หลายคนเรียก สมโภชน์ อาหุนัย ว่าเขาเป็น “อีลอน มัสก์ แห่งเมืองไทย”
ซึ่งอาจจะไม่ไกลจากความจริงนัก เพราะว่า CEO ของ บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ หรือ Energy Absolute (EA) มีวิสัยทัศน์เรื่องพลังงานทดแทนนำหน้าใครต่อใครในประเทศไทยมานานนับตั้งแต่ไบโอดีเซล โซลาร์เซล จนถึง ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ธุรกิจบริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า และการเก็บกระแสพลังงาน ที่ทั่วโลกกำลังตื่นตัว
แต่เมื่อได้เห็นคุณสมโภชน์พาเยี่ยมชมโรงงาน Amita Technologies, Inc. โรงงานผลิตและพัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนไว้ใช้ใน Energy Storage System (ESS) ระดับอุตสาหกรรมและยานยนต์ของไต้หวันที่ทาง EA ได้เข้าไปถือหุ้นและร่วมพัฒนาเทคโนโลยี ESS ที่จะเป็นตัวสำคัญในการผลักดันการใช้พลังงานทางเลือก เรากลับนึกถึง Willy Wonka เจ้าของโรงงานช็อกโกแลตจาก Charlie and the Chocolate Factory
นายสมโภชน์ อาหุนัย และ นายอมร ทรัพย์ทวีกุล
คุณสมโภชน์ไม่ได้แต่งตัวฉูดฉาดหรือมีคาแรกเตอร์หลุดโลกอย่าง Willy Wonka ออกจะถ่อมตนและติดดินไม่เหมือนภาพที่เรามักจะคิดไปก่อนกับบุคคลที่ติดหนึ่งในสิบลิสต์มหาเศรษฐีของประเทศไทยของนิตยสาร Forbes ปีนี้ เขาไม่ได้มีกองทัพ Oompa Loompa ช่วยผลิตขนม (หรือแบตเตอรี่) แต่สิ่งที่ทำให้เรานึกถึงตัวละครอันโด่งดังของ Ronald Dahl ในขณะที่คุณสมโภชน์พาเดินชมโรงงาน Amita และอธิบายทุกขั้นตอนพร้อมตอบทุกคำถามได้อย่างรวดเร็วคือความทุ่มเท ความหลงใหล ความรู้จริงที่เขามีให้กับ ESS และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เหมือนอย่างที่ Willy Wonka รักโรงงานช็อกโกแลตของเขา
ธุรกิจปัจจุบันของ EA รวมถึงโรงงานไฟฟ้าพลังทดแทน สถานีบริการอัดประจุไฟฟ้า และธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจแบตเตอรี่ ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องจักร ธุรกิจวิจัยและพัฒนา (Mine Mobility บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าของ EA ที่ได้เริ่มจำหน่ายแล้วตกอยู่ในกลุ่มนี้)
การเข้าซื้อหุ้นของ Amita Technologies, Inc. ไม่ใช่แค่การลงทุนสำหรับ EA หลังจากประสบความสำเร็จในการบุกเบิกพลังงานไบโอดีเซลและโซลาร์เซลในประเทศไทยแล้ว ทาง EA มีดำริว่าพลังงานจากธรรมชาติไม่สามารถควบคุมได้แน่แท้อย่าง 100% เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญกว่าคือการกักเก็บพลังงานนั่นเอง
“เรารู้ตั้งแต่วันแรกที่เข้าตลาดแล้วว่า renewable energy ต้องลดลง คิดตั้งแต่วันเข้าตลาดเลยว่าเราจะทำอะไรต่อ เราสนใจเรื่อง energy storage มากเลยศึกษามาเรื่อยๆ” คุณสมโภชน์กล่าว
ทางคุณสมโภชน์และทีม EA ใช้เวลากว่าสามปีในการเสาะหาพาร์ทเนอร์และเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่สุดด้วยตัวเอง โดยการศึกษาอย่างละเอียดและเดินทางไปพบปะผู้เชี่ยวชาญมาทั่วมุมโลก และในที่สุดได้ตัดสินใจเข้าร่วมหุ้นกับ Amita ผู้มีลูกค้าเป็นบริษัทยานยนต์ไฟฟ้าหลายยี่ห้อพร้อมทั้งโรงงานอุตสาหกรรม ปัจจุบัน EA ถือหุ้น 50.69% ใน Amita (ข้อมูล ณ 31 ธันวาคม 2017)
ทาง Amita ใช้ STOBA เทคโนโลยี ESS ชั้นสูงในการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไออนที่สามารถนำมาใช้กับยานยนต์ไฟฟ้าและอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ได้ Industrial Technology Research Institute (ITRI) ของไต้หวันได้คิดค้นและทดสอบ STOBA ซึ่งมีประสิทธิภาพในการกักเก็บพลังงานสูงและรับรองความปลอดภัยมากที่สุด เทคโนโลยีนี้ได้รับรางวัล R&D 100 Awards รางวัลระดับโลกที่ถูกมองว่าเหมือนเป็นออสการ์ของวงการนวัตกรรม ในปี 2009 และปีถัดมายังได้รางวัล Excellence Technology Contribution Award จาก Executive Yuan
EA กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนนี้ในเมืองไทย โดนทุ่มทุนกว่าแสนล้านบาท โรงงานแห่งนี้ใช้เทคโนโลยีโรบอทและ AI ล่าสุดในตลาด และอยู่ในระหว่างการก่อสร้างที่ Blue Tech City จังหวัดฉะเชิงเทรามีกำหนดการเสร็จในปี 2020 แรงการผลิตจะเริ่มต้นที่ 1GHw และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึง 50GHw ในช่วงแรกจะนำทีมงานจาก Amita เข้ามาเผยแพร่ความรู้แก่บุคลากรชาวไทย
“เราไม่กลัวตลาดและการลงทุน บอกมาตลอดว่าต้องมีโรงงานผลิต 50GHw มากกว่า 200 โรง ตอนนี้กลัวแค่จะแก่ไปก่อนแล้วทำไม่ทัน เป็นห่วงเรื่องเวลา และเรื่องอื่นๆ ที่เราควบคุมไม่ได้ เราเข้าใจ ศึกษา และลงมือทำเรื่องพลังงานมาตลอด ไม่ได้แค่ซื้อ know how เข้ามา” คุณสมโภชน์กล่าวเน้นย้ำ
แน่นอนว่าเทคโนโลยีการบรรจุพลังงานทางเลือกต่างๆ เป็นหนทางที่จะพาโลกเข้าสู่อนาคตโดยไม่ทำร้ายตัวโลกเอง และอาจจะเป็นทางออกอันมีไม่มากนักให้คนรุ่นหลังอยู่ต่อไปได้ และการลงทุนครั้งใหญ่นี้สอดคล้องกับธุรกิจทั้งหมดของ EA ที่เน้นไปเรื่องพลังงานทดแทน และกระแสโลกที่กำลังหมุนไปอย่างรวดเร็วในการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งต้องมีการกักเก็บพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยภายในปี 2025 ฮอลแลนด์และนอร์เวย์จะเริ่มบังคับใช้ยานพาหนะไฟฟ้าตามกฎหมาย ส่วนเยอรมนีและอินเดียจะปฏิบัติตามในปี 2030 ส่วนฝรั่งเศสและอังกฤษจะเริ่มในปี 2040 คาดการณ์กันไว้ว่าภายในปี 2030 ความต้องการแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจากสูงกว่า 554 GWh ทั่วโลกเลยทีเดียว
นอกจากสร้างธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ธุรกิจ ESS และรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อ Mine แล้ว ทาง EA ยังก้าวกระโดดไปธุรกิจบริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าในชื่อ EA Anywhere โดยได้จับมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างสถานีชาร์จทั่วประเทศ เพื่อให้ครบระบบนิเวศน์ของของการจัดสรรพลังงาน
>> EA Anywhere จับมือ 4 พันธมิตรรายใหญ่ ตั้งเป้าขยายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั่วประเทศ
“อุตสาหกรรมนี้มันใหญ่ เราเป็นแค่ไวรัสอยู่ แต่วันหนึ่งเราจะขยายเป็นเซลล์เอง เราอยากทำให้มันสำเร็จ เผื่อจะสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นลุกมาทำ เราไม่ได้จะต้องเป็นเบอร์หนึ่งคนเดียวเสมอ พร้อมต้อนรับผู้เล่นอื่นๆ ที่จะลงสนาม ถ้าอุตสาหกรรมนี้มันโตขึ้นเรื่อยๆ EA ก็จะโตขึ้นเรื่อยๆ ไปเอง EA โตมาจากธุรกิจที่ได้รับ subsidize จากภาครัฐ แล้วธุรกิจที่ภาครัฐช่วยอุ้มมักจะไม่กลับมาใช้คืนชาติ แต่ EA จะทำอย่างนั้น เราอยากเป็นตัวตกผลึก” คุณสมโภชน์ตบท้าย
“Energy Absolute หมายความว่า ‘ความบริสุทธิ์ที่มีพลัง’ และนั่นคือ DNA และจุดมุ่งหมายของเรา”
