เข้าสู่ช่วงฤดูฝนที่มีฝนตกโปรยปรายเกือบทุกวันเช่นนี้
อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมได้ในหลายพื้นที่ ผู้ใช้รถใช้ถนนหลายคนก็มีความจำเป็นต้องขับรถลุยน้ำท่วมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน แต่มีความเชื่อหนึ่งที่ว่าขับรถลุยน้ำ “ต้องปิดแอร์” เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องยนต์ แท้จริงแล้วเป็นเช่นนั้นหรือไม่? พวกเราครอบครัวอมรเพรสทีจจะพาไปหาคำตอบกัน...
ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าการปิดระบบปรับอากาศภายในรถ (หรือการกดปุ่ม A/C เพื่อปิดระบบทำความเย็น) จะเป็นการตัดการทำงานของพัดลมแอร์ หรือ พัดลมหม้อน้ำ ช่วยป้องกันไม่ให้พัดลมเอาน้ำขึ้นมาทำอันตรายต่อเครื่องยนต์ รวมถึงป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับตัวพัดลมเอง แต่เหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อระดับน้ำสูงถึงระดับพัดลมเท่านั้น
ดังนั้น การปิดแอร์ขณะลุยน้ำท่วมจึงดูที่ระดับความลึกของน้ำเป็นหลัก หากเป็นน้ำตื้นๆ ที่พอจะใช้ความเร็วได้ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องปิดแอร์แต่อย่างใด แต่หากระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นจนแตะพื้นใต้ท้องรถ แสดงว่ามีโอกาสเสี่ยงที่น้ำอาจทำอันตรายต่อเครื่องยนต์ได้แล้ว
หากเป็นเช่นนี้ให้รีบปิดแอร์โดยทันที จากนั้นใช้ความเร็วต่ำ หลีกเลี่ยงการใช้รอบเครื่องยนต์สูงโดยไม่จำเป็น ใช้ความเร็วคงที่จนกว่าระดับน้ำจะค่อยๆ ลดลง เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้คุณขับรถลุยน้ำได้อย่างปลอดภัยแล้ว
เมื่อผ่านการลุยน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้ทำการย้ำแป้นเบรกเบาๆ 2-3 ครั้งในขณะรถเคลื่อนที่ เพื่อเป็นการไล่น้ำที่เกาะอยู่บนจานเบรก จะช่วยป้องกันอาการเบรกลื่น ลดโอกาสขับรถชนท้ายคันหน้าได้อีกด้วย
