หน้า: 1 2  ทั้งหมด

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: ทุกคนล้วนเป็น"เหยื่อ"กรณีฟิล์ม-แอนนี่/สังคม"2มาตรฐาน"และ"ดัดจริต"มากไป  (อ่าน 42393 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 10:42 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

ผมอาจจะเป็น "คนนอก" ผู้แสดงความเห็นเป็นคนท้ายๆ กรณีฟิล์ม-แอนนี่ ที่ทุกฝ่ายในสังคมไทยล้วนตกเป็น "เหยื่อ" ของกรณีนี้
ซึ่งในที่สุดเมื่อเหตุการณ์บานปลายไป จะไม่มีใคร "ชนะ" แต่ต่างฝ่ายต่างได้รับ "บาดแผล" บาดเจ็บกันคนละเล็กคนละน้อยหรือมากน้อยแล้วแต่ "คำพูด" ของตัวเองจากการออกมาให้ข่าวของ "คู่กรณี" และ "ไม่ใช่คู่กรณี" ที่ดาหน้ากันออกมา "เกาะกระแส" วิพากษ์วิจารณ์อย่างไม่รู้กาลเทศะหลายคน
จนน่าจะถือเป็นอีกบทเรียนสำคัญของปัญหาสังคมไทยที่ควรจะลองวิเคราะห์ในบาง แง่มุม ว่าทำไมเหตุการณ์ "ท้องไม่มีพ่อ" เกิดกับดารานักแสดงผู้หญิงที่มีสถานะเป็น "บุคคลสาธารณะ" จึงเพิ่มความสลับซับซ้อนสร้างความเสียหายให้ทุกฝ่าย หลังจากแต่ละฝ่าย "ไร้สติ" ไม่ยับยั้งชั่งใจว่าควรจะแสดงออกอย่างไร
ค่านิยมและทัศนคติของสังคมไทยเรื่องสถานภาพของผู้หญิง-ผู้ชายเมื่อเกิด เรื่องทำนองฟิล์ม-แอนนี่ เป็นเรื่อง "สองมาตรฐาน" มานานนมมากกว่ากรณีใดๆ
ผู้ชาย:เมื่อไปทำผู้หญิงท้องแล้วจะยอมรับหรือไม่ยอมรับ ก็ไม่ค่อยมีใครไปตำหนิผู้ชายมากนัก อย่างมากก็จะแค่ถูกหยามว่า "ไม่ใช่ลูกผู้ชาย ทำผู้หญิงท้องแล้วไม่รับ" แล้วผู้ชายก็ยังอยู่ในสังคมได้โดยไม่ค่อยมีใครไปเอาเรื่องเอาราว บางครั้งยกย่องด้วยซ้ำว่ามันแน่ เจ้าชู้ประตูดินเป็น "เสือผู้หญิง" สังคมไทยเป็นสังคมสองมาตรฐานประเมินคุณค่าการกระทำเยี่ยงนี้ของผู้ชายอย่าง ไม่แยแสนัก
ผู้หญิง:เมื่อตั้งท้องโดยยังไม่ได้แต่งงานถือเป็น "ความอับอาย" ของวงศ์ตระกูล แม้กระทั่งรู้ว่าคบหากับผู้ชายคนไหน สิ่งที่ครอบครัวของฝ่ายหญิงจะต้องทำเป็นอันดับแรกคือจะต้องหาทางรีบจัดงาน แต่งงาน ในกรณีที่รู้ว่าเป็นแฟนกันอยู่แล้ว แต่ถ้าผู้ชายไม่ยินยอมจะแต่งงานด้วยก็จะเรียกร้องค่าเสียหายค่าทำขวัญ แล้วถ้ายินยอมจ่ายเงินเรื่องจึงมักจะจบๆ ไป ครอบครัวฝ่ายผู้หญิงก็จะเลี้ยงหลานไปไม่ได้มีปัญหาทางสังคมมากนัก ถ้าสถานะของครอบครัวฝ่ายหญิงไม่ยากจนข้นแค้นจนเกินไป


เรื่องราวความสัมพันธ์คล้ายๆ กรณี "ฟิล์ม-แอนนี่" อย่างเช่น ท้องก่อนแต่ง, ท้องโดยไม่ตั้งใจ, ท้องแล้วไม่มีใครยอมรับเป็นพ่อ ฯลฯ เกิดขึ้นทุกวันในสังคมไทย จนแทบจะกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาของสังคมไทยที่มี หากไม่ดัดจริตจนเกินไป กลไกการแก้ปัญหาทางสังคมทำได้ในระดับหนึ่งไม่ให้เป็นปัญหามากนักหาก "คู่กรณี" ยังคุยกันได้
ลองวิเคราะห์จากการแถลงข่าวของแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องกรณีฟิล์ม-แอนนี่ที่ บานปลายออกไปมาก จะเห็นได้ว่าระยะเวลาก่อนเรื่องราวจะฉาวโฉ่ออกมา สองครอบครัวต่างรับรู้และยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก มาย เมื่อติดตามจากคำให้สัมภาษณ์ของแม่ฟิล์มและฟิล์มกับแม่แอนนี่และแอนนี่
ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับความเห็นของนักวิชาการและนักสิทธิเด็กหลายคนออกมาตำหนิ "สื่อ" อย่างรุนแรง ว่าซ้ำเติมให้เรื่องราวระหว่างฟิล์ม-แอนนี่บานปลายมากกว่าเดิม
แต่อยากจะให้ลองค่อยๆ ไล่เรียงเหตุการณ์ จะเห็นว่าข่าวส่วนใหญ่ออกมาจาก "ความเต็มใจ" ให้ข่าวของ "ฟิล์ม-แอนนี่" ก่อน แล้วตามมาด้วยการแถลงข่าวหรือให้ข่าวของผู้เกี่ยวข้องโดยตรงอย่าง "เฮียฮ้อ-แม่ฟิล์ม-แม่แอนนี่"
ความผิดของสื่ออย่างเดียวที่สมควรตำหนิ คือ การไม่เคารพสิทธิของเด็กหรือช่วยปกป้องความเสื่อมเสีย "ลูกชายแอนนี่" ที่เป็น "ชีวิตเล็กๆ" ที่ยังเป็นเด็กไร้เดียงสาเกินกว่าจะรับรู้ว่า ตัวเองกำลังตกเป็น "เหยื่อ" อยู่ท่ามกลางแสงไฟจาก "สื่อ" ที่รัวกล้องใส่ใบหน้าเด็กน้อยเพื่อเอาภาพไปขยายใหญ่โตเสมือนเป็น "หลักฐาน" ชิ้นสำคัญของข่าวนี้
เท่าที่ลองประมวลอ่านย้อนหลังพาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์หัวสีทุกฉบับ และข่าวนำในสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง ล้วนแต่มาจาก "แหล่งข่าวโดยตรง" ที่เป็นต้นตอของข่าว เมื่อนำไปถ่ายทอดก็ไม่ได้พาดหัว "หวือหวา" แล้วตอกสีใส่ไข่เกินกว่า "คำพูด" จากถ้อยแถลงของคู่กรณีโดยตรงที่เกินกว่าตรวจสอบได้ว่า "ใครพูดจริงหรือพูดโกหก"



เครดิต: http://www.oknation.net/blog/adisak/2010/10/03/entry-1



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #1 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 10:44 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

แอนนี่-ไม่ใช่ดาราวัยรุ่นที่ยังไม่ได้บรรลุนิติภาวะ

เจ้าตัวยอมรับเองด้วยซ้ำว่าอายุเกือบ 30 ปีแล้ว ย่อมไม่ปฏิเสธความสัมพันธ์กับผู้ชายในช่วงที่ผ่านมา คำพูดทุกคำของแอนนี่ย่อมเป็นการให้ปากคำต่อสาธารณะที่สื่อไหนไม่เสนอข่าวก็ ถือเป็นเรื่องแปลกประหลาด เพราะกรณีนี้ถือเป็นข่าวประเภท Human Interest ขนานแท้
ฟิล์ม-ไม่ใช่เด็กๆ เช่นเดียวกันถ้อยแถลงของฟิล์ม 2 ครั้ง ล้วนแต่เป็น "ข่าวน่าสนใจ" ไม่แพ้ถ้อยแถลงของแอนนี่
เจ้าตัวเองยังเคยมีเรื่องราวที่ไม่ดีไม่งามมาแล้วหลายครั้งที่สังคมไทยดู เหมือนจะตั้งมาตรฐาน "ศีลธรรม" สูง แต่เมื่อเวลาผ่านไปข่าวเงียบลงมักจะไม่ค่อยเอาเรื่องเอาราวกับ "ดาราผู้ชาย" ที่ยังอยู่ในวงการบันเทิงได้ เมื่อเทียบกับ "ดาราผู้หญิง" เมื่อเกิดมลทินจากเรื่องทำนองนี้มักจะต้องออกจากวงการไปคนแล้วคนเล่า
สังคมไทยอย่าดัดจริตออกมากล่าวหากันวุ่นวายไปหมด ว่าใครเป็นคนผิดหรือใครถูกใครโกหกใครพูดจริง หรือออกอาการวิตกทุกข์ร้อนมากนักเลยในกรณีฟิล์มกับแอนนี่ที่ไม่ใช่กรณีแรก และจะไม่เป็นกรณีสุดท้ายในปัญหาสังคมสองมาตรฐานความสัมพันธ์ระหว่างหญิงชาย ที่ (ยัง) ไม่ได้แต่งงานกัน
ใครจะปฏิเสธว่ากรณี "ดาราชาย-ดาราหญิง" ของไทยมั่วเซ็กซ์กันแล้ว "ไม่ท้อง" เป็นที่รู้ๆ กันอยู่มากมายหลายราย จนแทบจะกลายเป็น "เรื่องปกติ" ในวงการบันเทิงบ้านเรา หรือแม้กระทั่งวงการบันเทิงฮอลลีวู้ดก็ใช่ที่ไม่เป็นข่าวหรือเป็นข่าวก็ไม่ ใช่ปัญหาแต่อย่างใด
บอกตามตรงผมขอลำเอียง "เห็นใจ" แอนนี่มากกว่าฟิล์ม แต่ไม่ได้หมายความว่าแอนนี่ทำถูกต้องที่ไม่ยอมตรวจดีเอ็นเอลูกชาย เพื่อพิสูจน์ว่าฟิล์มเป็น "พ่อ" ของเด็กหรือไม่
แต่เห็นใจเพราะแอนนี่คือ "ดาราอิสระ" ที่ตกเป็นเหยื่อของวงการบันเทิงไทย เธอแทบจะเป็นตัวคนเดียวที่ต้องออกมาต่อสู้กับ "ผู้ยิ่งใหญ่" ในวงการบันเทิงหลายคนอย่างไม่มีหนทางจะปกป้องตัวเองได้เลย
จึงไม่แปลกใจเลยเมื่อเห็นแอนนี่อุ้มลูกชายไปทั้งสองครั้งในการออกรายการ โทรทัศน์ เพื่อขอความเห็นใจและเธอคงคิดว่าลูกชายเป็น "หลักฐาน" ชิ้นสำคัญในการต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีของตัวเธอเอง
"เฮียฮ้อ" บิ๊กบอสค่ายบันเทิงอาร์เอส ที่ไม่น่าเชื่อว่าการแถลงข่าวรอบแรกกับรอบที่สอง จะพลิกผันทำให้ "เฮียฮ้อ" เปลี่ยนจากการแถลงข่าวครั้งแรกลงโทษพักงานฟิล์ม ทำให้ภาพลักษณ์เฮียฮ้อเป็น "แฟมิลี่แมน" เป็นนักธุรกิจที่มีคุณธรรมคำนึงถึง "ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์" มากกว่า "ธุรกิจ"
เมื่อแถลงข่าวรอบสองไปกล่าวหาว่าแอนนี่คบผู้ชายคราวเดียวกัน 4 คน ทำให้ภาพลักษณ์เฮียฮ้อและค่ายอาร์เอสกลายเป็น "นายทุนบันเทิง" ที่ในที่สุดแล้วได้แสดงธาตุแท้เห็นแก่เงินตราธุรกิจมากกว่าศักดิ์ศรีความ เป็นมนุษย์
"สมรักษ์" ผู้บริหารฝ่ายผลิตช่อง 3 ที่ออกมายืนยันคำพูดของเฮียฮ้อเรื่องแอนนี่ที่ไม่แปลกใจว่าทำไมจะต้องออกมา ช่วย "อุ้ม" เฮียฮ้อ
"พจน์อานนท์" ผู้กำกับภาพยนตร์อันดับต้นๆ ของประเทศที่ออกมาก่นด่าแอนนี่แก้ต่างให้ฟิล์ม
และอีกหลายคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องเลยแต่ "***" กันเกาะกระแสเสียมากกว่าจะช่วยกันแก้ปัญหา ฯลฯ
ผมก็ไม่อยากตำหนิฟิล์มที่ยังทำตัวเป็น "ลูกแหง่" ที่ยังไม่โตเสียที ออกจะสมเพชมากกว่าน่าสงสารเมื่อเห็นภาพแถลงข่าวแล้วร้องไห้ เพราะเจ้าตัวสารภาพว่าไม่รู้จะแก้ปัญหาที่ตัวเองสร้างได้ยังไง
ฟิล์มทำตัวไม่สมกับสถานภาพดาราชายอันดับหนึ่งของค่ายอาร์เอส และอาจจะอันดับหนึ่งของวงการบันเทิงไทยที่ออกอาการเว้าวอนแทบจะก้มกราบเฮีย ฮ้อ ขอให้คืนงานให้ทำเพื่อเลี้ยงชีพ มากกว่าจะ "กล้า" ออกมายอมรับอย่างลูกผู้ชายว่าได้มีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับแอนนี่จริง ตั้งแต่แรกแล้ว ก็คงไม่ทำให้แอนนี่ออกมา
ตรงกันข้ามกับแอนนี่ที่กล้าออกมายืนอย่างแข็งแกร่ง อาจจะเป็นเพราะหนทางการสู้ชีวิตเข้าสู่วงการบันเทิงของแอนนี่ที่ผ่านมาอย่าง ยากลำบาก ทำให้เธอไม่ยอมเสียน้ำตาให้กับกรณีนี้มากนัก แล้วยังยืนยันหนักแน่นว่าพร้อมจะยืนหยัด ทำงานเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง
คงจะทำได้เพียงขอร้องให้คุณแม่ของฟิล์มลองไตร่ตรองดูว่าจะทำอย่างไรให้ "ชีวิตของฟิล์ม" หลุดพ้นจากสภาพ "ลูกแหง่" แก้ปัญหาที่ตัวเองสร้างไม่ได้สักเรื่องเดียว เพราะกรณีนี้ไม่น่าจะใช่กรณีแรกของฟิล์ม แต่อยากจะให้เป็นกรณีสุดท้ายของฟิล์มในการสร้างปัญหาเชิงศีลธรรมกับสังคม
เอากันง่ายๆ ฟิล์มโตเป็นผู้ใหญ่ขนาดนี้แล้วทำไมไม่ระมัดระวังไม่รู้จักป้องกันตัวเองด้วย การสวมถุงยางอนามัย อยากจะสนุกก็ควรจะรู้จักใช้เพื่อไม่ให้สร้างปัญหาเกิดขึ้นอย่างกรณีแอนนี่ ที่เจ้าตัวไม่แน่ใจว่าลูกของแอนนี่เป็นลูกตัวเองหรือเปล่า
ยังไม่ต้องไปถึงขั้นสั่งสอน "ความเป็นลูกผู้ชาย" สุ่มเสี่ยงทำผู้หญิงท้องแล้วไม่ยอมรับแต่กลับขอให้ตรวจดีเอ็นเอก่อน
ยังไม่ต้องถึงขั้นอบรมสั่งสอนศีลธรรมให้หักห้ามใจ ไม่ให้หมกมุ่นกับสาวๆ ทั้งที่เป็นดาราหรือไม่ใช่ดาราที่มาหลอกล่อยั่วตัณหา ด้วยการอาศัยสถานะดาราหล่อลากดินอันดับหนึ่งของประเทศไปเที่ยวฟันดะผู้หญิง ไม่เลือกแม้ผู้หญิงจะเต็มใจก็ตามทีเถอะ
กรณีฟิล์มกับแอนนี่น่าเป็นกรณีตัวอย่างของความฟอนเฟะในวงการบันเทิงไทย ที่เป็นปลายยอดน้ำแข็งของปัญหาท้องก่อนแต่งหรือท้องไม่มีพ่อ ซึ่งกรณีฟิล์มกับแอนนี่เป็นเพียงกรณีเดียวในอีกหลายพันหลายหมื่นกรณีในแต่ละ ปีที่ดำรงอยู่ในสังคมไทยมายาวนาน
หากไม่ใช่ "ดารา" หรือบุคคลสาธารณะ ก็ไม่ต้องไปวิตกจริตมากนักว่ามันเป็นปัญหาใหญ่โตของสังคม หรือเสื่อมศีลธรรมจนยอมรับไม่ได้ เอาเป็นว่าหญิง-ชายคนใด ใครสร้างปัญหาขึ้นมาก็อย่าไปปฏิเสธ "เด็ก" ที่เกิดขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ แล้วสังคมควรจะหาทาง "เลี้ยงดู" เด็กๆ เหล่านั้นอย่างอบอุ่นไม่ให้เกิดปมด้อย "เด็กไม่มีพ่อ" ก็จะไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่โตกับสังคมมากนัก



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
หยกคะ
เรทกระทู้
« ตอบ #2 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 11:12 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เห็นด้วยนะ ทำไมไม่มีใครตำหนิสื่อบ้าง ถ้าสื่อไม่ออกข่าวครึกโครมขนาดนี้ เรื่องก้อคงจะไม่บานปลาย ความจริงน่าจะให้คนสองคนมาคุยกัน ตกลงกัน มากกว่าต่างฝ่ายต่างพูด

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ยาย่า
เรทกระทู้
« ตอบ #3 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 11:22 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เป็นข้อคิดที่ดีมากทีเดียว ผู้ที่คิดว่ามีสมองทั้งหลายน่าจะนำไปไตร่ตรอง q*031

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
tangmo
เรทกระทู้
« ตอบ #4 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 11:50 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ส่งสารทั้งสองฝ่ายนะค่ะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ป้านิด
เรทกระทู้
« ตอบ #5 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 11:51 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คุณวิเคราะห์ได้ใจจริงๆว่าฟิล์มเป็นลูกแหง่ เพราะว่าวันนี้ฟิล์มกินยาเกินขนาดต้องส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้เป็นเพราะไม่รู้จะหาทางออกให้กับปัญหานี้ได้อย่างไร และเสียใจที่ทำให้ผู้มีพระคุณต้องลงมาเล่นลูกเองจนเจอใบแดงใบเหลือง จากประชาชนกันคนละใบสองใบ เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ในการเลี้ยงลูก ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายผู้หญิงว่า คนเรามีปํญหากันทุกคน เมื่อปัญหาเกิดอย่าเพิ่งร้องหาคนผิด ต้องแ้ก้ปัญหาให้บรรเทาหรือลุล่วงก่อน แล้วจึงประเมินผลเหตุการณ์นั้นๆว่าเกิดจากอะไร ควรจะหาทางป้องกันอย่างไร ใครมีหน้าที่อะไร แล้วทำหน้าที่อย่างเต็มที่หรือยัง ถ้ายังก้ต้องตระหนักในหน้าที่ของตน หรือวิธีการดำเนินการเรื่องนั้นๆ มีข้อผิดพลาดอะไรไปปรับวิธีการเสียใหม่ แล้วสรุปเป็นบทเรียนที่ต้องระวังในครั้งต่อไป ใช้สติในการดำเนินชีิวิตตลอดเวลา คนในครอบครัวต้องดูแลและให้สติแก่กันและกันอยู่เสมอ จะได้ไม่เดินทางพลาดซ้ำสอง

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
คนนอกเหมือนกัน
เรทกระทู้
« ตอบ #6 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 11:57 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

พูดได้ดีค่ะ โดนใจจริงๆ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
เด็กภาคกลาง
เรทกระทู้
« ตอบ #7 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 11:57 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ตรวจ DNA ซะเถอะจะได้ความจริงทั้งหมด

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
carlziess
เรทกระทู้
« ตอบ #8 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 12:16 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

บทความนี้ให้มุมมองที่ดีมากครับ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
Toon123456
เรทกระทู้
« ตอบ #9 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 12:45 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ก็แล้ว จขกท ไป เอือก อะไรกับเขา 2 คนมิทราบ บอกว่าคนที่ไม่เกี่ยวข้อง มาวิพากษ์วิจาร์ ไม่ว่าจะเป็น พจน์ , สมรักษ์ หรือ อาเฮีย
แน่นอน รวมทั้ง นาย จขกท ด้วย มายุ่งอะไรกะเขา
ในฐานะคนเสพข่าว ควรจะเสพข่าว แล้วคิด เก็บไว้เป็นอุทาเห่า สอนลูก หลาน คนใกล้ตัว
ไม่ใช่ออกมา เสล่อ ป่าวประกาศความคิดตัวเอง ไม่ต่างจาก กลุ่มคนที่คุณ จขกท ว่าเขามาในนั้นละค้าบบบ

เฮ้อออ สังคมไทย ไม่เคยตักน้ำใส่กะโหลก เพื่อดูตัวเอง

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ไปดาวอังคาร555
เรทกระทู้
« ตอบ #10 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 12:51 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ขี้เกียจโพสล่ะ แอนนี่กะฟิมเนี่ยะ ฝ่าย ญ ไม่ยอมตรวจก็จบข่าว ทำไรได้ q*00

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #11 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 12:51 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

สังคมไทย เป็นสังคม ที่เห็นคุณค่าของความเป็นคนน้อยลง มีแต่พรรคพวก เกาะตัวเป็นกลุ่ม พอคนของตัวทำไม่ดี ก็ทำตัวเป็นกันชน ผมพูดจริงเลย อย่างให้สังคมลงโทษด้วย เช่นกรณีของฟลิม์และแอนนี่ เนี่ย เฮียฮ้อ นักธุรกิจจริง ๆ คือกลัวผลประโยชน์เสียหาย เลยออกมาปกป้องธุรกิจตัวเองเสียจนลืมความเป็นจริง ว่าควรทำอย่างไรให้มันดูดีกว่านี้ เพื่อเป็นประโยชน์และแนวทางของสังคมอย่างแท้จริง อีกประเภท พวกที่เป็นคนชักจูง ประเภทแมวมอง อันนี้ ก็น่าจะสงบปากสงบคำให้มากกว่านี้ ไม่ต้องพูดก็รู้ว่าใคร กรุณาคิดให้ดี ๆ นะครับ คนไม่เกี่ยวข้องเข้าไปยุ่งยามในครอบครัวคนอื่นนะ หรือพวกมากลากไปประเภทคนดูแลนักร้องนักแสดงตามสถานีโทรทัศน์นะ ออกตัวมาอุ้มเพื่อหวังประโยชน์อะไรหรือเปล่า น่าจะโดนสังคมพิจารณาลงโทษไปให้มากกว่านี้นะครับ ไม่ซื้อขายเทป ส่งจดหมาย บัตรสนเท่ห์ ให้พิจารณาตัวเองว่า เด็ก ๆ ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างหรือเปล่า และทำให้เห็นสังคมปัจจุบัน เล่นพรรคเล่นพวก ขอให้สำนึกนะครับว่า มุนษย์ทุกคนมีเพศแม่กันทุกคน ถ้าหากคุณเห็นผู้หญิงทำตัวไม่ดีทำไมไม่เตือนตั้งแต่ต้น เพิ่งมาแสดงความคิดเห็น ให้คนอื่นดูหมิ่นเกลียดชังเพศแม่ คนเราต้องมีสามัญสำนึกตั้งแต่ต้นที่เกิดเหตุ อย่าปากว่าตาขยิบ การปกครองคนต้องสอนให้มีความสำนึกความถูกผิดอย่างมีแนวทางตั้งแต่คุณสนับสนุนตั้งแต่ครั้งแรก อย่าให้วัวหายแล้วค่อยมาล้อมคอกครับ อย่าให้ไฟไหม้ลามทุ่ง เพราะความรู้สึกที่ดี ๆ และความเห็นอกเห็นใจของสังคมจะหมดไปมากกว่านี้ เวลาสอนคนเค้าต้องสอนตั้งแต่เริ่มเป็นดารา นักแสดงแล้วมิใช่หรือ อย่ามาเรียกร้องให้ดับไฟตอนไฟมอดแล้ว เพราะมันมีประโยชน์ที่จะเรียกร้อง และกรณีนี้คงเหมือนกับไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา เนี่ยแหละกฏแห่งกรรมที่เกิดขึ้นจริง และคงเป็นอุทาหรณ์ได้ดีสำหรับดารานักแสดงและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ดีไปตราบนานเท่านาน

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ขอเอี่ยว
เรทกระทู้
« ตอบ #12 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 13:04 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ไ ม่แปลกหรอกที่สังคมจะเห็นใจฝ่ายหญิงมากกว่า เพราะต้องเป็นฝ่ายอุ้มท้อง ขณะที่ผู้ชายแค่ปล่อยน้ำเชื้อทิ้งไว้ แล้วก็สะบัดตูดไป แล้วอย่างมากก็ให้คนอื่นเอาเงิน หรือมาแทน แล้วก็ให้ความหวัง แต่กลับออกมาพูดกับสื่ออีกอย่างให้ตรวจดีเอ็นเอ ไ ม่แมนเหมือนพระเอกในละครเอาซะเลย พระเอกในละครถึงไ ม่ใช่ลูกตัวเอง แต่เพื่อเห็นแก่เด็กตาดำๆ คนหนึ่งยังไงก็ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง ถึงจะไ ม่ใช่ลูกแต่เป็นพ่อให้เค้ามันจะเสียหายตรงไหน ทีไปทำบุญ ออกหน้าว่ารักเด็กกำพร้า เด็กพิการยังทำกันได้เลย พวกผู้ชาย หรือกระเทยที่ไ ม่มีมดลูก แล้วดูถูกเพศหญิง ย่อมไ ม่เข้าใจในความรู้สึกของหญิงตั้งครรภ์ที่เสมือนคนไร้สมรรถภาพ ทำอะไรไ ม่ไ ด้เหมือนคนปกติ กลับต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ออกไ ปไ หนไ ม่ได้ มันรู้สึกแย่ขนาดไ หน ความเจ็บปวดทรมานที่หญิงได้รับ กะชายได้รับมันต่างกัน ครับท่านผู้ชม

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
นันทพร
เรทกระทู้
« ตอบ #13 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 13:10 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

โดนมากเลยค่ะ

เห็นด้วย....ทุกคนอ่านแล้วคิดตามที่เราคิดป่ะ q*043

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
นัท589
เรทกระทู้
« ตอบ #14 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 13:14 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ยังจำกรณีนี้ได้ไม๊จ๊ะทุกคน

"แด๊ก บิ๊กแอส" พร้อมทีมงานแกรมมี่เผชิญหน้า "น้องฝ้าย" ปิดห้องเจรจาโดยมี "ปวีณา" เป็นคนกลาง ก่อนเปิดแถลงขอตรวจดีเอ็นเอ ก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที ระหว่างแถลงคู่หนุ่ม-สาวไม่ยอมมองหน้ากัน โดยน้องฝ้ายอุ้มลูกร่ำไห้ตลอดเวลา ด้านนักร้องหนุ่มอ้างมือเจ็บไม่ยอมอุ้ม "น้องจัสติน" แฉฝ่ายแกรมมี่ต่อรองพร้อมดูแลเรื่องเงิน แต่ยังไม่ให้เซ็นรับรองบุตร แม่น้องฝ้ายยันต้องเซ็นรับรอง เพราะต้องการให้หลานมีพ่อ ไม่อยากให้เป็นปมด้อย ยันไม่ได้มาเรียกร้องอะไร แค่ให้ยอมรับเป็นพ่อเท่านั้น

จากกรณีอื้อฉาวเมื่อ "น้องฝ้าย"นางแบบสาวเซ็กซี่วัย 17 ปี อุ้มลูกชายวัย 2 เดือน ชื่อ "น้องจัสติน" ออกมาระบุว่าเป็นลูกที่เกิดกับนายเอกรัตน์ วงศ์ฉลาด หรือ "แด๊ก" นักร้องนำวงดนตรีชื่อดัง "บิ๊กแอส" ค่ายแกรมมี่ หลังจากพบกันตั้งแต่สมัยน้องฝ้ายอายุ 15 ปี และเคยอยู่ด้วยกันจนตั้งท้อง ฝ่ายชายก็ตีตัวออกห่าง จึงต้องการให้มาร่วมรับผิดชอบ พร้อมกับเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี และพร้อมจะให้พิสูจน์ดีเอ็นเอน้องจัสติน ว่าเป็นลูกชายของนักร้องดังแน่นอน ในขณะที่แด๊ก บิ๊กแอส ยอมรับว่าเคยมีสัมพันธ์กับน้องฝ้าย และอ้างว่าที่ผ่านมา ให้พี่สาวเป็นคนดูแลโดยไม่ทราบว่าเกิดความเข้าใจผิดอะไรกันขึ้น และต่อรองว่าต้องการให้ตรวจดีเอ็นเอก่อน แล้วค่อยตกลงอีกครั้งว่าจะทำอย่างไรต่อไป

ถามหน่อย ถ้าน้องเค้ายืนยันไม่ตรวจแบแอนนี่บ้าง แล้วทุกวันนี้ ใครจะเป็นพ่อเด็กจ๊ะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
135
เรทกระทู้
« ตอบ #15 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 14:09 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
ก็แล้ว จขกท ไป เอือก อะไรกับเขา 2 คนมิทราบ บอกว่าคนที่ไม่เกี่ยวข้อง มาวิพากษ์วิจาร์ ไม่ว่าจะเป็น พจน์ , สมรักษ์ หรือ อาเฮีย
แน่นอน รวมทั้ง นาย จขกท ด้วย มายุ่งอะไรกะเขา
ในฐานะคนเสพข่าว ควรจะเสพข่าว แล้วคิด เก็บไว้เป็นอุทาเห่า สอนลูก หลาน คนใกล้ตัว
ไม่ใช่ออกมา เสล่อ ป่าวประกาศความคิดตัวเอง ไม่ต่างจาก กลุ่มคนที่คุณ จขกท ว่าเขามาในนั้นละค้าบบบ

เฮ้อออ สังคมไทย ไม่เคยตักน้ำใส่กะโหลก เพื่อดูตัวเอง


เห็นด้วยมากมายค่ะ
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ยุติธรรม
เรทกระทู้
« ตอบ #16 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 14:16 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ม่แปลกหรอกที่สังคมจะเห็นใจฝ่ายหญิงมากกว่า เพราะต้องเป็นฝ่ายอุ้มท้อง ขณะที่ผู้ชายแค่ปล่อยน้ำเชื้อทิ้งไว้ แล้วก็สะบัดตูดไป แล้วอย่างมากก็ให้คนอื่นเอาเงิน หรือมาแทน แล้วก็ให้ความหวัง แต่กลับออกมาพูดกับสื่ออีกอย่างให้ตรวจดีเอ็นเอ ไ ม่แมนเหมือนพระเอกในละครเอาซะเลย พระเอกในละครถึงไ ม่ใช่ลูกตัวเอง แต่เพื่อเห็นแก่เด็กตาดำๆ คนหนึ่งยังไงก็ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง ถึงจะไ ม่ใช่ลูกแต่เป็นพ่อให้เค้ามันจะเสียหายตรงไหน ทีไปทำบุญ ออกหน้าว่ารักเด็กกำพร้า เด็กพิการยังทำกันได้เลย พวกผู้ชาย หรือกระเทยที่ไ ม่มีมดลูก แล้วดูถูกเพศหญิง ย่อมไ ม่เข้าใจในความรู้สึกของหญิงตั้งครรภ์ที่เสมือนคนไร้สมรรถภาพ ทำอะไรไ ม่ไ ด้เหมือนคนปกติ กลับต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ออกไ ปไ หนไ ม่ได้ มันรู้สึกแย่ขนาดไ หน ความเจ็บปวดทรมานที่หญิงได้รับ กะชายได้รับมันต่างกัน ครับท่านผู้ชม
ถูกต้อง ถูกแล้วถูกอีกใช่เลยครับ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
pru
เรทกระทู้
« ตอบ #17 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 14:38 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ตรวจdna ถ้าออกมาเป็นลูกฟิล์ม ฟิล์มก็คงรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่นี่ไม่ยอมเพราะไม่แน่ใจหรือเปล่า ประวัติไม่ใช่จะใสสะอาด ฟิล์มก็ไม่ได้ขืนใจแอนนี่ก็เป็นพยาบาลทำไมไม่ป้องกันตัวเอง ไม่ใช่ด่าแต่ฟิลม์ฝ่ายเดียว

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ฟกหดฟหกด
เรทกระทู้
« ตอบ #18 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 14:45 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ไร้สาระน่า เขาก็แค่ข่าววงการมายา

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
เราสองสามคน
เรทกระทู้
« ตอบ #19 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 14:46 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

สรุปง่ายๆแบบชาวบ้าน คือ ผู้หญิงถ้าไม่อ้า ไม่อ่อย ไม่ง่าย ก็คงเข้าไม่ได้ ใช่ป่ะ ! แล้วผู้ชายถ้าไม่เห็นแก่ตัว ไม่รักตัวเองมากกว่า ไม่เจ้าชู้ ไม่มักมากในกามอารมณ์ ! เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น เอาเป็นว่าสังคมเสื่อม ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ผู้หญิงก็ง่าย ผู้ชายก็มักมาก สุดท้ายแล้ว คนที่น่าสงสารที่สุดก็คงหนีไมพ้น เด็กตาดำๆ ที่ไม่รู้จะภูมิใจดีไหม? ที่เกิดมามีพ่อกับแม่แบบนี้ (จะภูมิใจก็ตรงที่มีพ่อกับแม่เป็นดาราแค่นั้นมั่ง) เอาเป็นว่าใครมีลูกมีหลาน มีน้อง มีพี่ มีญาติ สอนให้รู้จักระวังตัว ระวังใจ ระวังสังคม ที่นับวันยิ่งเสื่อมลงทุกที เป็นชาวบ้านๆ ก็คงทิ้งเด็กไว้กับคนแก่ที่บ้านนอก แล้วพ่อกับแม่ที่แท้จริงก็ไปร่าเริงหันใหม่ จนเด็กโตขึ้นมาแล้วเรียก ปู่ย่าตายายหรือคนที่เลี้ยงดู จนติดปากว่า พ่อกับแม่ ไม่เชื่อลองมองดูรอบตัวคุณดูว่ามีเหตุการณ์แบบนี้นี้หรือเปล่า

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
กลาง
เรทกระทู้
« ตอบ #20 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 14:53 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ทุกคนหน้าจะคิดแบบนี้นะเห็นด้วยค่ะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ใครคือพ่อเด็ก
เรทกระทู้
« ตอบ #21 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 15:15 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ไม่ตรวจดีเอ็นเอ แล้วจะรู้หรือว่าใครคือพ่อเด็ก ชอบ คห.นัท 589 กรณีแด๊ก บิ๊กแอส ถ้าไม่ตรวจดีเอ็นเอในวันนี้ก็คงไม่รู้ว่าพ่อเด็กไม่ใช่แด๊กบิ๊กแอสอย่างที่ผู้หญิงกล่าวอ้าง เหมือนกับที่ อ.กล่าวหา ฟ.ในวันนี้ ...แสดงว่า อ.ก็ไม่มั่นใจว่า ฟ.เป็นพ่อเด็กหรือเปล่า เลยยื้อไปเรื่อย หรือต้องการออกพ๊อคเก็ตบุ๊กหาตัง ให้หนังสือออกก่อน สร้างกระแสไปเรือยๆ แต่ขอบอกเราคนหนึ่งล่ะ ไม่ซื้อหนังสือไม่ประเทืองปัญญาแน่นอน มีหนังสือดี มีสาระให้ความรู้อีกตั้งเยอะ อย่าหากินวิธีนี้ (อ.จบผู้ช่วยพยาบาลแบบเรียน 3 เดือน ไม่ใช่พยาบาลที่เรียน 4 ปี) เข้าใจกันใหม่ด้วย ...หยุดเสนอข่าว อ.กันได้แล้ว รำคาญ ไปกล่าวหาผู้ชาย แต่ไม่กล้าตรวจพิสูจน์ นี่มันยุคไหนแล้ว ไว้ให้ผลออกมาก่อนเถอะ แล้วจะเชื่อ เบื่อ คนโกหกกกกกกกก..... q*019q*038

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
นารีรัตน์
เรทกระทู้
« ตอบ #22 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 15:20 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ทำไมไม่โทษฝ่ายหญิงบ้าง ถ้าตรวจดีเอ็นเอก็สิ้นเรื่อง ตัวเองสำส่อนแล้วไม่ให้ตรวจดีเอ็นเอ อย่างนี้ถ้าไม่ใช่ฟิล์มแล้วบอกว่าใช่ไม่แย่เหรอ ลองคิดถึงตัวเองดูบ้างนะ หรือคนรอบข้าง เลี้ยงลูกใครก็ไม่รู้ผัวเป็นร้อยเลย

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
อาทร
เรทกระทู้
« ตอบ #23 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 15:41 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
คุณวิเคราะห์ได้ใจจริงๆว่าฟิล์มเป็นลูกแหง่ เพราะว่าวันนี้ฟิล์มกินยาเกินขนาดต้องส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้เป็นเพราะไม่รู้จะหาทางออกให้กับปัญหานี้ได้อย่างไร และเสียใจที่ทำให้ผู้มีพระคุณต้องลงมาเล่นลูกเองจนเจอใบแดงใบเหลือง จากประชาชนกันคนละใบสองใบ เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ในการเลี้ยงลูก ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายผู้หญิงว่า คนเรามีปํญหากันทุกคน เมื่อปัญหาเกิดอย่าเพิ่งร้องหาคนผิด ต้องแ้ก้ปัญหาให้บรรเทาหรือลุล่วงก่อน แล้วจึงประเมินผลเหตุการณ์นั้นๆว่าเกิดจากอะไร ควรจะหาทางป้องกันอย่างไร ใครมีหน้าที่อะไร แล้วทำหน้าที่อย่างเต็มที่หรือยัง ถ้ายังก้ต้องตระหนักในหน้าที่ของตน หรือวิธีการดำเนินการเรื่องนั้นๆ มีข้อผิดพลาดอะไรไปปรับวิธีการเสียใหม่ แล้วสรุปเป็นบทเรียนที่ต้องระวังในครั้งต่อไป ใช้สติในการดำเนินชีิวิตตลอดเวลา คนในครอบครัวต้องดูแลและให้สติแก่กันและกันอยู่เสมอ จะได้ไม่เดินทางพลาดซ้ำสอง
เห็นด้วยมากๆที่ว่า ฟลิมทำตัวเป็นลูกแห่งเลี้ยงไม่โต ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง เอาแม่ เอาคนโน้นคนนี้มาบังหน้าเวลาแถลงข่าว เอาน้ำตาเข้าว่าแทนที่ดูแล้วจะสงสารกลับดูแล้วสมเพชมากกว่า หาความเข้มแข็งไม่มีเลย หลายครั้งที่มีปัญหาก็วิ่งซุกอยู่ข้างหลังคนอื่นแทนที่จะเสนอหน้าแก้เองเพราะว่าตัวเองสร้างปัญหามาเองทั้งนั้น ตั้งแต่การเล่นก้น กับเสี่ยอู๊ด แบบมีหลักฐานเต็มๆ แต่ก็มีผู้ใหญ่มาช่วยกลบข่าวจนสงบ แล้วยังมาสร้างปัญหาอีก แถมงานนี้ เล่นเอา นายทุนโดนด่าไปด้วย เพราะว่าหลงคิดว่าตัวเองมีเงินทำอะไรได้ แต่งานนี้ผิดคาดอย่างจัง เพราะว่ากลุ่มเพื่อนหญิงเขาไม่ยอมที่มาดูถูกผู้หญิงแบบไร้สมองถ้าตามข่าวการออกรายการต่างๆ ฝ่ายหญิงเธอออกจะโดดเดี่ยวมากกว่าเพราะว่า เธอมีแค่ตัวเอง และลูกไม่มีคนหนุนเลย มันว้าเหว่มากกว่ากันมากเหลือเกินสำหรับลูกผู้หญิงคนหนึ่งที่ออกมาเพื่องานเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง เธอขอแค่ได้ออกมาจากคุกบ้าน เพื่อชีวิตของเธอ ลูก และแม่แก่ที่ป่วยรอรับการดูแลด้านการเงินจากเธอ แล้วเธอผิดเหรอที่เธอออกมา ถึงเธอไม่พูด สื่อก็ต้องรู้อยู่ดีว่า อะไรเป็นอะไร เธอบอกแล้วไงว่าไม่เอาอะไร เรื่องงานของฝ่ายชายมันเป็นเรื่อง ของฝ่ายชายกับเจ้าของบริษัทที่จะตกลงกันเอง เธอไม่เกี่ยว แต่ งานนี้ พวกมีเงินทั้งหลายกลับคิดจะฆ่า แม่ลูกให้ตาย เพียงเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง มันสมควรแล้วหรือ ที่ผู้ชายหลายๆคนที่มีทั้งอำนาจในการให้งาน และเงินล้นมือจะรังแก ผู้หญิงคนเดียวที่ไม่มีทางสู้ อยากถามว่า พวกคุณอายกันรึเปล่าที่คิดจะเอาเรื่องผู้หญิงเล็กๆแค่คนเดียว แบบเล่นไม่เลิก
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
คนบ้านนอก
เรทกระทู้
« ตอบ #24 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 15:45 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
ปรบมือข้างเดียว ยังไงๆมันก็ไม่ดัง..
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
RN
เรทกระทู้
« ตอบ #25 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 15:46 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
ทำไมไม่โทษฝ่ายหญิงบ้าง ถ้าตรวจดีเอ็นเอก็สิ้นเรื่อง ตัวเองสำส่อนแล้วไม่ให้ตรวจดีเอ็นเอ อย่างนี้ถ้าไม่ใช่ฟิล์มแล้วบอกว่าใช่ไม่แย่เหรอ ลองคิดถึงตัวเองดูบ้างนะ หรือคนรอบข้าง เลี้ยงลูกใครก็ไม่รู้ผัวเป็นร้อยเลย

เธอจะจบ พยาบาล 4ปี รึ 3เดือน 1เดือน เธอก็มีความเป็นแม่และสามารถเลี้ยงดูแลลูกได้ดี,ไม่สนในจุดนั้น , แต่สนับสนุนเธอไม่ต้องตรวจหรอก DNA ตรวจไปเพื่อให้ใครรู้ ๆไปเพื่ออะไร เราไม่ได้ขอความช่วยเหลือใครมันผ่านจุดนั้นมาแล้ว พวกที่อยากให้ตรวจ ไม่ใช่อะไรหรอก สอดอยากจะรู็ทั้งๆที่รู้ไปแล้วก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับชีวิตเขาหรอก ช่วยอะไรเขารึก็เปล่า ปากบอกเบื่อข่าว แต่ดันเข้ามาอ่าน q*013
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
อย่าตรวจดีเอ็นเอนะแอนนี่
เรทกระทู้
« ตอบ #26 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 15:49 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ในเมื่อต่างก็รู้ดีว่าเป็นลูกของตนนั่นแหละ อย่าเพิ่งรีบร้อนตามกระแสที่บีบให้ตรวจเพราะอาจตกเป็นเหยื่อในการปลอมแปลงข้อมูลหลักการตรวจดีเอ็นเอ เพราะเขาพยายามจ้างหาแพะอยู่เพื่อธุรกิจจะได้เดินหน้าช่วยกันทำมาหากิน คนแบบนี้เชื่อถือไม่ได้อย่าไปแคร์ไม่สมควรที่จะให้เป็นพ่อเด็ก โกหกคนอื่นได้แต่โกหกตนเองไม่ได้หรอกคนเรา ใครจะว่าอะไรแอนนี่ก็ว่าไป ความจริงก็คือความจริงวันยังค่ำ คนที่ไม่ได้โกหกนั้นจะเป็นสุขในที่สุด เวลาเท่านั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ผลของการกระทำ(กรรม)ตามหลักพุทธศาสนา คนแบบนี้ทำผิดมามากแล้วจนเคยตัวคิดว่าเงินซื้อได้ทุกอย่าง ไม่มีศีลธรรม ไม่น่าเกิดเป็นมนุษย์

เป็นกำลังใจให้แอนนี่ คุณเป็นบุคคลที่เข้มแข็งยิ่งกว่าผู้ชายคนนี้จริง ๆๆ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ขอเอี่ยว
เรทกระทู้
« ตอบ #27 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 15:52 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ถ้าฟิล์มออกมาแถลงข่าวว่า ถึงแอนนี่ไม่ตรวจดีเอ็นเอ ถึงจะใช่ลูกผมหรือไม่ก็ตาม แต่เด็กคนนี้ผมรักและพร้อมจะดูแล อย่างงี้สิถึงแม๊นแมน ได้ใจไปเต็มๆ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
sakamon
เรทกระทู้
« ตอบ #28 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 16:14 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 


ดิฉันก็เป็นผู้หญิงนะ แต่ ....
ทำใมไม่ตรวจด ดี เอ็น เอ ละ - ก็เพราะไม่แน่ใจและไม่มั่นใจว่าเป็นลูกของฟิล์ม หรือลูกของใครนะสิ
บอกว่ารักลูกมาก - แต่ไม่คำนึงถึงอนาคตของลูก ว่าเมื่อโตขึ้นเขาจะคิดและทำอย่างไร จะอยู่ในสังคมได้ไหม๊
คิดอยู่อย่างเดียว - ตอนนี้ทำอย่างให้ตัวเองดังขึ้นมา ทำอย่างไรให้ตัวเองได้งานเพื่อหาเงิน ขนาดรีดไถผู้ชายมาแล้วหลายคนที่ไปมีความสัมพันด้วยนะ
เขาไม่โง่หรอก - เขาไม่โง่ ให้เหมือนกรณี บิ๊กเอสหรอกนะ เขากลัวจะเป็นอย่างนั้นมากกว่าละ
ความเลว - มันก็เลวด้วยกันทั้งคู่นั่นแหละ เป็นผู้หญิงไปเที่ยวให้ท่าผู้ชาย คุณผู้ชายมันก็เป็นสันดานครึ่งสัตว์ครึ่งคนอยู่แล้ว ตามธรรมชาติของมันเมื่อผู้หญิงให้มันก็เอาอยู่แล้วงะ ขนาดผู้หญิงไม่ยอม ไม่ให้มันก็ยังทำได้งะ แต่นี่คุณตัวผู้หญิงเองก็อายุอานามก็ใช่น้อยแล้ว ที่คิดและแยกอะไม่ออก แต่มันเป็นเพราะความอยากของตัวเองนั้นแหละ พอเกิดเรื่อง และ สังคมรับรู้แล้ว ออกมากุเรื่องอย่างนั้น อย่างนี้ ทำให้ทุกฝ่ายเขาเดือดร้อน อย่าถือว่าตัวเองเป็นผู้หญิง แล้ว เดี๋ยว องค์กรนู้น องค์กรนี้เข้ามาช่วยเหลือเองแหละ เอาหน้าถู ๆ ไถ ๆ ไปออกรายการนู้นนี้ มันน่าอับอายยิ่งนัก
สรุป ก็คือ มันก็เลวกันทั้งนั้นแหละ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ประชาชน
เรทกระทู้
« ตอบ #29 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 16:34 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

แอนนี่ไม่ตรวจเพราะรู้แก่ใจว่าไม่ใช่ลูกฟิล์ม แม่ฟิล์มก็ยืนยันว่าไม่แย่งเด็กแน่นอนแล้ว

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ขอเอี่ยว
เรทกระทู้
« ตอบ #30 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 16:54 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ขอเข้าข้างแอนนี่ ใครจะเข้าข้างฟิล์ม ก็เข้าข้างไป ถึงตรวจ DNA แล้วไ ม่ใช่ลูกฟิล์ม ก็ขอให้กำลังใจแอนนี่ ให้เธอเข้มแข็งและเลี้ยงลูกต่อไป

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
เอี่ยวด้วย
เรทกระทู้
« ตอบ #31 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 16:57 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ตรวจไปก็ไม่จบ สนุกปากกันต่อไป ชีวิตจริงเข้มข้นกว่าละคร

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ตรวจDNA เพื่อสร้างหรือ ไร
เรทกระทู้
« ตอบ #32 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 17:14 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

การที่พูดกัน ให้ตรวจ DNA นั้น พูดกันไปแล้ว คำนึงถึง ตัวเด็กที่กำลังจะเติบโตขึ้นมาหรือไม่

ตรวจเพื่อสร้างชีวิตครอบครัวให้กับเขา หรือเป็นการตรวจเพื่อปัดความรับผิดชอบเขา

ไม่ว่าผลการตรวจจะออกมาอย่างไร ข่าวนี้ได้กลายเป็นข่าวเปิดเผยสาธารณะแล้ว
ดังนั้น ทุุกคนต่างจับจ้องอยากให้มีการตรวจขึ้นมา

แต่ถ้าเด็กเขาเกิดมาแล้วพูดได้เลย การจะตรวจเขา เขาอาจจะไม่อยากให้เกิดการตรวจขึ้นมาก็ได้
เพราะไม่อยากรับรู้

เพราะนั้นหมายถึงว่าจะสร้างครอบครัวผูกพันธ์กับเขา หรือจะเกิดความเป็นอื่นกับเขาเพราะไม่ใช่ต่างๆ นานาที่คนโจษพูดกันไป

ดังนั้น คนทั่วไปควรรักษามารยาท อย่าไป ใส่ใจกับเรื่องส่วนบุคคลอื่นจะดีที่สุด
ปล่อยให้คู่กรณีเขาตัดสินชีวิตเขากันเอง

เพราะเด็กคนนี้ มีสิทธิในความเป็นมนุษย์เหมือนคนทุกคน ถือเป็นชีวิตหนึ่งที่ต้องการความรักเอ็นดูเขาต่อๆ ไปในอนาคต
มากกว่าอยากเป็นข่าว ทอล์กออฟ เดอะทาวน์ที่คนพูดกันเป็น อินฟินิตี้ อนันต์

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ไม่ขอเอ่ยนาม
เรทกระทู้
« ตอบ #33 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 17:14 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าบทความนี้ก้อเป็นบทความที่ดีนะค่ะ ถึงแม้ว่าเรื่องราวต่างๆ จะดำเนินมามากจนกลายเป็นเรืองราวใหญ่โตได้ขนาดนี้ก็เป็นเพราะว่าคนทั้งสองคนนี้เป็นดาราเป็นที่รู้จักกันดีทั่วทั้งประเทศ (โดยเฉพาะฝ่ายชาย)และคงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ให้บุคคลทั่วไปไม่รับรู้เรื่องราวเหล่านี้ได้ มันเป็นเรื่องธรรมดา และคงต้องใช้เวลา (ไม่รู้ว่าจะอีกนานแค่ไหน)
สำหรับเวลานี้ สิ่งเดียวที่ทำได้คือ ปล่อยมันไป ดำเนินชีวิตของเราต่อไป ทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วเวลาก้อจะเป็นเสมือนยาคอยรักษาตัวเราเอง สิ่งที่ผ่านมาแล้วเดี่ยวมันก้อผ่านไป อดีตเราเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว เดินหน้าต่อไปเถอะค่ะ

สำหรับคุณฟิล์ม ตอนนี้ไม่รู้ว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะเจอมรสุมชีวิตหนักหนาสาหัส ก้อควรมีสติไว้บ้าง ชีวิตเป็นสีงที่มีค่าทึสุดสำหรับมนุษย์เราแล้ว ถ้าเราไม่รักตัวเอง ทำร้ายตัวเอง ก้อไม่มีใครสามารถช่วยเราได้หรอก ถึงจะมีหมอ มียา แต่ถ้าจิดใจ เราไม่เข้มแข็งพอก้อไม่สามารถรักษาได้หรอกค่ะ

สำหรับคุณแอนนี่ ตอนนี้ส่งที่สำคัญที่สุดก้อคงไม่พ้นลูกชายแน่นอน ก้อขอให้กำลังใจก้อแล้วกัน ขอให้เลี้ยงเด็กคนนี้อย่างเต็มที่นะค่ะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
อีกละ
เรทกระทู้
« ตอบ #34 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 17:24 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

นี่ๆๆๆๆๆๆ ฟิล์มเค้าออกมายอมรับแต่แรกแล้วคุ๊ณณณณณณณณ ว่ามีอะไรกับแอนนี่จริงๆ อะไรจะพูดทั้งที พูดทำไมให้มันยาวมากมาย คุณเองก็เป็นคนหนึ่งที่เข้าข้างแอนนี่ แล้วก็ออกมาแสดงความคิดเห็น เหมือนคนที่คุณเขียนแต่ไม่ได้กล่าวถึงนั่นแหละ ไม่ควรยุ่งเรื่องของเค้าไปมากกว่านี้แล้ว มีทุกอย่างที่ทุกคนที่ออกมาพูด กล่าวตรงกันก็คือ "ความจริงจะพิสูจน์ทุกอย่าง" เลิกเอาความคิดของตัวเองมาเขียนนู่นนี่ วิพากย์วิจารณ์เหอะ บ้ารึปล่าว q*00

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #35 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 17:35 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 


เห็นด้วยมากมายค่ะ
ก็สังคมมีคนแบบคุณ2คนเยอะ
ถึงได้เป็นกันอยู่แบบนี้
ทุกคนมีสิทธิแสดงความคิดเห็นเช่นที่คุณ2คนแสดงอยู่นี้แหละค่ะ
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
sakon
เรทกระทู้
« ตอบ #36 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 17:49 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ทำไมต้องตรวจด้วย ตรวจแล้วมันสะใจพวกอยากรู้ แล้วได้อะไรใช่ก๊เจ็บ ไม่ใช่ก๊เจ็บ ตัวเราเป็นของเรา สู้ๆๆๆๆๆๆๆแอนนี่ อย่าตรวจ เพราะเขาเป็นลูกของเธอแอนนี่

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
No man
เรทกระทู้
« ตอบ #37 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 17:57 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ฟ นี่หาความเป็นลูกผู้ชายไม่มีเลย ถึงว่าเอากะเค้าไปทั่วทั้ง ก ต ญ ช
ถ้าตรวจ DNA แล้วเกิดเป็นพ่อขึ้นมาจริง ๆ น่ะ น่าสงสารเด็กมากกว่า

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #38 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 18:51 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คุณบอกว่าผู้ชายไม่ใส่ถุงยางอนามัย แล้วทำไมผู้หญิงไม่กินยาคุม โทษผู้ชายฝ่ายเดียวไม่ได้ ตอนที่ท้องเดือนหรือสองเดือนอาจจะยังไม่รู้ว่าท้องก็ได้ก็เลยนอนกับผู้ายคนต่อไป พอรู้ว่าท้องก็เริ่มนับถอยหลังแบบสุ่มสี่สุ่มห้า ว่าผู้ชายคนนี้เป็นพ่อของเด็ก
เรื่องตรวจดีเอ็นเอ ถ้าผู้ชายเป็นพ่อของเด็กจริง ก็ตกลงกันก่อน ที่จะไปตรวจ ว่าแม่จะรับเลี้ยงเอง ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น
ไม่ตรวจก็เพราะกลัว

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
คลุมเคลือ
เรทกระทู้
« ตอบ #39 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 19:22 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ถ้าเป็นฉัน ฉันจะตรวจดีเอ็นเอ ให้รู้ว่าใครเป็นพ่อ ถ้าไม่ตรวจก้อเหมือนไม่พูดความจริงนะซิ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
แน่จริง
เรทกระทู้
« ตอบ #40 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 19:49 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ก็ไปฟ้องศาลเลยแล้วที่สำคัญที่สุด การตรวจดีเอ็นเอ นั้นต้องมีคนกลางเพื่อความยุติธรรม(ผลการตรวจที่เชื่อถือได้) เพื่อจะได้ไม่ใช้เงินซื้อเพื่อจะได้ทำมาหากินได้ต่อ แต่ในเมื่อมาถึงขั้นนี้เป็นผู้หญิงที่ไหนจะมาแคร์ให้มารับเป็นพ่อเด็ก ขนาดลูกออกมา 3 เดือนแล้ว ยังไม่แสดงความเป็นพ่อเลย และยิ่งโดนสังคมบีบบังคับมันเปล่าประโยชน์ ในเมื่อมีแค่กายแต่ไม่ได้มีจิตใจที่จะรับผิดชอบเด็ก อย่าเลยต่อไปจะสร้างปัญหามากกว่านี้อีก ในเมื่อเขาไม่ต้องการก็ปล่อยเขาไป และแอนนี่ก็เลิกที่จะคิดอะไรแล้วมีแต่พวกพ้องที่เสียผลประโยชน์นั้นแหละเป็นเดือดเป็นร้อนกัน

สงสาร แอนนี่เปรียบเสมือนชายฝั่งที่โดนคลื่นมากระทบ แต่ ตราบใดที่คลื่นยังซัดไม่หยุดตัวคลื่นเองนั้นแหละจะเหนื่อยเปล่า
แอนนี่เข้มแข็งดังชายฝั่งไว้นะ ปล่อยให้คลื่นมันซัดไปเถอะเปรียบเสมือนจิตใจที่ต้องกระเพือมอยู่ตลอดเวลาเพราะตนนั้นเองที่สร้างเรื่องขึ้นไว้

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #41 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 21:19 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*003q*003มองในแง่ดีถือว่าเป็นกรณีศึกษาละกัน อย่าไปกล่าวโทษใครเลย คนทำกรรรม กระทำอะไร ก็ย่อมได้ผลของการกระทำนั้น เราเพียงรับรู้ เอาไว้สอนลูกสอนหลาน อย่าเอามาเป็นอารมณ์ เมื่อถึงสุดท้ายเขาย่อมมีทางเป็นไปของพวกเขา เราทำได้ก็ให้กำลังใจ อย่าไปตัดสินเขา เราไม่ใช่ศาล ให้เขาฟ้องกันให้ศาลตัดสินผิดถูกด้วยเหตุผลและหลักฐาน อันนั้นคือการตัดสิน

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
mk
เรทกระทู้
« ตอบ #42 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 21:35 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ก็ไม่เห็นต้องไปวุ่นวายมากเลย ยังไงซะแอนนี่ก็ไม่ตรวจดีเอนเออยู่แล้ว ทุกอย่างก็จบ ง่ายจะตาย ในเมื่อเค้าพูดว่าฟิล์มเป็นพ่อเด็ก แต่ไม่ยอมพิสูจน์หรือพิสูจน์ไม่ได้ ก็ให้มันจบไปเฉยๆแบบนี้แหล่ะ

เพราะว่าจะไปตราหน้าฟิล์มว่าไม่ยอมรับแอนนี่และลูกก็ไม่ได้ ฟิล์มมีอะไรกับแอนนี่จริงแต่ลูกจริงหรือเปล่าไม่มีหลักฐาน ก็พูดได้อย่างเดียวว่าจบๆเรื่องไปเหอะ มันไม่มีอะไรคืบหน้าแล้ว แล้วก็เสียหายกันไปหมดทุกฝ่ายแล้ว ทุกคนตกต่ำถึงที่สุดแล้วไม่มีอะไรมากไปกว่านี้แล้ว

ก็เลิกนำเสนอข่าวซะเถอะ หาข่าวอื่นๆที่เป็นเรื่องดีๆมีประโยช์กว่านี้ดีกว่า เรื่องนี้ก็เป็นบทเรียนให้ใครต่อใครหลายๆคนไปแล้ว ยังไงซะก็เป็นกำลังใจให้ทั้งแอนนี่และฟิล์ม ขอให้แอนนี่เข้มแข็ง เจ้าตัวเล็กก็เหมือนกัน ส่วนฟิล์มก็พลาดไปแล้วเป็นผู้ใหญ่ซะที ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ต้องรอบคอบ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
สำนึก
เรทกระทู้
« ตอบ #43 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 21:55 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ปล่อยวางไม่มีใครตายสักหน่อยเรื่องอื่นมีคนตายไม่นานก็ลืม q*037

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
เพื่อนกัน
เรทกระทู้
« ตอบ #44 เมื่อ: 4 ต.ค. 10, 22:11 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
เรื่องนี้เป็นเรื่องความสัมพันธ์ทางกายของคน 2 คนที่ลึกซึ้งในระยะสั้นๆ แต่ขาดความรัก ความผูกพันธ์ที่ควรมี เมื่อเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดแต่ยิ่งใหญ่ตามมา มีผู้คนมากมายอยากเป็นส่วนร่วม ออกข้อคิดเห็น เข้าข้าง แสดงพลัง เรียกร้อง ข้อผิดพลาดก็ขยายกว้างใหญ่ออกไป ข้อผิดพลาดต่างๆในอดีตถูกเอาออกมาตีแผ่ มีคนสูญเสียมากขึ้นเรื่อยๆ บางคนได้ บางคนเสีย บางคนทั้งได้ทั้งเสีย ผู้คนตามข่าว สืบเสาะ เพราะอยากรู้ เพราะต้องการจับโกหก สังคมแบ่งพรรค แบ่งฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเน้นจริยธรรมว่าด้วยเรื่องผู้หญิงและเด็ก ฝ่ายหนึ่งเชื่อหลักความจริงต้องได้รับการพิสูน์ บางฝ่ายเชื่อกฎแห่งกรรม บางฝ่ายก็แต่อยากรู้กับสิ่งที่ตนเองสงสัย สังคมไม่ได้มีสองมาตราฐาน แต่สังคมไม่มีมาตราฐานเลย ทุกคนอ่านข่าวๆเดียวกันแต่คิดและเชื่อตามความคิดของตัวเอง สังคมเริ่มแตกแยกออกไปเรื่อยๆ คนทะเลาะกันมากขึ้นเรื่อยๆ
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Tags:  

หน้า: 1 2  ทั้งหมด

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม