หัวเว่ยและพันธมิตรแบ่งปันแนวทางการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างความเท่าเทียมทางดิจิทัลและความยั่งยืน ในงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ประจำปี 2566
หลังจากเปิดตัวโครงการเทคฟอร์ออล (TECH4ALL) งานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส (Mobile World Congress หรือ MWC) ที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ในปีนี้ หัวเว่ย (Huawei) และพันธมิตรก็ได้มาแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและแนวทางปฏิบัติล่าสุดเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยให้เกิดความเท่าเทียมทางดิจิทัลและความยั่งยืน ในการประชุมสื่อมวลชนในวันแรกของงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ประจำปี 2566
คุณเจฟฟรีย์ โจว (Jeffrey Zhou) ประธานฝ่ายการตลาดไอซีทีของหัวเว่ย กล่าวว่า "ความพยายามทั้งหมดของเราในโครงการริเริ่มเทคฟอร์ออลจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากปราศจากเทคโนโลยีและความร่วมมือเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ นับตั้งแต่เปิดตัวโครงการเทคฟอร์ออล โรงเรียนมากกว่า 600 แห่งทั่วโลก ครูและนักเรียนระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนปลายกว่า 220,000 คนในพื้นที่ห่างไกล เยาวชนผู้ว่างงาน ผู้หญิง และผู้สูงอายุ รวมถึงพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติ 46 แห่ง ต่างได้รับประโยชน์จากโครงการเทคฟอร์ออล ในอนาคต เราจะเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมและใช้เทคโนโลยีร่วมกับพันธมิตรระดับโลกของเรา เพื่อสร้างโลกดิจิทัลที่ครอบคลุมและยั่งยืนมากขึ้นสำหรับทุกคน"
ในตอนท้ายของสุนทรพจน์ คุณโจวได้เปิดตัวสิ่งพิมพ์ฉบับพิเศษ เทคฟอร์ออล ดิจิทัล อินคลูชัน (TECH4ALL Digital Inclusion) อย่างเป็นทางการ เพื่อแบ่งปันหลากหลายวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของผู้เชี่ยวชาญและพันธมิตรระดับโลก ผ่าน 15 เรื่องราวใน 3 หัวข้อ ได้แก่ ข้อมูลเชิงลึก เทคโนโลยีที่น่าจับตา และกรณีศึกษา สามารถอ่านและดาวน์โหลดสิ่งพิมพ์ฉบับพิเศษได้ที่เว็บไซต์หัวเว่ย เทคฟอร์ออล
นอกจากนี้ ในการประชุมสื่อมวลชน ตัวแทนจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) และองค์กรเอกชนระดับโลกอย่าง โคลส เดอะ แก็ป (Close the Gap) ได้มาร่วมสำรวจว่าเทคโนโลยีช่วยกระตุ้นการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของภาคการศึกษาและพัฒนาทักษะทางดิจิทัลได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกลและชนบท ซึ่งรวมถึงการมอบการเชื่อมต่อ การขยายความรู้และทักษะทางดิจิทัล และการสนับสนุนหลักสูตรสตีมศึกษา (STEAM) ผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น โอเพน สคูลส์ ฟอร์ ออล (Open Schools for All) ดิจิสคูล (DigiSchool) และ ดิจิทรัค (DigiTruck)
"โรงเรียนดิจิทัลแบบเปิดกว้างแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของการศึกษาในโรงเรียน โดยเป็นแนวทางที่เปิดกว้างในการปรับปรุงระบบการศึกษาใหม่เพื่อให้แน่ใจว่าการศึกษาของโรงเรียน รวมถึงการเรียนรู้ การพัฒนาทักษะ การส่งเสริมค่านิยม และการดูแลสังคม จะปลอดภัยภายใต้สถานการณ์ปกติและสถานการณ์ฉุกเฉิน" ดร. เฟิงชุน เหมียว (Fengchun Miao) หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์เพื่อการศึกษาของยูเนสโก กล่าว "โครงการโอเพน สคูลส์ ฟอร์ ออล ที่มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ ซึ่งเป็นความร่วมมือของยูเนสโกและหัวเว่ยนั้น กำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญต่อการสร้างและทดสอบโรงเรียนดิจิทัลแบบเปิดกว้างในประเทศแถบแอฟริกา ซึ่งโครงการนี้ครอบคลุมนักเรียนกว่า 20,000 คน และครูกว่า 1 ล้านคนในกานา เอธิโอเปีย และอียิปต์"
พร้อมกันนี้ โคลส เดอะ แก็ป ซึ่งเป็นพันธมิตรของเทคฟอร์ออล ได้อธิบายถึงคุณค่าของดิจิทรัคในการจัดฝึกอบรมทักษะทางดิจิทัลฟรีสำหรับชุมชนห่างไกลในแอฟริกา
"เราได้ร่วมมือกับหัวเว่ยในการพัฒนาและใช้งานดิจิทรัคในชุมชนชนบทและรอบนอกเมืองในแอฟริกา โดยมีเป้าหมายหลักในการช่วยให้เยาวชนในชุมชนเตรียมพร้อมสำหรับงานด้านดิจิทัลในอนาคต" คุณโกซา มูเปลา (Ngosa Mupela) ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจและการลงทุนของโคลส เดอะ แก็ป กล่าว
นอกจากนี้ ภายใต้โครงการเทคฟอร์ออล เทคโนโลยียังช่วยจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนและปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ โดยคุณอาร์โน ซิมาดอม (Arno Cimadom) จากอุทยานแห่งชาตินอยซีเดิล ซี-ซีวิงเคิล (National Park Neusiedler See-Seewinkel) ในออสเตรีย ได้สำรวจบทบาทสำคัญของเทคโนโลยีในการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งครอบคลุมถึงการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ และศึกษาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อระบบนิเวศ
"ด้วยเทคโนโลยีใหม่จากหัวเว่ยและพันธมิตร จึงเป็นครั้งแรกที่เราสามารถรวบรวมข้อมูลเสียงได้ 24 ชั่วโมงตลอดทั้งปี จากพื้นที่มากกว่า 60 แห่งในเวลาเดียวกัน และวิเคราะห์ด้วยแบบจำลองเอไอจาก เรนฟอร์เรสต์ คอนเนกชัน (Rainforest Connection) ซึ่งสิ่งนี้ทำให้การวิจัยและการจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำที่ยากต่อการเข้าถึงมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้มีการสำรวจพื้นที่ใหม่ ๆ" คุณอาร์โน ซิมาดอม ตัวแทนจากอุทยานแห่งชาตินอยซีเดิล ซี-ซีวิงเคิล กล่าว
อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็มได้ที่ https://www.thaipr.net/general/3309294
