จนผมเรียนจบออกมา ผมได้มาทำงาน ผมมีอนาคตที่ดี(เรียกว่าดีมากๆเลยครับ) ผมได้ทำงานมาอีก4ปี ผมแต่งงานกับแฟนคนปัจจุบันพร้อมจะสร้างครอบครัวของผมแล้ว วันหนึ่งผมได้รับโปรเจ็คจากหัวหน้า ว่าอยากได้โปรเจ็คมาทางแนวนี้ๆนะ แล้วด้วยความโลกทุกวันนี้คนเข้าถึงเทคโนโลยีกันไวครับ ชอบอะไรๆที่เป็นเฟรนลี่ยูสเซอร์ แล้วโปรดัคที่ผมทำคือโปรดัคที่ช่วยคนจากโรคซึมเศร้าผ่านแอปพลิเคชั่นตัวนึง ผมเต็มที่กับงานครับ ผมอยากให้งานผมออกมาดูดี ผมทั้งไปหอศิลตามจังหวัดต่างๆสำรวจงานทั้งในอินเตอร์เน็ตและผลงานที่ไปดูตามนิทรรศการ (บอกตรงๆผมก็ไม่มีความรู้เรื่องภาพหรอก) แต่ผมไล่ๆหามาก็มีอันโดนใจบ้างไรบ้าง ผมก็ติดต่อไปหาเจ้าของผลงานเพื่อที่จะนำภาพเหล่านั้นไปใส่ไปตกแต่งไว้ในอินเตอเฟส โดยทางบริษัทผมเค้าก็ยินดีที่จะออกค่าใช้จ่ายให้กับผลงานเหล่านั้นเพื่อมานำเสนอไว้ในแพลตฟอม จนผมไปเจอเพจๆหนึ่งเป็นเพจเกี่ยวกับรูปภาพ ผมก็ไล่ๆดูไปนะ จนไปสะดุดตากับผลงานผลงานหนึ่ง (เรานั่งมองผลงานแกแล้วตอนนั้นเรายังไม่รู้ด้วยซ้ำนะว่าแกเป็นคนทำงานชิ้นนี้ออกมางานแกสวยมากจิงๆนะเรารู้อยู่แล้วว่าแกเก่งด้านนี้ เราชอบงานตัวกาตูนที่แกเคยวาดให้เราตอนสมัยเราเด็กๆ ที่เราชอบเอาตัวกาตูนนั้นมาตั้งเป็นรุปโปรไฟ แล้วเรายังจะเอารูปตัวกาตูนนั้นมาเป็นโลโก้บริษัทเราเลยนะถ้าเรามีปัญญาเปิดบริษัทอะ ) ผมรู้สึกนึกถึงต้องคนที่เป็นรักแรกของผมได้(หาว่าเราบ้าก็ได้นะ)ผมว่าเออแม้งงานนี้แม้งโดนหวะ เลยหาข้อมูลเจ้าของผลงาน .....ครับงานชิ้นนี้เป็นของน้องคนนั้นจริงๆ ผมถึงกับหายใจไม่ทั่วท้องเลย มันจุกไปหมด ทุกอย่างมันไหลเข้ามาหมด เราอยากจะขอบคุณแกมากๆนะแกคือส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตเรามีทุกวันนี้ได้ แกคือส่วนหนึ่งที่ทำให้เราเป็นลูกผู้ชายแบบในวันนี้ได้ เรายินดีกับรักครั้งใหม่ที่แกเลือกนะแกดูมีความสุขมาก เราอยากจะขอโทษแกกับทางครอบครัวแกมากๆนะ เราขอโทษจริงๆกับเรื่องเลวร้ายที่ผ่านมา ทุกวันนี้มันเหมือนตราบาปเราเลยถ้าเรานึกถึงเรื่องที่เราทำกับแกไว้เราจะเจ็บปวดทางความรู้สึกมากๆเราอยากขอขมาแกจริงๆนะ เรามั่นใจว่าถ้าแกเข้ามาอ่านเรื่องของเราแกต้องรู้แน่อะว่าเราเป็นใคร นั้นหละ เราขอโทดนะเว้ยขอโทดจริงๆ