หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: เตือนหมูเถื่อนเสี่ยงสารเร่งเนื้อแดง-ทำลายห่วงโซ่ผลิต  (อ่าน 30 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 12 ก.ย. 22, 15:17 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

นายสัตวแพทย์วรวุฒิ ศิริปุณย์ รองเลขาธิการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และประธานชมรมผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า หมูเถื่อนที่มีการลักลอบนำเข้ามาเป็นจำนวนมาก และมีการจับกุมต่อเนื่องโดยเจ้าหน้าที่รัฐ มีโอกาสปนเปื้อนสารเร่งเนื้อแดง เนื่องจากหมูลักลอบนำเข้าผิดกฎหมาย เป็นเนื้อหมูและชิ้นส่วนที่คนอเมริกาและยุโรปไม่บริโภค ไม่ว่าจะขา หัว และเครื่องในหมู


ดังนั้น การลักลอบนำเข้าจึงเป็นการสร้างมูลค่าให้กับขยะเหลือทิ้ง แทนที่จะต้องทำลาย ซึ่งชิ้นส่วนต่างๆ ที่มีการนำเข้ามานี้ เต็มไปด้วยสารแรคโตพามีน ที่ผู้เลี้ยงหมูสหรัฐฯ และบางประเทศของยุโรปสามารถใช้ในการเลี้ยงได้อย่างเสรี

สำหรับประเทศไทย มีประกาศในกฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ “ห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยงหมูอย่างเด็ดขาด” ผู้ใดลักลอบใช้ถือว่าผิดกฎหมายมีโทษหนักทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเป็นไปตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ.2545 จนกระทั่งมีการปรับปรุงประกาศฯ เมื่อ พ.ศ.2559 เรื่องกำหนดวัตถุดิบที่ห้ามใช้เป็นส่วนผสมในอาหารสัตว์ รวมถึงประกาศกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2546

“หมูเถื่อน เป็นหนึ่งในภัยใกล้ตัวพวกเรามาก เนื่องจากเป็นอันตรายทั้งต่อผู้บริโภค ผู้เลี้ยง และอุตสาหกรรมโดยรวม ซึ่งผู้บริโภคซื้อเนื้อหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดงตกค้างไปรับประทาน อาจก่อให้เกิดอันตราย อาทิ อาการหัวใจเต้นผิดปกติ นอนไม่หลับ คลื่นไส้ อาเจียน และจะแสดงอาการอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกับกลุ่มสตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคไฮเปอร์ไทรอยด์ ซึ่งในสถานการณ์เงินเฟ้อสูง ผู้บริโภคจะเลือกของถูก แต่อาจไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยงที่จะได้รับสารสะสมในอนาคต” นายสัตวแพทย์วรวุฒิ กล่าว

นอกจากนี้ หมูเถื่อนยังเป็นปัจจัยสำคัญที่บิดเบือนกลไกราคา เพราะเป็นชิ้นส่วนที่ตลาดต่างประเทศไม่ต้องการ ทำให้สามารถขายในราคา 135-145 บาทต่อกิโลกรัมได้ เทียบกับหมูเนื้อแดงไทยขณะนี้ที่ราคา 200 บาทต่อกิโลกรัม ราคาหมูผิดกฎหมายล่อใจผู้บริโภคมาก ซึ่งเป็นราคาที่ไม่สะท้อนต้นทุนแท้จริงของเกษตรกรไทยที่มีต้นทุนสูงมาก จากการทำระบบไบโอซีเคียวริตี้เพื่อป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกร (African Swine Fever: ASF) และยังต้องแบกรับภาระวัตถุดิบอาหารที่ปรับสูงขึ้น 30% ราคาน้ำมันจากผลของสงครามรัสเซีย-ยูเครน หรือแม้แต่ค่าไฟฟ้า รวมถึงค่าแรงที่มีแนวโน้มปรับขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งบั่นทอนความมั่นคงในอาชีพของผู้เลี้ยงหมู

นายสัตวแพทย์วรวุฒิ กล่าวว่า ต้นทุนการเลี้ยงหมูในต่างประเทศต่ำกว่าของไทยมาก ภาครัฐจึงควรปกป้องและดำเนินการกับหมูเถื่อนอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้ผู้เลี้ยงหมูไทยกว่า 2 แสนคน ที่เลี้ยงหมูได้ 22 ล้านตัวต่อปี ต้องล้มหายตายจากไปหมด และไม่ให้ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปถึงเกษตรกรผู้ปลูกพืชไร่ รวมถึงภาคอาหารสัตว์ และเวชภัณฑ์สัตว์ไทย ที่ทั้งหมดในอุตสาหกรรมเลี้ยงสัตว์ต่างเชื่อมโยงกัน

“ปกติคนเอเชียกินหมูทุกส่วน ทั้งเนื้อหมู หัว เครื่องใน หนัง มัน ฯลฯ โดยเฉพาะคนไทยที่มีวัฒนธรรมการกินที่แตกต่างออกไป ทั้งการกินหมูแบบสุก แบบดิบ กึ่งดิบกึ่งสุก เช่น ลาบ หลู้ และเนื้อแดงๆ ผิดกับชาวยุโรปและอเมริกันที่รับประทานเฉพาะเนื้อหมู ความพยายามส่งผลิตภัณฑ์หมูที่เคลือบสารเร่งเนื้อแดง เป็นของแถมมาให้คนไทยกินนี้ ยังโชคดีที่รัฐบาลไทยยังคงยืนหยัดปกป้องคนไทย ด้วยใช้เหตุผลด้านผลกระทบต่อสุขภาพและสุขอนามัยของประชาชน ในการคัดค้านการนำเข้าชิ้นส่วนหมูมาตลอดจนถึงปัจจุบัน” นายสัตวแพทย์วรวุฒิ กล่าว
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

Tags:  หมูเถื่อน  ผิดกฎหมาย  ASF  หมูติดโรค 

หน้า: 1

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม