เชื่อว่าหลาย ๆคน คงจะเคยซื้อเนื้อหมูมาในปริมาณมาก พอเหลือก็เก็บใส่ช่องแช่แข็งในตู้เย็น เพื่อเก็บไว้ทานในมื้อต่อ ๆ ไป แต่พอนำมาประกอบอาหารแล้วกลับให้เนื้อสัมผัสที่มีความแข็ง เหนียว ไม่นุ่มเหมือนเนื้อหมูที่ซื้อมาสดใหม่
เนื่องจาก หมูแช่แข็ง เป็น เนื้อหมู ที่ถูกเก็บอยู่ในห้องที่มีอุณหภูมิต่ำ จนความชุ่มชื้นภายในเนื้อหมูถูกดูดออกไป ทำให้เนื้อสัมผัสของเนื้อหมูมีการเปลี่ยนแปลงไป

5 ขั้นตอนวิธีจัดการกับ หมูแช่แข็ง อย่างไรให้กลับมาน่าทานอีกครั้ง
การจัดการกับหมู ที่ผ่านการแช่แข็งมาเป็นเวลานานอย่างถูกวิธี จะสามารถช่วยให้เนื้อหมูที่ความมีความกระด้างกลับมานุ่ม และให้รสสัมผัสที่ดีกับจานอาหารอีกครั้ง โดยวิธีทั้ง 5 มีดังนี้
1.ละลายหมูอย่างช้า ๆ
โดยขั้นตอนแรก คือ การทำให้หมูละลาย ซึ่งไม่ควรใช้วิธีการที่รีบเร่ง เนื่องจากอาจทำให้สภาพของเนื้อหมูปรับตัวไม่ทันจากอุณหภูมิที่เปลี่ยนกะทันหัน ควรนำเนื้อหมูออกจากช่องแช่แข็ง โดยเปลี่ยนมาใส่ช่องธรรมดา ภายในตู้เย็น แล้วค่อยนำออกมาแช่น้ำอุณหภูมิห้อง วิธีนี้จะช่วยรักษาความชุ่มชื้นภายในเนื้อหมูไว้ได้
2.การแช่น้ำเกลือ
การแช่น้ำเกลือ เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับการช่วยให้เนื้อหมู ที่ออกมาจากช่องแช่แข็งมีความนุ่ม และละมุนขึ้น โดยการนำหมูลงไปแช่ในน้ำที่ใส่เกลือไว้เล็กน้อยในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อไม่ทำให้รสชาติของหมูเปลี่ยนไป ขั้นตอนนี้สามารถใส่เครื่องเทศ หรือสมุนไพร ลงไปเพิ่มได้หากต้องการจะใช้หมูในการปรุงอาหารทันที จากนั้นนำหมูที่แช่น้ำเกลือใส่ตู้เย็นทิ้งไว้ 30 นาที หลังจากนั้นจึงค่อยล้างออกด้วยน้ำเย็นจัด
3.ใช้ที่ทุบเนื้อ
อุปกรณ์ อย่าง ที่ทุบเนื้อ ถือเป็นอุปกรณ์ที่ทุกบ้านควรมีติดไว้ นอกจากจะสามารถช่วยแปลงสภาพเนื้อหมูให้เป็นหมูบด ยังสามารถช่วยให้เนื้อหมูแช่แข็งของคุณนุ่มขึ้นได้ เนื่องจากความแหลมคมของที่ทุบเนื้อจะลงไปตัดให้เส้นใยภายในเนื้อฉีกขาด จนไร้ซึ่งความเหนียว
4.การเลือกใช้วิธีปรุง
การเลือกใช้วิธีการปรุงอาหาร ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะสามารถกำหนดความนุ่มของเนื้อหมู ที่ออกมาจากช่องแช่แข็งได้ โดยวิธีการปรุงอาหารโดยให้ความร้อนค่อย ๆ เข้าไป อย่างวิธีการต้ม ตุ๋ม หรือ นึ่ง จะช่วยให้เนื้อสัมผัสของหมูมีความละมุนมากขึ้น
5.การพักเนื้อหมู
การพักเนื้อหมูทิ้งไว้ หลังจากการปรุงอาหารเพียง 5 นาที จะช่วยให้ความชุ่มฉ่ำสามารถกระจายไปทั่วชิ้นเนื้อได้ ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับเนื้อหมูที่ไม่แห้ง และเหนียวจนกวนใจ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://www.pitchameat.com/