หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: ค่าตรวจสุขภาพโรงพยาบาลรัฐบาล ราคาเท่าไร? แพงไหม?  (อ่าน 24 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 12 เม.ย. 22, 14:55 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 


“ตรวจสุขภาพโรงพยาบาลรัฐฯ” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มงานใหม่และจำเป็นจะต้องตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงาน หรืออาจเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายแต่อยากประหยัดค่าใช้จ่าย แล้วค่าตรวจสุขภาพในโรงพยาบาลของรัฐมีราคาเท่าไร? แต่ละแห่งมีให้บริการอะไรบ้าง?

ตรวจสุขภาพโรงพยาบาลรัฐ ที่ไหนบ้าง?

1.โรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ (http://www.nkp-hospital.go.th/th/healthCheckup.php )
•โปรแกรมมาตรฐาน1,370บาท
•โปรแกรม Premium ชาย1,900บาท
•โปรแกรม Premium หญิง2,480บาท

2.โรงพยาบาลตำรวจ (http://www.policehospital.org/content/news.php?ID=6997&dept=27)
•โปรแกรม Economic ตรวจ 12 รายการ 1,000 บาท
•โปรแกรมตรวจสำหรับผู้มีอายุน้อยกว่า 30 ปี ตรวจ 19 รายการ 1,770 บาท
•โปรแกรมตรวจสำหรับผู้มีอายุ 30-40 ปี ตรวจ 25 รายการ 2,420 บาท
•โปรแกรมตรวจสำหรับผู้มีอายุ 40 ปี ตรวจ 28 รายการ 2,773 บาท
•โปรแกรม Premium ตรวจ 35-36 รายการ7,093 บาท

3.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ (https://chulalongkornhospital.go.th/kcmh/annual-checkup-program/)
•โปรแกรมที่ 1 ตรวจสุขภาพทั่วไป 4 รายการ สำหรับผู้ที่อายุน้อยกว่า 35 ปี 410 บาท
•โปรแกรมที่ 2 สำหรับผู้ที่อายุ 35 ปีขึ้นไป ตรวจ 10 รายการ 1,180 บาท

4.โรงพยาบาลราชวิถี (https://www.rajavithi.go.th/rj/?page_id=475)
•โปรแกรมตรวจสุขภาพขั้นพื้นฐาน 11 รายการ 1,490 บาท

5.โรงพยาบาลศิริราช (https://www.si.mahidol.ac.th/sirirajhospital/SirirajCheckupCenter.php )
•สำหรับผู้ที่อายุน้อยกว่า 35 ปี975 บาท
•สำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 35-50 ปี1,460 – 2,050บาท
•สำหรับผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไป 2,130 – 2,300บาท

6.โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี (http://www.nopparat.go.th/nrhweb62/pagetbody_check.php )
•สำหรับผู้ที่อายุระหว่าง 15-35 ปี730 บาท
•สำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 35-45 ปี1,560บาท
•สำหรับผู้ที่อายุ 45 ปีขึ้นไป 1,860บาท

7.โรงพยาบาลรามาธิบดี https://www.rama.mahidol.ac.th/sdmc/sites/default/files/public/%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E_3.pdf
•โปรแกรม 1 (สำหรับผู้ที่มีอายุ 15-30 ปี)2,490บาท
•โปรแกรม 2 (สำหรับผู้ที่มีอายุ 31-40 ปี)2,640 – 3,810บาท
•โปรแกรม 3 (สำหรับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป)6,640 – 11,990บาท

ตรวจสุขภาพประจำปี ต้องตรวจอะไรบ้าง?

1.ตรวจสุขภาพกลุ่มคนวัยทำงาน ที่มีอายุระหว่าง 18 – 60 ปี
•ตรวจสุขภาพช่องปาก ควรได้รับการตรวจสุขภาพช่องปากและฟันจากทันตแพทย์หรือทันตภิบาลเป็นประจำทุกปี ปีละ 1 ครั้ง
•ตรวจการได้ยิน ควรได้รับการตรวจการได้ยินด้วยการใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ถูกันเบา ๆ ห่างจากรูหูประมาณ 1 นิ้ว ปีละ 1 ครั้ง
•ประเมินสภาวะสุขภาพ ทั้งความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ภาวะซึมเศร้า การติดนิโคตินในผู้สูบบุหรี่ (ตรวจเฉพาะผู้ที่สูบบุหรี่) การดื่มแอลกอฮอล์ (ตรวจเฉพาะผู้ที่ดื่ม) การใช้ยาและสารเสพติด (ตรวจเฉพาะผู้ที่ใช้สารเสพติด)
•การถ่ายภาพรังสีทรวงอก (Chest x-ray) : ช่วยตรวจหาวัณโรค โรคปอดเรื้อรังบางชนิด หรือรอยโรคผิดปกติอื่น ๆ ในปอด (เฉพาะคนที่มีความเสี่ยง เช่น คนที่ไอเรื้อรัง เจ็บหน้าอก หรือมีอาการสงสัยว่าป่วยเป็นวัณโรค และมะเร็งปอด)
•ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC) : ช่วยในการตรวจคัดกรองภาวะโลหิตจาง รวมทั้งอาจตรวจพบความผิดปกติอื่น ๆ เช่น เม็ดเลือดหรือเกล็ดเลือดผิดปกติ
•ตรวจระดับไขมันในเลือด : ควรตรวจระดับไขมันในเลือดทุก 5 ปี เพื่อช่วยประเมินความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
•ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด : อายุ 35 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดทุก 3 ปี เพื่อช่วยตรวจกรองความเสี่ยงโรคเบาหวาน ( หากมีเครื่องตรวจเบาหวานเป็นของตนเอง ควรตรวจเป็นประจำทุกเดือน
•ตรวจปัสสาวะ : เพื่อช่วยตรวจคัดกรองโรคไตบางชนิด
•ตรวจอุจจาระ : บุคคลตั้งแต่อายุ 50 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจอุจจาระ เพื่อคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง ปีละ 1 ครั้ง
•ตรวจวัดระดับกรดยูริก : เพื่อช่วยประเมินระดับกรดยูริกซึ่งอาจมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคเกาต์หรือนิ่วกรดยูริก (ตรวจเฉพาะคนที่มีอาการปวดข้อ มีอาการข้ออักเสบ หรือข้อพิการ ซี่งสุ่มเสี่ยงเป็นโรคเกาต์เท่านั้น)
•การตรวจการทำงานไต : เพื่อเช็กสมรรถภาพการทำงานของไต
•การตรวจการทำงานตับ : เพื่อเช็กการทำงานของตับ
•ตรวจเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg) : เฉพาะคนที่เกิดก่อนปี พ.ศ. 2535 ควรได้รับการตรวจเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg) โดยตรวจเพียงคร้ังเดียว

2.ตรวจสุขภาพเพิ่มเติมสำหรับเพศหญิง
•ตรวจเต้านม : ผู้หญิงในช่วงอายุ 30-39 ปี ควรได้รับการตรวจเต้านมทุก ๆ 3 ปี จากแพทย์หรือบุคลากรสาธารณสุข ที่ได้รับการฝึกอบรม และอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจเต้านมเป็นประจำทุกปี
•ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก : ผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจคัดกรองด้วย Pap’s smear ทุก 3 ปี หรือวิธีป้ายหาความผิดปกติโดยใช้กรดอะซิติก (VIA) ทุก 5 ปี ทว่าหากมีอายุ 35 ปีขึ้นไป ควรตรวจด้วยวิธี Pap’s smear แม้ว่าจะเคยหรือไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ก็ตาม


การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นจะช่วยให้รู้สภาวะปัจจุบันของร่างกาย เพื่อหาทางป้องกันการเกิดโรคและส่งเสริมสุขภาพให้มีร่างกายที่แข็งแรง บรรเทาอาการเจ็บป่วยหรือรักษาได้อย่างทันท่วงที ช่วยลดความเสี่ยงทางการเงินให้คุณจากโรคร้าย ประกันภัยโรคมะเร็งจากสินมั่นคงประกันภัย จ่ายเป็นเงินก้อน (เต็มทุนประกัน) ให้ทันทีที่ตรวจพบโรคมะเร็งครั้งแรก ไม่จำกัดวิธีการรักษา สนใจรายละเอียด คลิก https://www.smk.co.th/producthealthdetail/6 หรือ โทร.1596 Line : @smkinsurance
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Tags:  

หน้า: 1

 
ตอบ
ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:   Go
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม