บริเวณชายฝั่งเป็นพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ที่มีต่อกันระหว่างพื้นดิน มหาสมุทร และชั้นบรรยากาศ เนื่องจากเป็นพื้นที่เปลี่ยนผ่านระหว่างพื้นดินกับทะเลอันอุดมไปด้วยทรัพยากรที่หลากหลาย ซึ่งได้ทำให้บริเวณนี้เป็นพื้นที่ที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจและมีประชากรหนาแน่น อย่างไรก็ตาม ด้วยผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น และกิจกรรมของมนุษย์ สภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาของเขตชายฝั่งทะเลจึงมีความเปราะบางอย่างยิ่ง และความเปราะบางดังกล่าวได้กลายเป็นปัญหาร้ายแรงในช่วงที่ผ่านมา
ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งที่เกิดจากระดับน้ำทะเลสูงขึ้น แผ่นดินทรุดตัว รวมถึงภัยธรรมชาติต่าง ๆ แนวชายฝั่งของประเทศไทยตลอดแนวทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีระยะทางรวมทั้งสิ้นประมาณ 2,600 กิโลเมตร โดยทะเลกัดเซาะชายฝั่งประมาณ 559 กิโลเมตรไป 5 ถึง 20 เมตรต่อปี นอกจากนี้ สภาพอากาศที่เลวร้ายบ่อยครั้งยังทำให้พื้นที่ชายฝั่งหลายแห่งต้องประสบปัญหาภัยแล้ง อุทกภัย และการรุกล้ำของน้ำทะเลอย่างรุนแรง
จีนและไทยต่างก็เป็นประเทศชายฝั่งทะเลที่สำคัญ ซึ่งเขตชายฝั่งทะเลได้รับผลกระทบอย่างมากจากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลและภัยธรรมชาติต่าง ๆ เช่น ไต้ฝุ่นกับน้ำท่วม โดยทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงร่วมกันในการใช้และปกป้องทรัพยากรทางทะเล, การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทางทะเล, การอนุรักษ์ระบบนิเวศทางทะเล, การพัฒนาที่ยั่งยืนทางทะเล และด้านอื่น ๆ อีกมากมายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากความแตกต่างของสภาพทางภูมิศาสตร์และกิจกรรมของมนุษย์ในเขตชายฝั่งทะเลของทั้งสองประเทศ จึงจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเปราะบางของชายฝั่งทะเลในประเทศไทย
ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยร่วมไทย-จีนด้านสภาพภูมิอากาศและระบบนิเวศทางทะเล ก่อตั้งขึ้นในจังหวัดภูเก็ตเมื่อเดือนมิถุนายน 2556 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเวทีทวิภาคีสำหรับความร่วมมือทางทะเลระหว่างไทยกับจีน การวิจัยร่วมเกี่ยวกับความเปราะบางของชายฝั่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากทั้งสองประเทศในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการความร่วมมือนี้
นักวิทยาศาสตร์จากจีนและไทยได้ดำเนินการสำรวจภาคสนามในชายฝั่งประเภทต่าง ๆ เช่น ที่ราบชายฝั่ง, สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ, ที่ลุ่มราบน้ำขึ้นถึง, พื้นที่ชุ่มน้ำ เป็นต้น โดยรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการหาประโยชน์และการใช้ประโยชน์ของมนุษย์ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลเพื่อแสดงผลกระทบจากกิจกรรมของมนุษย์ที่มีต่อความเปราะบางของชายฝั่ง นอกจากนี้ยังได้ทำการสำรวจการกัดเซาะชายฝั่งและการรุกล้ำของน้ำทะเลเพื่อเป็นพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ในการปกป้องเขตชายฝั่งทะเลอีกด้วย
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการข้อมูลได้จัดตั้งขึ้นตามการสำรวจภาคสนามและการรวบรวมข้อมูล โดยระบบดังกล่าวประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับธรณีวิทยาชายฝั่ง, ลักษณะภูมิประเทศ, ธรณีสัณฐานวิทยา, วิชาลำดับชั้นหิน, อุทกวิทยา, นิเวศวิทยา และการวิเคราะห์ข้อมูลภาพระยะไกล ซึ่งเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับการประเมินความเปราะบางของชายฝั่งในประเทศไทย
นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังได้เลือกดัชนีการประเมินความเปราะบางชายฝั่งที่มีประสิทธิผล และสร้างแบบจำลองการประเมินความเสี่ยงเพื่อจำแนกระดับความเปราะบางของชายฝั่งตามพื้นที่ จากผลการประเมินนั้นคาดว่าจะมีการเสนอมาตรการที่เหมาะสมสำหรับระดับความเปราะบางที่แตกต่างกัน