เรื่องราวของแบรนด์ไทยที่ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม ‘Mud More Value’ จากแนวคิดที่ต้องการดึงเอกลักษณ์ของจังหวัดสระบุรีคือฟาร์มโคนมออร์แกนิก มองหาว่าอะไรจะเป็นสินค้า OTOP ที่แตกต่าง ผ่านกระบวนการสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ ‘วรรณภา กิติโสภากุล’ นักออกแบบผลิตภัณฑ์และเจ้าของแบรนด์ ที่ได้พัฒนาสินค้า ‘ผ้ามัดย้อมมูลวัว’ ที่ตอบรับทั้งเทรนด์โลกและมีดีไซน์ที่ทันสมัย ขึ้นแท่นเป็นสินค้า OTOP ที่โดดเด่นของเมืองสระบุรี
ถึงแม้ต้องก้าวผ่านความผิดพลาดมานับครั้งไม่ถ้วน ค้นคว้าทดลองอยู่เป็นเวลานาน ในที่สุดแบรนด์ ‘Mud More Value’ ก็เริ่มนำสินค้าออกสู่ตลาด ทำให้คนไทยภาคภูมิใจด้วยยอดขายที่ดีทุกครั้งเมื่อออกบูธในต่างประเทศ นอกจากดีไซน์ที่ดูเรียบง่ายแล้ว ยังเข้ากับเทรนด์ของโลกที่ผู้คนหันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น และยังตอบรับกับเทรนด์ ‘Zero Waste’ เนื่องจากผ้ามัดย้อมจากมูลวัวนมนั้นเป็นการนำของเสียกลับมาแปรรูปให้เกิดมูลค่า ตามความหมายของชื่อแบรนด์ที่คุณวรรณภา ได้กล่าวไว้
“ความหมายของ Mud More Value คือ มัด คือ มัดย้อม, มอ คือ เสียงวัว, วาลู ก็คือ แวลูหรือมูลค่า คล้องเสียงและเข้ากับความหมายที่ว่า การสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า”
“ตอนที่ยังเริ่มต้นทดลอง คนไม่เข้าใจก็มองว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะคิดว่าผู้บริโภคจะรังเกียจว่ามันสกปรกเพราะมาจากมูลวัว แต่ในทางกลับกันเรามองว่า มูลวัวที่เลี้ยงแบบออร์แกนิกจะให้สีหญ้าแห้งธรรมชาติ ที่มีสีที่คงที่ ควบคุมง่าย และเป็นสีที่ดูเท่ ไม่เชย เลยตั้งใจทำออกมา ซึ่งผลปรากฎว่าผู้บริโภคเปิดใจยอมรับ โดยเฉพาะลูกค้าต่างประเทศ เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน ต่อมาคนไทยก็กลายเป็นลูกค้ากลุ่มหลักด้วยเหมือนกัน เพราะในไทยเองคนก็ชอบสินค้าที่มาจากธรรมชาติมากขึ้น”
kingpowerthaipower.com/community-power/mud-more-value-มัดมอวาลู-ผ้าย้อมมู
