เชื่อว่ายังมีมือใหม่หลายคนที่ไม่สามารถตัดสินใจเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะสมกับรถของตนเองได้ โดยในวันนี้จะมาแนะนำยางรถยนต์และวิธีการเลือกซื้อให้ตรงกับการใช้
งานในชีวิตประจำวัน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้
โดยหลัก ๆ ยางรถยนต์จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ตามชนิดของรถ ได้แก่ ยางรถเก๋ง ยางรถกระบะ และยางรถยนต์อเนกประสงค์หรือ SUV นอกจากนี้ยังแยกย่อยตามลักษณะการใช้งานออกไปอีก เช่น ยางรถสปอร์ตสมรรถนะสูง ยางรถประหยัดน้ำมัน ยางนุ่มเงียบ ยางออฟโรด และยางรันแฟลต ซึ่งจะมีวิธีในการเลือก ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ไปดูกัน
ยางนุ่มเงียบ
ยางรถที่นุ่มเงียบ จาก Bridgestone จะมีการออกแบบบล็อกของดอกยางที่มีลักษณะแตกต่างกัน เพื่อช่วยลดเสียงรบกวนของยางขณะขับขี่ ร่องยางมีการปรับองศาที่เหมาะสมเพื่อลดแรงกระแทก บริเวณหน้ายางมีการกระจายแรงกดให้สม่ำเสมอ พร้อมเสริมความแข็งแกร่งของแก้มยางให้ได้รับการสั่นสะเทือนน้อยที่สุด ยางยี่ห้อไหนนุ่มเงียบ จะตรงกับรุ่น ยางรถยนต์ Bridgestone TURANZA T005A กลุ่มรถยนต์ที่นิยมใช้ยางประเภทนี้ ได้แก่ Jaguar XJ, Lexus ES, Benz E- Class, BMW 5-Series, Honda Accord, Honda City, Toyota Camry, Toyota Altis
ยางรถสปอร์ตสมรรถนะสูง
สำหรับยางรถสปอร์ตที่เน้นความเร็ว แรง เข้าโค้ง
แม่นยำ ปลอดภัย เบรกสั่งได้ เป็นยางที่ยกระดับของการขับขี่ที่ตอบสนองความเร็ว การเข้าโค้งและเบรกสั่งได้เหมือนรถแข่งในสนาม ด้วยวัสดุที่ใช้ในการผลิตจึงทำให้ดอกยางมีความแข็งแรง ลดการโยนตัวในการเข้าโค้งและตอบสนองต่อพวงมาลัยได้ดีในการขับขี่ ซึ่งดอกยางจะมีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ คือ ดอกยางแบบ Directional และดอกยางแบบ Asymmetric จะแตกต่างกันออกไปตามการใช้งาน เช่น ดอกยางแบบ Asymmetric จะเข้าโค้งได้
แม่นยำ ยึดเกาะถนนได้ดี ในขณะที่ดอกยางแบบ Directional จะช่วยรักษาสมดุลในการใช้งานทางตรงและขับขี่ด้วยความเร็วสูง ตัวอย่างยาง Bridgestone ที่รถเก๋งสปอร์ตเลือกใช้กัน ได้แก่ POTENZA ADRENALIN RE004 และกลุ่มรถยนต์ที่นิยมใช้ยางประเภทนี้ ได้แก่ Mercedes Benz C – Class, BMW 3 Series, Honda Accord, Toyota Camry, Toyota Altis, Honda CRZ, Honda Civic, Mazda 3
ยางประหยัดน้ำมัน
ยางรถประหยัดน้ำมันโดยส่วนใหญ่จะได้รับการออกแบบของลายดอกยางให้มีทิศทางการหมุนไปในทิศทางเดียวกัน วัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสมของยางสามารถลดการเสียดสีของพื้นถนนและด้วยเทคโนโลยีการผลิตยังช่วยจัดเรียงโมเลกุลของยางให้วางเป็นระเบียบไม่กระจัดกระจายยิ่งช่วยลดการเสียดสีของยางลงได้ ตัวอย่างรถที่ใช้ยางประเภทนี้ ได้แก่ รถ Eco-Car หรือรถ City Car ที่เน้นการใช้งานในเมืองเป็นหลัก เช่น Toyota Yaris, Toyota Altis, Honda Jazz, Nissan March ส่วนยางที่เหมาะสมได้แก่ ยางรถยนต์ Bridgestone ECOPIA EP300 เป็นต้น
ยางออฟโรดหรือยางรถกระบะสมรรถนะสูง
เป็นยางที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อลุยโดยเฉพาะ วิ่งทางฝุ่น ทางขรุขระ และตะกุยดินได้ดี บังคับได้คล่อง แข็งแรงทนทาน วิ่งทางฝุ่นก็สนุกหรือจะวิ่งทางเรียบก็ดีเพราะเกาะถนนได้เยี่ยม รีดน้ำเป็นเลิศ เหมาะกับรถกระบะ รถ 4x4 หรือ SUV ที่เน้นลุยเป็นหลัก เช่น Toyota Revo, Toyota Vigo, Toyota Fortuner, Nissan Navara, Ford Ranger, Mazda BT50, Isuzu D-Max, Isuzu MU-X มีให้เลือก 3 แบบ ตามการใช้งาน ได้แก่ ยาง H/T, ยาง A/T และ ยาง M/T ยางที่แนะนำได้แก่ ยาง DUELER H/T 840, H/T 684 H/T 689, DUELER A/T 001, A/T 693
ยางรันแฟลต
Run Flat หรือยางรถยนต์สมัยใหม่ที่ได้รับการออกแบบให้สามารถวิ่งได้แม้ประสบเหตุยางรั่วหรือแบน โดยไม่ต้องหยุดพัก แต่อาจต้องลดระดับความเร็วลงมาเพื่อความปลอดภัย เหมาะกับรถที่เดินทางไกลหรือคนขับเป็นผู้หญิงที่ต้องเดินทางคนเดียว ในปัจจุบันยางรันแฟลตอาจยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควรเพราะมีราคาค่อนข้างสูง แต่สามารถเห็นได้ในรถหรูราคาแพง เช่น Benz BMW ตัวอย่างยางรันแฟลตจาก Bridgestone ได้แก่ Bridgestone POTENZA S001 RFT เป็นต้น
สำหรับใครที่กำลังมองหายางรถยนต์และยังไม่รู้ว่าจะ
เปลี่ยนยางรถยี่ห้อไหนดี เพื่อที่จะได้รับความปลอดภัยในการขับขี่และเดินทางอย่างสะดวกสบาย ขอแนะนำยางรถยนต์ Bridgestone นุ่มเงียบ รุ่นต่าง ๆเหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย