ขยายฐานลูกค้า โดยมี design win (ความตกลงการออกแบบเพื่อผลิตขายปริมาณมาก) เพิ่ม 8 รายการ รวมถึงบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ระดับแถวหน้ารายใหม่ 2 ราย
ความแข็งแกร่งของ design win ในไตรมาสสี่ สะท้อนโมเดลธุรกิจแบบไฮบริดที่ผสมผสานระหว่างทรัพย์สินทางปัญญาและซิลิคอน
design win ครั้งที่สองสำหรับผลิตภัณฑ์ออปโตอิเล็กทรอนิกส์
ออกแบบผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ระดับแถวหน้าหลายรายการ รองรับโซลูชันใน 224G, PCI-Express Gen6, CXL3.0, HBM 3.0 และ UCIE
ไตรมาสแรกที่มีโอเพนไฟฟ์รวมอยู่ในเครือแล้ว
ฝ่ายบริหารยังคงมั่นใจในแนวโน้มของธุรกิจ
บริษัทฯ รีแบรนด์เป็นอัลฟาเวฟ เซมิ สะท้อนโมเดลธุรกิจที่ขยายใหญ่ขึ้น
บริษัท อัลฟาเวฟ ไอพี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (Alphawave IP Group plc) (LSE: AWE) ("อัลฟาเวฟ เซมิ" "อัลฟาเวฟ" หรือ "บริษัทฯ") ผู้นำระดับโลกในด้านการเชื่อมต่อความเร็วสูงสำหรับโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีของโลก ยินดีที่ได้เผยแพร่ข้อมูลล่าสุดทางการค้าและธุรกิจสำหรับช่วงระยะเวลาสามเดือนที่สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565

เนื่องจากมีการปัดเศษ ตัวเลขที่แสดงในตารางอาจไม่ได้รวมกันเท่ากับยอดรวมที่ระบุและอัตราเปอร์เซ็นต์อาจไม่สะท้อนตัวเลขจริงอย่างละเอียดเที่ยงตรง
คุณโทนี พิอาลิส ( Tony Pialis) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอัลฟาเวฟ ไอพี กล่าวว่า "เราปิดฉากปีการเงิน 2565 ด้วยแรงผลักดันจาก design win ที่แข็งแกร่งและฐานลูกค้าที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว design win ของเราอาศัยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่กว้างขึ้น โดยยังคงแข็งแกร่งเพราะตอนนี้เราตอบสนองความต้องการการเชื่อมต่อของลูกค้าได้มากขึ้น ทั้งผ่านทรัพย์สินทางปัญญาซิลิคอนและซิลิคอนแบบปรับแต่งเอง ในไตรมาสที่ 4 ปี 2565 เราเห็นประโยชน์ในโมเดลธุรกิจแบบผสมผสานและศักยภาพในการสร้างรายได้จาก IP สมรรถนะสูงของเราผ่านซิลิคอน เมื่อเร็ว ๆ นี้ เรายังได้ออกแบบผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ๆ ในชิปเล็ต 224G, HBM และ UCIE ด้วย ทั้งหมดนี้ทำให้เราตื่นเต้นมากเกี่ยวกับปีข้างหน้า และเรายังคงมั่นใจในศักยภาพการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว"
คุณจอห์น ลอฟตัน โฮลต์ ( John Lofton Holt) ประธานบริหารของอัลฟาเวฟ ไอพี กล่าวว่า "ระดับบุ๊กกิ้งในไตรมาสสุดท้ายของปีสะท้อนให้เห็นศักยภาพการเติบโตในเทคโนโลยีการเชื่อมต่อของเรา และการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องของทีมงาน ความเป็นผู้นำของเราในด้านเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าที่สุดและทีมงานมากความสามารถได้เสริมสร้างศักยภาพการเติบโตระยะยาวของธุรกิจของเรา รวมถึงการสร้างคุณค่าให้กับผู้ถือหุ้นของเราและผู้มีส่วนได้เสียรายอื่น ๆ"
ไฮไลต์สำคัญ
บุ๊กกิ้งสำหรับใบอนุญาตและวิศวกรรมที่ไม่เกิดซ้ำ ("NRE") ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 นี้เพิ่มขึ้น 90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเมื่อรวมถึงตัวเลขประมาณการของค่าสิทธิที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต3 และรายการสั่งซื้อซิลิคอนแล้ว บุ๊กกิ้งใหม่ที่ไม่นับรวมใบอนุญาตระยะหลายปีสำหรับไวส์เวฟ (WiseWave) เพิ่มขึ้น 272% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งบุ๊กกิ้งสำหรับใบอนุญาตและวิศวกรรมที่ไม่เกิดซ้ำในไตรมาสที่สี่นี้ขับเคลื่อนโดยลูกค้าในอเมริกาเหนือและเอเชียแปซิฟิก โดยมาจากจีนไม่ถึง 10%4
ในไตรมาส 4 ปี 2565 เรายังคว้า design win ครั้งที่สองสำหรับผลิตภัณฑ์ออปโตอิเล็กทรอนิกส์มาได้ ซึ่งพุ่งเป้าที่การใช้อีเธอร์เน็ต 800G รุ่นใหม่ design win ครั้งนี้งัดใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาด้านอิเล็กโทรออปติกที่แข็งแกร่งของเรา แสดงให้เห็นศักยภาพในการสร้างมูลค่าจากการที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านการเชื่อมต่อของลูกค้าได้มากขึ้นบุ๊กกิ้งสะสมตลอดวงจรชีวิตของบริษัทฯ ขณะนี้5 สูงกว่า 580 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขยายความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีและการดึงดูดรักษาลูกค้าอย่างแข็งแกร่ง
นับตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา บริษัทฯ ได้แสดงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการเชื่อมต่อในเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมาย และขณะนี้กำลังพัฒนาในระดับ 3 นาโนเมตร โดยบุ๊กกิ้งสำหรับใบอนุญาตและวิศวกรรมที่ไม่เกิดซ้ำในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 ส่วนใหญ่อยู่ในขนาด 7 นาโนเมตร 5 นาโนเมตร และ 4 นาโนเมตร บริษัทฯ คาดว่าจะได้ design win ขนาด 3 นาโนเมตรเพิ่มเติมต่อไป และขณะนี้กำลังทำงานกับคู่ค้าผู้ผลิตงานโลหะในขนาด 3 นาโนเมตรขึ้นไป
นอกจากนี้ ในไตรมาสสี่ บริษัทฯ ยังได้ออกแบบซิลิคอนสำหรับ IP อินเทอร์เฟซแบบ 224G, PCI-Express Gen6, HBM3 และ UCIe ทั้งในกระบวนการ 5 นาโนเมตร และ 4 นาโนเมตร โดย 224G, PCI-Express Gen6, CXL3.0, HBM3 และ UCIe รวมถึงอินเทอร์เฟซเครือข่าย ความจำ และชิปเล็ตรุ่นใหม่ที่มีบทบาทสำคัญสำหรับ AI เซิร์ฟเวอร์ พื้นที่จัดเก็บ และอุปกรณ์เครือข่าย เป็นที่นิยมใช้กันในหมู่ไฮเปอร์สเกลเลอร์ เราหวังใช้ IP ที่มีมากขึ้นนี้ในการส่งมอบโซลูชันการเชื่อมต่อที่สมบูรณ์สำหรับ IP และลูกค้าซิลิคอนปรับแต่งของเรา
อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็มได้ที่ https://www.thaipr.net/general/3290924