เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา และ นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงสถานการณ์วิกฤตด้านอาหารที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ และมีแนวโน้มเพิ่มความรุนแรงขึ้น เป็นเหตุให้ประเทศไทยต้องเฝ้าระวังและเร่งปรับตัว พร้อมเตรียมแผนรับมือทั้งภาครัฐและเอกชน เพราะสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลต่อคุณภาพของชีวิตประชาชน
นายวราวุธ กล่าวว่า หลังวิกฤติโควิดระบาดทั่วโลกกว่า 2 ปี อาหารทั่วโลกแพงขึ้นอย่างรวดเร็ว ราคาวัตถุดิบทางการเกษตรไปจนถึงต้นทุนราคาปุ๋ย ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากผลพวงของสงครามรัสเซีย-ยูเครน และล่าสุดจากการระบาดใหม่ ของโรคฝีดาษลิง ส่งผลให้ในขณะนี้ มี 14 ประเทศทั่วโลก ได้ห้ามการส่งออกอาหาร เพื่อกักตุนไว้บริโภคเองภายในประเทศแล้ว ซึ่งจะส่งผลให้เกิด วิกฤตอาหารโลก Global Food Crisis
ทั้งนี้ นอกจากปัจจัยข้างต้นที่กล่าวมา ที่ทำให้ปริมาณผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำลง จนมีราคาสูง ปฏิเสธไม่ได้ว่า "ภาวะโลกร้อน" ที่ทำให้สภาพอากาศในหลายประเทศแปรปรวนอย่างหนัก ก็เป็นภัยคุกคามต่อเนื่อง ต่อภาคเกษตร ด้วยเช่นกัน ตนในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมมือกับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผลักดันนโยบายด้านการเกษตรของพรรคชาติไทยพัฒนา โดยหนึ่งในโครงการที่เร่งผลักดันอยู่ เพื่อรับมือวิกฤตความมั่นคงด้านอาหาร ก็คือ แนวคิดการทำนาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน จากโครงการ Thai Rice NAMA ( ไทย ไรซ์ นามา) โครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ที่ได้เข้ามาช่วยพี่น้องเกษตรกรไทย ให้ผลิตข้าวมากขึ้น โดยการใช้เทคโนโลยีเพิ่มผลผลิตและลดโลกร้อน ตามมาตรการ “3 เพิ่ม 3 ลด” คือ "เพิ่มผลผลิตข้าว เพิ่มคุณภาพข้าว เพิ่มรายได้ ลดต้นทุนการผลิต ลดการใช้น้ำ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก" เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนให้กับเกษตรกรไทย
โดยปัจจุบันมี เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่ภาคกลางเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 25,000 ราย และจะเร่งรณรงค์ ขยายผลโครงการไปยังภูมิภาคอื่นๆ พร้อมเผยแพร่องค์ความรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนเสริมสร้างความตระหนักรู้ และความสําคัญของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อไปด้วย
ด้านนายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวถึงภาคเกษตร ว่าขณะนี้กระทรวงกำลังเตรียมแผนรับมือวิกฤตความมั่นคงด้านอาหารโลก เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์แนวโน้มวิกฤตอาหารโลก ซึ่งขณะนี้ หลายประเทศได้มีมาตรการหยุดการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์สำคัญอย่าง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ข้าวสาลี เรปซีดออยล์ และน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อสำรองอาหารและพลังงานไว้เพื่อความมั่นคงในประเทศ สำหรับประเทศไทย ด้านการเกษตร มีแผนการผลิตข้าวในปี 65/66 บนพื้นที่ 66.2 ล้านไร่ มีการคาดการณ์ผลผลิตจะมี 30 ล้านตันข้าวเปลือก แยกเป็นรอบที่ 1 พื้นที่ 59.4 ล้านไร่ คาดการณ์ผลผลิต 25.5 ล้านตันข้าวเปลือก และรอบที่ 2 พื้นที่ 6.8 ล้านไร่ คาดการณ์ผลผลิต 4.4 ล้านตันข้าวเปลือก โดยพื้นที่และผลผลิตข้าวรอบที่ 2 สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เช่น สถานการณ์ราคา และภัยธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ภาวะโลกขาดแคลนอาหารครั้งใหญ่ ย่อมมีผลกระทบกับประเทศไทยและอีกหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก การอัดฉีดงบประมาณ และการนำความรู้และเทคโนโลยีสู่เกษตรกร ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง และเข้มข้นมากยิ่งขึ้น โดยจะเร่งผลักดันแผนรับมือนี้ไปประยุกต์เข้าสู่โครงการในปัจจุบันและโครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้นต่อไป
#ความมั่นคงด้านอาหาร #วราวุธศิลปอาชา #พรรคชาติไทยพัฒนา #เข้าใจจริงทุกปัญหาพัฒนาทุกชีวิต