ถ้าพูดถึงเบเกอรี่ เชื่อว่าใครก็คงนึกถึงร้านเบเกอรี่ชื่อดัง หรือ ร้านคาเฟ่น่ารัก ๆ ที่ที่ใครอยากทานอะไรก็แค่ขับรถไปถึงหน้าร้านและชี้นิ้วสั่งได้เลย หรือถ้าขยับความสะดวกสบายขึ้นมาอีกสักหน่อยก็คือการสั่งจากทางเดลิเวอรี่จากพวกไรท์เดอร์แอพต่าง ๆ สะดวกสบายมาก หรืออีกช่องทางที่ใคร ๆ ก็ได้ทานไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน นั่นคือช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ที่ส่งสินค้าพัสดุกันทางขนส่งนั่นเอง ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นร้านค้าที่มีหน้าร้านเท่านั้น เพราะเบเกอรี่โฮมเมดก็กำลังมาแรงมาก ๆ ในช่วงนี้ เรียกว่าส่งของกันไม่หวาดไม่ไหวเลยทีเดียวค่ะ แต่เมื่อต้องเจอกับสถานการณ์ปัจจุบันกับยุคโควิด-19 ปัญหาที่ปกติต้องลุ้นว่าขนมจะแตกหักหรือเสียหายมั้ย กลายเป็นว่าต้องนั่งลุ้นว่าของจะถึงมือลูกค้าวันไหนแทน นอกจากจะถึงช้า ปัญหาที่ตามมาคือของหมดอายุ เสียแล้ว ไม่สามารถทานได้แล้ว ฉะนั้นวันนี้เราจะพามารู้จักกับการส่งเบเกอรี่โดยขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิหรือ รถห้องเย็น
ในความเป็นจริงแล้ว เบเกอรี่บางเจ้าก็ได้ใช้การขนส่งแบบ รถห้องเย็น มาสักพักบ้างแล้ว เพราะถ้าหากจะคาดหวังจากลูกค้าหน้าร้านอย่างเดียวเหมือนแต่ก่อนยอดขายอาจจะไม่ปัง จึงได้มีการปรับตัวและเลือกใช้รถห้องเย็นในการขนส่งแทน เนื่องจากส่วนผสมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแป้ง ไข่ เนย ครีม น้ำตาล เป็นแหล่งอาหารชิ้นดีสำหรับจุลินทรีย์ไว้ใช้ในการเจริญเติบโต ดังนั้นการใช้ความเย็นที่ต่ำกว่า 4 องศาจะทำให้โมเลกุลจะหยุดคืนสภาพ และเมื่อเบเกอรี่ที่ส่งถึงมือลูกค้าตัวขนมเองก็ยังคงสภาพเดิมีทั้งหน้าตาและรสชาติ มาดูกันว่าเบเกอรี่ชนิดใดบ้างที่ควรใช้ขนส่งรถห้องเย็น
เค้ก
เค้กหรือบัตเตอร์เค้กนั้น หลาย ๆ คนคงพอจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าต้องเก็บในอุณหภูมิความเย็นเพื่อไม่ให้เกิดการบูดเสีย ถึงแม้ว่าเค้กอาจจะไม่เกิดการละลายก็ตาม แต่ส่วนผสมต่าง ๆ ของเค้กก็เป็นแหล่งขุมทรัพย์ของพวกเหล่าจุลินทรีย์อ รวมไปถึงฟรุตเค้กต่าง ๆ ที่ยิ่งมีผลไม้เข้ามาตบแต่งหน้าเค้กแล้ว ยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เค้กมีความเสียเร็วขึ้น ดังนั้นการเก็บเค้กที่อยู่ในอุณหภูมิความเย็นจึงเป็นการดีที่สุด
[/url]
เป็นอีกหนึ่งชนิดขนมที่ต้องใช้อุณหภูมิความเย็นในการเก็บรักษา แม้ว่าอาจจะอยู่ข้างนอกได้นานถึง 2-3 ชม. แต่รสชาติและเนื้อสัมผัสอาจจะไม่เหมือนดั้งเดิมหรือถึงขั้นไม่อร่อยเท่าที่คาดหวังไว้ ฉะนั้นชีสเค้กจึงเป็นอีกหนึ่งชนิดขนมที่ต้องอยู่ในพื้นที่ควบคุมอุณหภูมิ และขนส่งโดยรถห้องเย็นเท่านั้น
ทาร์ต ทาร์ตเป็นอีกชนิดขนมที่สามารถขนส่งปกติได้และเก็บไว้ได้หลายชั่วโมงในอุณหภูมิปกติ รวมไปถึงขนมเปี๊ยะลาวาที่กำลังมาแรงด้วยเช่นกัน จริงอยู่ว่าสามารถใช้ขนส่งปกติได้ แต่เนื่องจากสภาพอากาศบ้านเราบวกกับขนส่งบางพื้นที่อาจช้ากว่า 1-2 วัน แต่เมื่อสินค้าถึงมือลูกค้านั้น ผลที่ได้คือเกิดการขึ้นรา ทำให้ไม่สามารถรับประทานได้ ดังนั้นการหันมาใช้ขนส่งแบบรถห้องเย็นคงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์กว่า
[/url]
หลายคนอาจจะคิดว่าขนมปังจำเป็นต้องเก็บแบบใช้อุณหภูมิความเย็นด้วยเหรอ ในเมื่อสามารถวางไว้ในพื้นที่อุณหภูมิปกติก็ได้ แต่ขนมปังบางชนิดที่สอดไส้ นม สังขยา มะพร้าว ฯล เป็นไส้ที่ไม่ทนต่อสภาพอากาศเมืองไทยแน่นอน แม้ตัวขนมปังอาจจะยังไม่เสีย แต่ไส้ข้างในนั้นก็ไม่สามารถทานได้อีกแล้ว ฉะนั้นการใช้ขนส่งรถห้องเย็นจึงจะดีกว่าการขนส่งแบบปกติทั่วไป
ในความเป็นจริงนั้น ไม่เพียงแต่รถห้องเย็นจะทำให้เบเกอรี่รักษาหน้าตาและรสชาติดั้งเดิมได้เท่านั้น แต่ขนส่งแบบรถห้องเย็นยังรักษาสภาพสินค้าได้สมบูรณ์ไม่เกิดความเสียหาย และใช้ระยะเวลาขนส่งเพียงแค่ 1 วันเท่านั้น เรียกได้ว่าสะดวกสบายทั้งผู้ส่งและผู้รับเลยทีเดียว เมื่อรู้แบบนี้แล้ว ในยุคโควิด-19 ที่ขนส่งปกติทั่วไปเกิดการล่าช้านั้น ผู้ประกอบการเกี่ยวกับเบเกอรี่นั้น ลองเปลี่ยนใจมาทดลองใช้ขนส่งห้องเย็นดูบ้างคงจะดีไม่ใช่น้อย นอกจากจะประทับใจลูกค้าในการได้รับสินค้าแล้ว อาจเป็นการขยายตลาดรับลูกค้าใหม่ ๆ อีกด้วย
