัน
การลงทุนระยะยาวจำเป็นต้องเห็นภาพอนาคตของการเติบโตของบริษัท ต้องคำนึงถึงปัจจัยที่มีผลต่อการเติบโต จุดแข็ง และความสามารถในการแข่งขันของบริษัทด้วย บริษัทที่คุณเลือกลงทุนต้องมีความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งและทำให้ผลิตภัณฑ์ของตนเป็นที่ต้องการของตลาดได้ เพื่อให้ได้ส่วนแบ่งการตลาดจำนวนมาก บริษัทดังกล่าวอาจไม่จำเป็นต้องเป็นบริษัทที่ดีที่สุดในตลาด แต่จำเป็นต้องมีจุดแข็งเพื่อแข่งขันอย่างยั่งยืน หรือถ้าเป็นธุรกิจใหม่หรือมีคู่แข่งน้อยรายได้ก็จะดีขึ้น เพราะมันหมายถึงการได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้น
4. อัตราส่วนหนี้สินต่อต้นทุนไม่สูง
บริษัทที่จะลงทุนควรมีสภาพคล่องที่ดี มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอ และไม่ควรมีหนี้สินระยะยาวมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาในการชำระคืนและทำให้ต้นทุนดอกเบี้ยสูงขึ้น เนื่องจากหนี้ระยะยาวจะส่งผลให้ “อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน” (D/E Ratio) สูงเกินไป อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนคือการวัดอัตราส่วนระหว่างหนี้สินทั้งหมดที่บริษัทมี กับส่วนของเจ้าของซึ่งเป็นการลงทุนและกำไรสะสมของบริษัท หากมูลค่ามากกว่า 1 แสดงว่าบริษัทดำเนินการเกี่ยวกับการกู้ยืมมากกว่าเงินทุนจากเจ้าของซึ่งอาจมีความเสี่ยง เพราะหากมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นสูง เมื่อขาดสภาพคล่องหรือไม่สามารถชำระหนี้ได้ ปัญหาจะเกิดขึ้นทันทีและอาจเป็นปัญหาต่อเนื่อง หากบริษัทไม่มีผลกำไรและยังมีหนี้สูงอยู่ อาจทำให้ขาดทุนสะสมและต้องปิดตัวลงในที่สุด
5. กำไรสะสมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กำไรสะสมคือส่วนของผู้ถือหุ้นทั้งหมดที่เกินกว่าเงินลงทุนที่ผู้ถือหุ้นใส่เข้าไปในบริษัท กำไรสะสมจะเกิดขึ้นจากการดำเนินงานเพื่อผลกำไรของบริษัท ซึ่งเป็นกำไรที่เหลืออยู่ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัทเป็นต้นมา หุ้นพื้นฐานที่ดีต้องเพิ่มกำไรสะสมอย่างต่อเนื่อง เพราะกำไรสะสมเป็นส่วนหนึ่งที่บริษัทสามารถลงทุนเพื่อขยายธุรกิจได้ และเงินจำนวนนี้สามารถนำไปใช้จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้เช่นกัน
6. ผู้บริหารโปร่งใส มีธรรมาภิบาลที่ดี
ก่อนเลือกลงทุนในบริษัทใด ผู้ลงทุนต้องศึกษาประวัติผู้บริหารของบริษัทนั้นก่อนตัดสินใจ บริษัทที่ควรลงทุนต้องมีผู้บริหารที่บริหารจัดการด้วยความโปร่งใส เปิดเผย ไม่มีส่วนได้เสีย และสามารถตรวจสอบได้ ฝ่ายบริหารต้องสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ดี เพราะต้นทุนส่งผลโดยตรงต่อกำไร