ปัญหาค่าไฟฟ้าที่พุ่งสูงอย่างต่อเนื่องกำลังส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการธุรกิจให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้นอย่างมากไม่เว้นแม้กระทั่งร้านสะดวกซื้ออย่าง เซเว่นอีเลฟเว่น หรือ 7-ELEVEN ที่กำลังเผชิญปัญหาค่าไฟ จนต้องปรับแผนลดอุณหภูมิภายในร้าน และใช้โซลาร์ รูฟท็อป จากความกังวลของนักลงทุนเรื่องต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะด้านค่าไฟ บริษัทมีการจัดการต้นทุนด้านผ่านการทำ ESG และ Energy Saving ผ่านร้านสะดวกซื้อ “7-Eleven” ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 2,000 สาขาแล้วที่มีการติดตั้ง Solar rooftop ที่ช่วยในการประหยัดการใช้พลัง
งานในร้านเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีการปรับอุณหภูมิในร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ให้เหมาะสมกับช่วงเวลาเพื่อลดจำนวนยูนิตการใช้ไฟลง
อย่างไรก็ดีแนวโน้มต้นทุนค่าพลังงานและก๊าซก็ปรับตัวลดลงด้วย คาดว่าจะส่งผลดีต่อกำไรในช่วงที่เหลือของปี
ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการบริโภคภายในประเทศ และการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนให้เติบโตมากขึ้น อีกทั้งยังมีปัจจัยเชิงบวกชั่วคราวจากการ
เลือกตั้ง โดยเชื่อว่าร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven จะได้รับอานิสงส์จากแคมเปญการหาเสียงทั่วประเทศ
นอกจากนี้ บริษัทตั้งงบลงทุนปีนี้ไว้ราว 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท สำหรับกลุ่มธุรกิจที่สนับสนุนร้านสะดวกซื้อ ศูนย์กระจายสินค้า การรีโนเวตสาขาเดิม และขยายสาขาร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven เพิ่มอีก 700 สาขา จากสิ้นปี 65 อยู่ที่ 13,838 สาขา โดยเชื่อว่าจะสามารถทำให้ยอดขายเติบโตขึ้นได้ราว 5-6% จากปัจจุบันสาขาของร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven แบ่งเป็นสัดส่วนสาขาของบริษัท 49% และสาขาพาร์ตเนอร์อีก 51% โดยกระจายอยู่ในต่างจังหวัด 57% และกรุงเทพฯ 43%
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าจะมีการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิมเพิ่มขึ้น และมีความสามารถทำกำไรได้มากขึ้น จากประชาชนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตในภาวะปกติ มีการเดินทางเพิ่มขึ้น รวมถึงการปรับขึ้นราคาสินค้าบางส่วนให้เหมาะสมกับต้นทุน
“พฤติกรรมของลูกค้ามีการกลับไปใช้ชีวิตในภาวะปกติมากขึ้น แต่พฤติกรรมปรับเปลี่ยนไปในแบบที่เรียกว่า New Normal แม้บางบริษัทจะให้ทำงานที่บ้านมากขึ้น ทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยลดลง แต่ลูกค้ามีพฤติกรรมการซื้อที่ชิ้นใหญ่ขึ้นและมากชิ้นขึ้นขึ้นด้วย ทำให้เชื่อว่ามีโอกาสที่ยอดขายต่อร้านต่อวันจะขึ้นไปอยู่ในระดับก่อนช่วงโควิด-19 ที่ 80,000 บาท/ร้าน/วัน” ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นต้นแบบประหยัดพลังงานแห่งแรกของไทย ที่ได้ผ่านการรับรองอาคารตามเกณฑ์มาตรฐานการประเมินความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อมไทยในระดับสูงสุด แพลทตินั่ม (Platinum) จากสถาบันอาคารเขียวไทย เป็นร้านค้าปลีกแห่งแรกของเมืองไทย
“ร้านเซเว่นฯ สาขาธาราสแควร์ จะเป็นร้านต้นแบบประหยัดพลังงานของบริษัท นับเป็นก้าวสำคัญในการมุ่งสู่ร้านประหยัดพลังงานที่ใส่ใจสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เท่ากับว่าลูกค้าที่มาใช้บริการในร้านจะได้มีส่วนร่วมในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาธาราสแควร์ เปิดดำเนินการเมื่อ พฤษภาคม 2556 ได้รับคำชมและการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้เข้ามาใช้บริการเพราะลูกค้าส่วนใหญ่ของเซเว่น อีเลฟเว่น ให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ธรรมชาติซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบายของบริษัท