พีที แอนิมัส เบอร์ซามา เจอเมอร์ลัง และเวอร์ชวล อินเทอร์เน็ต ผนึกกำลังใช้โปรแกรมเวอร์ชวล 5G หนุนโครงการวิสาหกิจหมู่บ้านของอินโดนีเซีย
มุ่งสู่ความก้าวหน้าด้านบรอดแบนด์โทรศัพท์มือถือและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ชนบทและเขตเมืองทั่วประเทศอินโดนีเซีย เพื่อปลดล็อกศักยภาพดิจิทัลของอินโดนีเซีย
พีที แอนิมัส เบอร์ซามา เจอเมอร์ลัง ( PT. Animus Bersama Cermerlang) ของอินโดนีเซีย ได้ผนึกกำลังกับเวอร์ชวล อินเทอร์เน็ต จำกัด (Virtual Internet Pte. Ltd) ของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออาดารา เน็ตเวิร์กส์ อิงค์ (ADARA Networks, Inc.) ในเมืองซานโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อสนับสนุนโครงการวิสาหกิจหมู่บ้าน "พีที บัม เดซา อินโดนีเซีย" (PT BUM Desa Indonesia หรือ BUMDES) เพื่อตระหนักถึงวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในหมู่บ้าน อำเภอและเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศอินโดนีเซีย
พีที แอนิมัส เบอร์ซามา เจอเมอร์ลัง และเวอร์ชวล อินเทอร์เน็ต จำกัด ได้ลงนามในข้อตกลงการจัดจำหน่ายและการทำตลาดภายใต้พันธกิจในการพัฒนาความเร็วและความน่าเชื่อถือของการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตทั่วประเทศอินโดนีเซีย โดยนับเป็นความมุ่งมั่นของทั้งพีที แอนิมัส เบอร์ซามา เจอเมอร์ลัง และเวอร์ชวล อินเทอร์เน็ต ในการสนับสนุนโครงการ BUMDES ของกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โดยพีที อินโดนีเชียน วิลเลจ โอนด์ เอนเตอร์ไพรซ์ หรือบีดีไอ (BDI) คือบริษัทโฮลดิงที่เป็นแหล่งรวมวิสาหกิจหมู่บ้านจำนวนมากในอินโดนีเซีย โดยพีที บีดีไอ รับผิดชอบดูแลและมีเครือข่ายองค์กรธุรกิจมากกว่า 94,500 แห่งกระจายอยู่ตามหมู่บ้านและพื้นที่ห่างไกลของอินโดนีเซีย โดยทุกฝ่ายร่วมมือกันเปลี่ยนแปลงและพัฒนาบริการดิจิทัลทั่วอินโดนีเซีย
เวอร์ชวล 5 G (Virtual 5G) ซึ่งเป็นระบบแรกที่ให้บริการบรอดแบนด์โทรศัพท์มือถือความเร็วสูง 5G และบริการ 5G ทั่วโลกผ่านทางเครือข่าย OTT (Over The Top) ซึ่งทำงานอยู่บนเครือข่ายทุกรูปแบบ รวมถึง วิทยุเซลลูลาร์ (Cellular Radio), ไวไฟ (WiFi), ภาคพื้นดิน (Terrestrial) และดาวเทียม (Satellite) ในฐานะ OTT บริการของเวอร์ชวล 5G จะเชื่อมต่อผู้ใช้ทั่วโลกผ่านผู้ให้บริการทุกราย โดย OTT ได้กลายมาเป็นแพลตฟอร์มหลักอย่างรวดเร็วในการให้บริการที่มีผู้นำไปใช้รวดเร็วเช่นนี้
ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงบริการเวอร์ชวล 5 G ได้ผ่านแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือ (ฝั่งลูกค้า) ในกูเกิล เพลย์ (Google Play) ในฐานะพรีเมียมซอฟต์แวร์ โดยเวอร์ชวล 5G ช่วยให้ผู้ใช้งานในอินโดนีเซียสามารถเพลิดเพลินไปกับทุกกิจกรรมบนอินเทอร์เน็ต โดยมีเวลาแฝงต่ำ แบนด์วิดท์สูง บริการที่เชื่อถือได้ตามที่อินโดนีเซียต้องการผ่านบรอดแบนด์โทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นสื่อสังคมออนไลน์ การท่องเว็บ ข่าว ดาวน์โหลด/อัปโหลดสื่อหลากหลายชนิด อีเมลและแอปพลิเคชัน
เวอร์ชวล 5 G ให้บริการบรอดแบนด์โทรศัพท์มือถือ 5G บนโทรศัพท์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งรองรับแอนดรอยด์ 8.0, 8.1, 9, 10, 11 และแอนดรอยด์ 12 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการบนโทรศัพท์แอนดรอยด์ 5G รุ่นล่าสุด รวมถึงบนอุปกรณ์มือถือแอนดรอยด์ทุกรุ่น ทั้ง 2G, 3G, 4G และ 5G ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานวิทยุเซลลูลาร์ทุกรุ่น ทั้ง 2G, 3G และ 4G/LTE และ 5G ที่มีการปรับใช้ เวอร์ชวล 5G ยังให้บริการบรอดแบนด์มือถือ 5G ผ่านเทคโนโลยีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นวิทยุเซลูลาร์ ไวไฟ และการสื่อสารผ่านดาวเทียม ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่พีที บีดีไอ ดำเนินการเพื่อให้บริการแก่ชุมชนในชนบทและเขตเมือง เช่น หมู่บ้าน อำเภอ และเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศอินโดนีเซีย โดยเวอร์ชวลซอฟต์แวร์ 5G พร้อมใช้งานในเวลาเพียงไม่กี่วินาที รองรับข้อมูลได้ไม่จำกัด และรองรับโครงสร้างพื้นฐาน 5G โดยนี่เป็นเพียงไม่กี่เหตุผลที่เวอร์ชวล 5G สามารถสร้างประโยชน์ให้กับอินโดนีเซีย
อินโดนีเซียมอบโอกาสที่ไม่เหมือนใครให้กับเวอร์ชวล อินเทอร์เน็ต ด้วยพีที เอบีซี และพีที บีดีไอ
อินโดนีเซียมีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของโลก และอินโดนีเซียเป็นประเทศเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก อินโดนีเซียมีความท้าทายเฉพาะตัวในการเปิดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์มือถือ 5 G ทั่วประเทศ โดยประชากร 43% หรือเกือบครึ่งหนึ่งของอินโดนีเซียนั้นอาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบท ซึ่งมากเป็น 2 เท่าของภูมิภาคอื่น เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ประชากรสหรัฐ 83% อาศัยอยู่ในเขตเมือง ประชากรชาติสมาชิก EU ทั้ง 28 ประเทศ ถึง 72.5% อาศัยอยู่ในเมือง และประชากร 81.2% ในลาตินอเมริกาและแคริบเบียนอาศัยอยู่ในเขตเมือง ชาวอินโดนีเซียทั้งในพื้นที่ชนบทและในเมืองต่างต้องการและต้องมีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสำหรับกิจกรรมออนไลน์ พีที บีดีไอ จึงมุ่งเน้นที่การยกระดับบริการในชนบท ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญเป็นพิเศษต่ออินโดนีเซีย ทั้งนี้ ชาวอินโดนีเซียมีความเข้าใจด้านดิจิทัลอย่างมาก โดยอินโดนีเซียเป็นผู้นำระดับโลกด้านการใช้บริการอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย ข้อตกลงทางการค้านี้แสดงให้เห็นว่าอีโคซิสเต็มทางดิจิทัลในอินโดนีเซียใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่และที่มีอยู่แล้ว เพื่อตอบโจทย์เฉพาะตัวของอินโดนีเซียในการสร้างบริการบรอดแบนด์มือถือระดับโลกเพื่อชาวอินโดนีเซียทุกคน
เวอร์ชวล 5 G พร้อมให้บริการทันทีแก่ชาวอินโดนีเซียเกือบ 300 ล้านรายซึ่งใช้งานอุปกรณ์เกือบ 450 ล้านเครื่อง โดยคิดค่าสมัครสมาชิกรายปี 6 ดอลลาร์สหรัฐต่อเครื่อง และเน้นย้ำถึงประโยชน์หลักของเวอร์ชวล 5G ทั้งนี้ การใช้แนวทางซอฟต์แวร์เวอร์ชวล 5G จะช่วยให้สามารถเปิดตัวบริการบรอดแบนด์มือถือความเร็วสูงแห่งศตวรรษที่ 21 ทั่วประเทศอินโดนีเซียได้ทันที โดยการใช้ OTT เพื่อส่งมอบบรอดแบนด์มือถือ 5G เป็นขั้นตอนเชิงพาณิชย์ที่สำคัญและสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางที่ครอบคลุมในการพลิกโฉมภูมิทัศน์ดิจิทัลของอินโดนีเซียอย่างรวดเร็ว และนำเสนอบริการบรอดแบนด์มือถือ 5G ให้กับหนึ่งในประเทศที่มีประชากรใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดในโลกได้อย่างราบรื่น
ในฐานะที่เป็นบรอดแบนด์มือถือ 5 G ระดับโลกเพียงเจ้าเดียวในโลกที่มีผู้ใช้หลายล้านคนในกว่า 150 ประเทศ ซอฟต์แวร์เวอร์ชวล 5G ได้มีการปรับใช้ในเครือข่ายโทรคมนาคมแบบดั้งเดิมต่าง ๆ จำนวนมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเวอร์ชวล 5G นั้นสอดรับกับเครือข่าย 3G, 4G/LTE, 5G ที่มีอยู่ในอินโดนีเซียและทั่วโลก อินโดนีเซียกำลังมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและจำเป็นต้องมีการยกระดับทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วด้วย โดยเฉพาะในด้านบรอดแบนด์มือถือ เพื่อให้อินโดนีเซียได้ขยายจุดยืนในฐานะศูนย์กลางโอกาสทางเศรษฐกิจในเอเชีย รวมถึงปลดล็อกศักยภาพด้านดิจิทัลของตน เทคโนโลยี 5G ยังไม่น่าจะมีการนำไปใช้อย่างแพร่หลายไปจนกว่าจะหมดทศวรรษนี้ หรือราว ๆ ปี 2573 โดยเวอร์ชวล 5G จะเข้ามาอุดช่องว่างนี้ และยกระดับเครือข่ายโครงสร้าง 5G พื้นฐานในเวลาและจุดที่สร้าง ปัจจุบัน เวอร์ชวล 5G มีให้บริการทั่วโลกในรูปแบบที่เคลื่อนย้ายได้และไร้พรมแดน เคลื่อนที่ไปพร้อมกับผู้ใช้งาน พร้อมให้บริการแก่คนกว่า 6.5 พันล้านคนใน 150 ประเทศทั่วโลกทั่วทุกทวีป และรองรับโทรศัพท์ทุกรุ่น (เช่น 3G, 4G/LTE, 5G) ทำให้ไม่ต้องรอใช้บริการ 5G
