คนเสื้อแดงได้รับการยกย่องจากนักประชาธิปไตยทั่วโลก

[เมื่อ:]

คนเสื้อแดงได้รับการยกย่องจากนักประชาธิปไตยทั่วโลก รวมทั้งยังได้รับการยกย่องจากคนไทยในต่างแดนโดย Asia Pacific News Line ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2010 เวลา 0:12 น.


จากการสำรวจจากนิตยสารเอเชียแปซิฟิกเวิลล์ เมื่อวันที่8พ.ย.53ที่ผ่านมาจากประชาชนทั่วโลกจำนวน 1.5ล้านคนทั่วโลก 97.85% มองว่าคนเสื้อแดงเป็นนักประชาธิปไตยที่แท้จริงปลอดจากการซื้อหรือการว่าจ้าง นายอีวาน แอนเดอร์สัน นักวิชาการด้านประชาธิปไตย สหรัฐฯเชื่อว่าคนเสื้อแดงไม่ได้ถูกจ้างมาจากอดีตนายกฯทักษิณ และคนทั่วโลกฝากกำลังใจมายังคนเสื้อแดงด้วยโดยคนในสหภาพยุโรปให้การยอมรับว่าการต่อสู้ของคนเสื้อแดงมาถูกทางแล้ว

[ตอบ #1 เมื่อ:]

ยัยบ้าเสื้อแดง เมื่อไหร่จะหายบ้า น่ารำคาญ รกบอร์ด

[ตอบ #2 เมื่อ:]

อดทนหน่อยนะ รู้สึกว่าจะถูกจองกฐินจากขาประจำแล้วหล่ะ ตั้งกระทู้ทีไรเห็นแกมาของแกได้ทุกที ไปเหยียบตาปลาแกไว้หรือปล่าว

[ตอบ #3 เมื่อ:]

คิดได้แค่เนี้ย พวกสมองสนัข ปัญญาลา โลกเขาไปถึงใหนกันแล้วแต่แกยังกอดซากศพ ประจบสอพลอ ฆาตรกรสั่งฆ่าประชาชน กินอะไรว่ะ

[ตอบ #4 เมื่อ:]

เป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองไม่น้อยกับการที่กองทัพอากาศได้ส่งตัวแทนเจ้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายทหารอากาศยศนาวาอากาศตรีนายหนึ่งฐานโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กในลักษณะโจมตีสถาบันเบื้องสูง พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการสอบสวนและสั่งให้ออกจากราชการเอาไว้ก่อน จนกว่าจะมีผลสรุปทางคดีออกมา

ที่ว่าน่าจับตาก็เป็นเพราะนี่คือความเคลื่อนไหวล่าสุดของกองทัพ ที่คราวนี้บังเอิญว่ามีการแถลงข่าวเปิดเผยมาจาก โฆษกกองทัพอากาศทำให้ได้ทราบเรื่องดังกล่าว แม้ว่าที่ผ่านมาสังคมจะรับรู้ถึงเรื่อง “ทหารแตงโม” ในลักษณะที่เป็นเครือข่ายของ ทักษิณ ชินวัตร คอยรายงานความลับของทางราชการไปให้พวกเดียวกันได้รับรู้อยู่เนืองๆ โดยเฉพาะในช่วงของการชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อเดือนเมษายนต่อเนื่องมาถึงพฤษภาคม ที่ผ่านมา ในลักษณะที่ว่าขนาดศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ประชุมลับกันยังไม่ทันเสร็จสิ้น หรือยังไม่ทันเดินออกจากห้องประชุมด้วยซ้ำไปกลับกลายเป็นว่า ข่าวก็ได้รั่วไปถึงหูของบรรดาแกนนำเสื้อแดงจนมีการตั้งรับและล้อมกรอบเจ้าหน้าที่จนปั่นป่วนมาแล้วหลายรอบ

การรับรู้ถึงทหารแตงโมในลักษณะดังกล่าวภายในกองทัพมีมาอย่างต่อเนื่อง แต่ที่ผ่านมาสายตาพุ่งไปที่กองทัพบกเป็นหลัก ซึ่งในยุคนั้นเป็นยุคที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ยังเป็นผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งมีการจับตากันว่าบรรดาทหารแตงโมเหล่านั้นมักจะเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ที่อยู่นอกวงจรอำนาจเท่านั้น หรือมีลักษณะของอดีตนายทหารที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว มีการให้สัมภาษณ์โจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ดังกรณีที่เกิดขึ้นกับบรรดา “ทหารแก่” กลุ่มหนึ่งขณะยกขบวนตบเท้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเมื่อหลายเดือนก่อน ภาพที่ออกมายังไม่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับ “ขบวนการล้มเจ้า” เท่าใดนัก

แต่ล่าสุดจากการแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าวถือว่า น่าตกใจไม่น้อย เพราะเป็นกำลังพลในกองทัพซึ่งหนึ่งในภารกิจหลักคือพิทักษ์และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ยิ่งชีวิต และน่าตกใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ นายทหารที่ถูกดำเนินคดีดังกล่าวเป็นนายทหารรุ่นหนุ่มมียศแค่นาวาอากาศตรี ซึ่งมีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

อย่างไรก็ดีปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นหากพิจารณาอีกมุมหนึ่งย่อมแสดงให้เห็นถึงความตื่นตัวของกองทัพในการเก็บกวาดสะสางปัญหาภายในที่สะสมมานาน ขณะเดียวกันยังเป็นการ “กระชับพื้นที่” กันเป็นการภายในเพื่อกันพวก “ทหารแตงโม-ล้มเจ้า” ออกไป และนี่คือปฏิบัติการ “กวาด” ให้เห็นเป็นรูปธรรม

ที่ผ่านมาหากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าเริ่มมีการขยับกันตั้งแต่การประกาศสงครามกับพวกขบวนการล้มเจ้าของ ผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และกำชับให้กำลังพลในกองทัพทำหน้าที่ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเข้มแข็ง ขณะเดียวกันหากพิจารณาจากตำแหน่งของเขาในเวลานี้ก็คือผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ถือว่ามีความสำคัญ

นอกเหนือจากนี้ หากพิจารณาจากจุดยืนและที่มาของ ผู้บัญชาการทหารอากาศคนปัจจุบัน คือ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ที่ขึ้นมาแทนที่ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุก อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ และอดีตรักษาการประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่ร่วมก่อการรัฐประหารรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ออกไป เมื่อพิจารณาจากปูมหลังถือว่าอยู่คนละขั้วกันอยู่แล้ว ขณะเดียวกันยังเป็นการขยับให้เห็นว่าเริ่มเอาจริงกับพวกขบวนการล้มเจ้าที่แฝงตัวอยู่ในกองทัพอย่างเป็นทางการอีกด้วย

ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ การเคลื่อนไหวของพวกขบวนการล้มเจ้าพวกนี้จากการเปิดเผยข้อมูลลับในที่ประชุม “สภากลาโหม” โดยเฉพาะการจาบจ้วง และทำลายสถาบันที่กำลังระบาดอย่างหนักในสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ก ซึ่งการจับกุมครั้งล่าสุดที่ผู้ต้องหาเป็นทหารอากาศยศนาวาอากาศตรีดังกล่าวก็มาจากการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กหลายครั้งเช่นเดียวกัน

หากพิจารณาตามเส้นทางแล้วคนกลุ่มนี้ล้วนเคลื่อนไหวเกาะเกี่ยวกันไปกับขบวนการเสื้อแดง และขบวนการทักษิณ และที่ผ่านมาในช่วงประมาณเดือนเศษฝ่ายอำนาจรัฐปัจจุบัน โดยเฉพาะฝ่ายกองทัพที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกคนปัจจุบันที่เข้ามาจัดระเบียบ และไล่บี้กันอย่างขนานใหญ่ เพราะเพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้นก็เริ่มมีการจับกุมผู้ต้องหาในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่หลับหนีหมายจับมาเป็นเวลานานได้โดยง่าย ที่เห็นได้ชัดก็คือกรณีการจับกุม สุชาติ นาคบางไทร แนวร่วมคนเสื้อแดงเมื่อไม่กี่วันก่อน

ขณะเดียวกันยังมีการเร่งปิดและบล็อกเว็บไซต์ที่จาบจ้วงสถาบันตามมาอีกนับร้อยนับพันเว็บในเวลาไล่เลี่ยกันสะท้อนให้เห็นถึงการตื่นตัวอย่างเห็นได้ชัด

ปรากฎการณ์ดังกล่าวในภาพรวมถือว่ากลไกของรัฐกำลังทำงานในการบังคับใช้กฎหมายอย่างได้ผลมากขึ้นเรื่อยๆ และหากโฟกัสเข้าไปในกองทัพก็ยิ่งเห็นภาพชัดขึ้นเช่นเดียวกันว่าเริ่มมีการ “กระชับพื้นที่” เพื่อกวาดทหารแตงโมออกไปให้พ้นทาง !!

[ตอบ #5 เมื่อ:]

อดทนหน่อยนะ รู้สึกว่าจะถูกจองกฐินจากขาประจำแล้วหล่ะ ตั้งกระทู้ทีไรเห็นแกมาของแกได้ทุกที ไปเหยียบตาปลาแกไว้หรือปล่าว


คิดได้แค่เนี้ย พวกสมองสนัข ปัญญาลา โลกเขาไปถึงใหนกันแล้วแต่แกยังกอดซากศพ ประจบสอพลอ ฆาตรกรสั่งฆ่าประชาชน กินอะไรว่ะ

ครับ ... ต้องอดทน

สู้ได้ให้เราสู้

สู้ไม่ได้ให้เราถอย

ถอยไม่ได้ให้เราทน

ใครแช่งใครชังช่างเถิด

ใครเชิดใครชูช่างเขา

ใครเบื่อใครบ่นทนเอา

ใจเราร่มเย็นเป็นพอ

[ตอบ #6 เมื่อ:]

พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีและประธานที่ปรึกษาของพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งเป็นนักการเมืองอาวุโสได้ออกมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 9 พ.ย.ว่าได้ไปพบกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรีผู้ที่หนีคดีอาญาที่ราชอาณาจักรนอรเวย์เมื่อวันที่ 6 พ.ย.โดยแจ้งว่าไปพบขณะเดินทางไปทอดกฐินที่วัดไทยในประเทศดังกล่าว

รองนายกรัฐมนตรีผู้คร่ำหวอดในแวดวงการเมืองของไทยเผยด้วยว่าอดีตนายกรัฐมนตรีเห็นด้วยกับแนวทางปรองดองที่ให้คนในชาติหันหน้าเข้าหากัน ขอให้ทุกคนลืมอดีตร่วมมือกันแก้ไขปัญหาของประเทศ

ซึ่งข้อเสนอของอดีตนายกรัฐมนตรีขอให้ลืมอดีตนั้น รองนายกรัฐมนตรีไม่ได้บอกว่าจะต้องมีการนิรโทษกรรมพ.ต.ท.ทักษิณที่มีข้อหาตามกฎหมายทุกๆคดีหรือไม่เพราะเป็นที่ทราบกันว่าตัวอดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองที่ชื่อไทยรักไทยนั้นเป็นผู้ต้องหาทั้งพฤติกรรมในอดีตและพฤติกรรมที่ก่อขึ้นในปัจจุบัน

พล.ต.สนั่นยังได้เผยด้วยว่าขอให้ตนทำงานก่อนว่ามีเงื่อนไขอย่างไรโดยจะรวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไปพบกับแกนนำของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย นายทหารในกองทัพและขบวนการ นปช.หรือคนเสื้อแดงที่ออกมาก่อเหตุร้ายเผาบ้านเผาเมืองเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมาซึ่งคาดว่ากระบวนการจะสมบูรณ์ในเดือนม.ค.ปี 2554 นี้

ขณะนี้มีรายงานว่าตัวอดีตนายกรัฐมนตรีผู้ที่หลบหนีคดีอาญามาพักอยู่ที่สาธารณรัฐเลบานอนในตะวันออกกลางโดยอ้างว่าเข้าไปทำธุรกิจซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าการที่อดีตนายกรัฐมนตรีมาอยู่ในเลบานอนนั้นเนื่องจากประเทศไทยกับเลบานอนไม่มีสัญญาส่งตัวผู้ต้องหาคดีอาญาระหว่างกันเช่นเดียวกับรัฐดูไบ

ปัญหาความแตกแยกในบ้านเมืองของเรานั้น ต้นตอหลักของปัญหานั้นอยู่ที่อดีตนายกรัฐมนตรีที่ได้กระทำทุกวิถีทางที่จะโค่นล้มอำนาจรัฐในปัจจุบันที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเป็นนายกรัฐมนตรีให้สำเร็จเพื่อจะได้เดินทางกลับเข้ามามีอำนาจทางการเมืองอีกครั้ง

การออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยของขบวนการ นปช.หรือคนเสื้อแดงที่เกิดขึ้นในประเทศของเราในปี 2552 และปีนี้จนทำให้เกิดสถานการณ์เป็นสงครามกลางเมืองย่อมๆในบ้านเมืองนั้นเป็นที่ทราบกันดีว่าอดีตนายกรัฐมนตรีและบรรดาสมัครพรรคพวกอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น

ถ้าหากข้อเสนอขอปรองดองของอดีตนายกรัฐมนตรีมีการระบุว่าขอให้ตัวเขาและพรรคพวกได้รับนิรโทษกรรมจากคดีอาญาต่างๆที่ได้ก่อขึ้นก็เชื่อว่าประชาชนเป็นจำนวนมากที่มีจิตใจเป็นธรรมคงจะไม่ยอมให้มีการนิรโทษกรรมเพราะเท่ากับว่าคนที่กระทำผิดไม่ต้องได้รับโทษตามกฎหมายซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง

บทบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์แนวหน้า
วันที่ 10/11/2010
ที่มา : http://www.naewna.com/news.asp?ID=235825

[ตอบ #7 เมื่อ:]

บ้า คิดได้แค่เนี้ย พวกสมองสนัข ปัญญาลา โลกเขาไปถึงใหนกันแล้วแต่แกยังกอดซากศพ ประจบสอพลอ ฆาตรกรอาชญากรหนีคุก สั่งฆ่าประชาชน กินอะไรว่ะ

[ตอบ #8 เมื่อ:]

ยัยบ้าเสื้อแดง เมื่อไหร่จะหายบ้า น่ารำคาญ รกบอร์ด

แล้วนึกว่าตรูพิศวาทแกเหรอ ได้เชิญ มาเมื่อไหร ไม่ชอบไม่ต้องเข้ามา ต่างคนต่างอยู่ เฟ้ย ไม่ต้องแกว่งปากหาเสี้ยนแถวนี้ รำคาญเหมือนกัลลล์แหละ
บอกแล้ว ไม่เคยยุ่งกับใครก่อน

[ตอบ #9 เมื่อ:]

จขกท มีอาการคลุ้มคลั่งอีกแล้วรอบใหม่

ตอนนี้ชักสงสัย ใครมันคลั่งกันแน่

[ตอบ #10 เมื่อ:]

เพิ่งสงสัยเหรอ เมื่อก่อนยอมรับตัวเองว่าคลั่งเหรอ พอบ้ามากขึ้นก็อย่างนี้แหละ ฟุ้งซ่าน สงสัยระแวงไปหมด

[ตอบ #11 เมื่อ:]

อดทนหน่อยนะ รู้สึกว่าจะถูกจองกฐินจากขาประจำแล้วหล่ะ ตั้งกระทู้ทีไรเห็นแกมาของแกได้ทุกที ไปเหยียบตาปลาแกไว้หรือปล่าว

ขอบคุณที่แวะมาคร้า


ไม่ได้เหยียบตาปลาหรอกมันหรอก สงสัยเผลอเหยียบหางมัน อิอิอิ
ถึงทุรนทุรายได้ขนาดนี้ แต่ช่างเถอะ ไม่ได้ซีเรียส นึกว่าเล่นกับหมาก็แล้วกัน ชอบเลี้ยงหมาอยู่แระ


คุณแจ็ค เนี่ย ดูท่าใจดี อารมณ์เย็น เนอะ ๆๆๆ

[ตอบ #12 เมื่อ:]

บ้า คิดได้แค่เนี้ย พวกสมองสนัข ปัญญาลา โลกเขาไปถึงใหนกันแล้วแต่แกยังกอดซากศพ ประจบสอพลอ ฆาตรกรอาชญากรหนีคุก สั่งฆ่าประชาชน กินอะไรว่ะ

ขอบคุณที่แวะมา บายดีนะคร้า

[ตอบ #13 เมื่อ:]

เพิ่งสงสัยเหรอ เมื่อก่อนยอมรับตัวเองว่าคลั่งเหรอ พอบ้ามากขึ้นก็อย่างนี้แหละ ฟุ้งซ่าน สงสัยระแวงไปหมด

ถูกต้อง แล้วค๊าบ 55555

[ตอบ #14 เมื่อ:]

อดทนหน่อยนะ รู้สึกว่าจะถูกจองกฐินจากขาประจำแล้วหล่ะ ตั้งกระทู้ทีไรเห็นแกมาของแกได้ทุกที ไปเหยียบตาปลาแกไว้หรือปล่าว


คิดได้แค่เนี้ย พวกสมองสนัข ปัญญาลา โลกเขาไปถึงใหนกันแล้วแต่แกยังกอดซากศพ ประจบสอพลอ ฆาตรกรสั่งฆ่าประชาชน กินอะไรว่ะ

ครับ ... ต้องอดทน

สู้ได้ให้เราสู้

สู้ไม่ได้ให้เราถอย

ถอยไม่ได้ให้เราทน

ใครแช่งใครชังช่างเถิด

ใครเชิดใครชูช่างเขา

ใครเบื่อใครบ่นทนเอา

ใจเราร่มเย็นเป็นพอ

ขอบคุณที่แวะมาคร้า อ้อ กลอนได้อารมณ์ดีจัง ชอบอ่านค่ะ

[ตอบ #15 เมื่อ:]

เป็นบ้า ก็ต้องไปโรงพบาบาลให้หมอรักษานะ สาวเสื้อแดง

[ตอบ #16 เมื่อ:]

เป็นบ้า ก็ต้องไปโรงพบาบาลให้หมอรักษานะ สาวเสื้อแดง

นายไปรักษาตัวให้หายก่อนแล้วกัน ขนาดตัวเองยังรักษาไม่หาย แล้วจะมาแนะนำคนอื่น ชิมิชิมิ

[ตอบ #17 เมื่อ:]

ใครไปพูดอะไรไม่เข้าหูป้าอีกแระ บอกแล้ว ต้องมีเมตตา ต่อคนบ้า ค่อยพูดค่อยจา คนบ้ามักอารมณ์ขึ้นๆลงๆ ไม่แน่นอน คุ้มดีคุ้มร้าย ป้าไปกินยาระงับประสาทเถอะนะป้า

[ตอบ #18 เมื่อ:]

ประชาธิปไตยคงจะแปลว่า พวกใครมากก็ชนะไป อะไรงี้ ..

[ตอบ #19 เมื่อ:]

คนเสื้อแดงได้รับการยกย่องจากนักประชาธิปไตยทั่วโลก รวมทั้งยังได้รับการยกย่องจากคนไทยในต่างแดนโดย Asia Pacific News Line ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2010 เวลา 0:12 น.


จากการสำรวจจากนิตยสารเอเชียแปซิฟิกเวิลล์ เมื่อวันที่8พ.ย.53ที่ผ่านมาจากประชาชนทั่วโลกจำนวน 1.5ล้านคนทั่วโลก 97.85% มองว่าคนเสื้อแดงเป็นนักประชาธิปไตยที่แท้จริงปลอดจากการซื้อหรือการว่าจ้าง นายอีวาน แอนเดอร์สัน นักวิชาการด้านประชาธิปไตย สหรัฐฯเชื่อว่าคนเสื้อแดงไม่ได้ถูกจ้างมาจากอดีตนายกฯทักษิณ และคนทั่วโลกฝากกำลังใจมายังคนเสื้อแดงด้วยโดยคนในสหภาพยุโรปให้การยอมรับว่าการต่อสู้ของคนเสื้อแดงมาถูกทางแล้ว

นอกจากสื่อที่อ้างมาแล้วอย่าลืมบวก สำนักล็อบบี้อัมสเตอร์ดัมส์ด้วย จะได้ดูขลังขึ้นนะ

[ตอบ #20 เมื่อ:]

ทักษิณและแกนนำเสื้อแดงมักปลุกระดมชาวบ้านเสมอว่า พวกตนถูกกระทำแบบ "สองมาตรฐาน"

ในความหมายว่า พวกตนถูกกลั่นแกล้ง รังแก หรือทำให้ไม่ได้รับความเป็นธรรมเท่าเทียมกับคนกลุ่มอื่นๆ ในสังคม

ล่าสุด ภายใต้ความดูแลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีกรณีสองมาตรฐานที่ชัดเจนโจ่งแจ้ง

1) พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ ถูกคำพิพากษาของศาลฎีกาให้ลงโทษจำคุก และประหารชีวิต

ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 พ.ย.2553 มีราชกิจจานุเบกษา เนื้อหาระบุให้ถอดยศตำรวจ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ "...เนื่องจากต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก..."

สะท้อนว่า การถอดยศก็ดี การเรียกคืนเครื่องราชฯ ก็ดี ล้วนแต่เป็นเรื่องที่มีการดำเนินการอยู่เป็นปกติ เมื่อมีเหตุเข้าเงื่อนไขตามระเบียบราชการให้ดำเนินการถอดยศหรือเรียกคืนเครื่องราชฯ

2) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกศาลฎีกาฯ พิพากษาให้ลงโทษจำคุกมาเกือบ 2 ปีแล้ว

คือ คดีที่ดินรัชดาฯ

แต่ทักษิณก็ยังหลบหนี เสวยสุขอยู่ต่างแดน โดยไม่เคยถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเหมือนผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาทั่วไป

ยิ่งกว่านั้น ช่วงวิกฤติการณ์เผาบ้านเผาเมือง ฆ่าทหาร วางระเบิด ก่อจลาจล เผาศาลากลาง มีคนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ทักษิณก็ยังมีพฤติกรรมในทางปลุกระดม ยุยงส่งเสริม ทำให้เกิดความกระด้างกระเดื่องต่อกฎหมายบ้านเมือง

แต่จนแล้วจนรอด จนถึงบัดนี้ ทักษิณก็ยังลอยนวล ไม่เคยกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเหมือนเช่นประชาชนคนไทยทั่วไปเลยแม้แต่น้อย

กรณีที่มีการยื่นเรื่องขอให้มีการถอดยศทักษิณ ก็ยังคาอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ยังไม่มีการถอดยศทักษิณจนถึงทุกวันนี้

3) กรณีเกี่ยวกับการถอดยศตำรวจ จะต้องทำตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการถอดยศ พ.ศ.2547 (ออกมาในยุคทักษิณ) ประกาศ ณ วันที่ 4 มี.ค.2547 ระบุว่า

"...เนื่องจากผู้ที่ดำรงอยู่ในยศตำรวจ สมควรจะประพฤติหรือวางตนให้เหมาะสมแก่เกียรติศักดิ์ มิฉะนั้น ย่อมเป็นทางนำความเสื่อมเสียมาสู่หมู่คณะ โดยเหตุผลดังกล่าว หากผู้ใดประพฤติหรือวางตนให้เหมาะสมแก่เกียรติศักดิ์ไม่ได้ ก็ไม่สมควรจะดำรงอยู่ในยศตำรวจต่อไป..."

"...การเสนอขอถอดยศตำรวจทั้งแก่ผู้ที่อยู่ในราชการตำรวจ และที่พ้นจากราชการตำรวจไปแล้ว ให้กระทำได้เมื่อมีเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้

(1) ต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุด ว่าทุจริตต่อหน้าที่ราชการ แม้ศาลจะพิพากษารอการกำหนดโทษ หรือกำหนดโทษแต่รอการลงโทษไว้ก็ตาม

(2) ต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก หรือโทษที่หนักกว่าจำคุก เว้นแต่ความผิดลหุโทษ หรือความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท

(3) ต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้เป็นบุคคลล้มละลาย เพราะก่อให้เกิดหนี้สินขึ้นโดยทุจริต

(4) กระทำผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีคำสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการ

(5) ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง สำหรับผู้ที่มิได้อยู่ในราชการหรือหน่วยงานของรัฐ

(6) ต้องหาในคดีอาญาแล้วหลบหนีไป สำหรับผู้ที่มิได้อยู่ในราชการหรือหน่วยงานของรัฐ

(7) ถูกสั่งให้ออกจากราชการ เพราะขาดคุณสมบัติมาตั้งแต่ก่อนได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ..."

นายตำรวจผู้ใดกระทำผิด หรือมีพฤติการณ์เข้าข่ายข้อหนึ่งข้อใดข้างต้น จะต้องถูกดำเนินการถอดยศตามระเบียบ และที่ผ่านมา ก็มีตำรวจถูกดำเนินการถอดยศตามระเบียบดังกล่าวไปแล้วหลายสิบคน

กรณีทักษิณ น่าจะเข้าข่ายไม่น้อยกว่าหนึ่งข้อ

อย่างน้อยที่สุด คือ กรณีต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก ในกรณีคดีที่ดินรัชดาฯ

ยังไม่นับรวมพฤติการณ์หรือความประพฤติของทักษิณ ระหว่างการเคลื่อนไหวของขบวนการเสื้อแดง ว่าจะเข้าข่ายประพฤติชั่วร้ายแรงหรือไม่? จะถือเป็นความผิดอุกฉกรรจ์ตามมาอีกหรือไม่?

4) ที่ผ่านมา มีการดำเนินการถอดยศทักษิณอย่างล่าช้า

ส่อเจตนาหน่วงเหนี่ยว ขัดขืน หรือละเว้นการปฏิบัติตามระเบียบราชการ เพื่อปกป้องช่วยเหลือทักษิณเป็นพิเศษ แตกต่างจากกรณีนายตำรวจที่ต้องคำพิพากษารายอื่นๆ

มีการโยนเรื่องไป-มา โดยเฉพาะการดำเนินการในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ทั้งๆ ที่ ศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษาถึงที่สุดไปแล้ว

แถมคณะกรรมการกฤษฎีกายังเคยมีความเห็นสำทับไปตั้งแต่ปีที่แล้ว (พ.ศ.2552) ว่า

"เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก ไม่ว่าเป็นคำพิพากษาของศาลใด ย่อมอยู่ในหลักเกณฑ์ตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการถอดยศตำรวจ พ.ศ.2547 ให้ถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณได้ รวมไปถึงการเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ.2548"

แต่จนบัดนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ยังคงไม่ดำเนินการให้เด็ดขาดไปเสียที

ตำรวจคนอื่นถูกถอดยศได้ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณจะยกเว้น ทูนไว้เหนือหัว ในฐานะผู้ที่อยู่เหนือกฎหมายบ้านเมืองของประเทศไทย อย่างนั้นหรือ?

5) กรณีเรียกคืนเครื่องราชฯ สำนักนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องกฎบัตรกฎหมาย และการดำเนินงานของสำนักนายกฯ เมื่อเรื่องเข้าข่ายที่จะต้องดำเนินการ แต่กลับละเว้น ไม่ดำเนินการ หรือยังล่าช้าอยู่ต่อไป ก็เสมือนหนึ่งว่า กำลังมีส่วนร่วมกระทำการช่วยให้ผู้ไม่มีสิทธิ หรือไม่สมควรได้ครอบครองเครื่องราชฯ บังอาจถือครองเครื่องราชฯ โดยไม่ถูกต้อง

คนไทยคนอื่นๆ เมื่อกระทำผิด เข้าเงื่อนไข ถูกเรียกคืนเครื่องราชฯ ได้ แต่ทักษิณจะได้รับยกเว้น ละเว้น ให้อยู่เหนือกฎหมาย ระเบียบราชการ หรือแม้แต่ธรรมเนียมปฏิบัติอันเกี่ยวเนื่องถึงสถาบัน อย่างนั้นหรือ?

แบบนี้ใช่ไหม คือตัวอย่างของ "สองมาตรฐานขนานแท้"?

[ตอบ #21 เมื่อ:]

ไปเข้าข้างทำไมนักการเมือง ไม่ว่าใครก็ดกงเหมือนกันหมด แล้วแต่ว่าจะมากหรือน้อย

[ตอบ #22 เมื่อ:]

ไปเข้าข้างทำไมนักการเมือง ไม่ว่าใครก็แดกเหมือนกันหมด แล้วแต่ว่าจะมากหรือน้อย

นำเสนอได้ถูกใจ มาก ๆ

[ตอบ #23 เมื่อ:]

ทุกวันนี้มีแต่การจับและโทษว่า คนที่ออกมาให้ข่าวหรือนำภาพ คลิป และอื่นๆ ที่มีเหตุเกิดขึ้น ว่าเป็นคนผิดแต่ไม่เคยไปจับหรือโทษคนที่อยู่ในภาพหรือคลิปนั้นๆ ผิดเลย เพราะอะไรจ๊ะ! ทำไมไม่ค้นหาความจริงทีแน่นอนก่อนหรือเพียงเพื่อปกป้องพวกพ้อง และอะไรที่หลบอยู่ข้างหลังภาพกันแน่

[ตอบ #24 เมื่อ:]

คนไหนเชื่อกระทู้นี้ ลองกลับไปคิดไหม่นะ ผมไม่ติดว่า นักประชาธิปไตย คิอการรวมตัวกันเผาบ้านเผาเมือง และ ทำให้คนอื่นอีกเป็นจำนวนมากเดือดร้อนโดยไม่สยใจใยดี และโดยอ้างว่าให้คนรักประชาธิปไตน อดทนรอ โดยไม่ถามคนที่เดือดร้อนกอนว่า เห็นด้วยไหม อย่างนั้นหรอ
ผมคิดว่ามันน่าจะมีทางอื่นอีกน้า หรือว่าคิดได้แค่นี้ หรือจริงๆแล้วกำลังคิดอะไรกันอยู่

[ตอบ #25 เมื่อ:]

"คนเสื้อแดงได้รับการยกย่องจากนักประชาธิปไตยทั่วโลก รวมทั้งยังได้รับการยกย่องจากคนไทยในต่างแดนโดย Asia Pacific News Line ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2010 เวลา 0:12 น."
===> ไปเอาข่าวของนาย 001038 มาอ้างอิงเหรอ? ถามจริงเหอะ ได้อ่านข่าวนี้เองจริงกับตาตัวเองหรือยังครับ?
แล้วรู้ความจริงหรือยังครับ ว่า อ้ายข่าวนี้นะมันข่าวแหกตาของนาย 001038 !
ไปหากระทู้จับโกหกนาย 001038 ย้อนหลังดูแล้วกันครับ แล้วจะได้ตาสว่างซะทีครับ

[ตอบ #26 เมื่อ:]

ทุกวันนี้มีแต่การจับและโทษว่า คนที่ออกมาให้ข่าวหรือนำภาพ คลิป และอื่นๆ ที่มีเหตุเกิดขึ้น ว่าเป็นคนผิดแต่ไม่เคยไปจับหรือโทษคนที่อยู่ในภาพหรือคลิปนั้นๆ ผิดเลย เพราะอะไรจ๊ะ! ทำไมไม่ค้นหาความจริงทีแน่นอนก่อนหรือเพียงเพื่อปกป้องพวกพ้อง และอะไรที่หลบอยู่ข้างหลังภาพกันแน่

เป็นบางคนที่มี ... บุคลิกแบบอีแอบ

[ตอบ #27 เมื่อ:]

ตื่นๆๆ พวกควายแดง ทำร้ายชาติตัวเองไม่พอยังไปดึงเอาต่างชาติมาอีก ที่ได้รับการยกย่องทั่วโลกอ่ะ ยมโลกใช่ป่าว

[ตอบ #28 เมื่อ:]

cock sucker

[ตอบ #29 เมื่อ:]

บทแผ่เมตตา

สัพเพ สัตตา
สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ , เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ,

อะเวรา โหนตุ
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด , อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย

อัพยาปัชฌา โหนตุ
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด , อย่าได้พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย ,

อะนีฆา โหนตุ
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด , อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย ,

สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
จงมีความสุขกายสุขใจ , รักษาตน , ให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิดฯ.

รับไปให้ถ้วนหน้านะจ้ะ

3G
cock sucker

aung4556
ตื่นๆๆ พวกควายแดง ทำร้ายชาติตัวเองไม่พอยังไปดึงเอาต่างชาติมาอีก ที่ได้รับการยกย่องทั่วโลกอ่ะ ยมโลกใช่ป่าว

ป้าเป็นไรมากเปล่า?
ใครไปพูดอะไรไม่เข้าหูป้าอีกแระ บอกแล้ว ต้องมีเมตตา ต่อคนบ้า ค่อยพูดค่อยจา คนบ้ามักอารมณ์ขึ้นๆลงๆ ไม่แน่นอน คุ้มดีคุ้มร้าย ป้าไป

[ตอบ #30 เมื่อ:]

cock sucker

ลำยอง ใต้ต้นขนุน

[ตอบ #31 เมื่อ:]

"ประชาธิปไตย" เนี่ยตามตำราเค้าว่าเป็นระบอบที่..เลวน้อยที่สุด..และคงต้องไปหาคำจำกัดความจริงๆกันซะที..เพราะตอนนี้มันบิดเบือนจนงง..ถ้าระบอบที่ใช้อยู่มันศิวิไลซ์เกินไปจนทำให้คนแตกแยก ร้าวฉาน จิกตีกัน..ก็ให้ธรรมชาติจัดการซะ..ล้างโลกด่วน!!..กลับไปอยู่สมัยตีหัวเข้าถ้ำ..สบายใจกว่ากันเยอะ

[ตอบ #32 เมื่อ:]

ป้า ที่โรงพบาบาลบ้า เขาสอนสวดมนต์ด้วยเหรอป้า พอกลับมาถึงได้แต่สวดมนต์ อย่านึกว่าสวดมนต์เป็นแล้วหายบ้านะ สวดมากๆบ้าหนักเข้าไปอีกนะป้านะ

เออ ป้าแปลเป็นรึเปล่า? ที่สวดหน่ะ หรือสวดแบบนกแก้วนกขุนทอง

[ตอบ #33 เมื่อ:]

红衣姨是一个疯了的人。

[ตอบ #34 เมื่อ:]

ป้า ที่โรงพบาบาลบ้า เขาสอนสวดมนต์ด้วยเหรอป้า พอกลับมาถึงได้แต่สวดมนต์ อย่านึกว่าสวดมนต์เป็นแล้วหายบ้านะ สวดมากๆบ้าหนักเข้าไปอีกนะป้านะ

เออ ป้าแปลเป็นรึเปล่า? ที่สวดหน่ะ หรือสวดแบบนกแก้วนกขุนทอง

คาถาไล่ผี
นะโมพุทธายะ มะพะ ทะนะ ภะ กะ สะ จะ
สัพเพทวาปีสาเจวะ อาฬะวะกาทะโยปิยะ
ขัคคัง ตาละปัตตัง ทิสวา สัพเพยักขา
ปะลายันติ สักกัสสะ วะชิราวุธัง
เวสสุวัณณัสสะ คะธาวุธัง
อะฬะวะกัสสะ ทุสาวุธัง
ยะมะนัสสะ นะยะนาวุธัง
อิเมทิสวา สัพเพยักขา ปะลายันติ

[ตอบ #35 เมื่อ:]

ลำยอง ใต้ต้นขนุน

คาถาไล่ผี
นะโมพุทธายะ มะพะ ทะนะ ภะ กะ สะ จะ
สัพเพทวาปีสาเจวะ อาฬะวะกาทะโยปิยะ
ขัคคัง ตาละปัตตัง ทิสวา สัพเพยักขา
ปะลายันติ สักกัสสะ วะชิราวุธัง
เวสสุวัณณัสสะ คะธาวุธัง
อะฬะวะกัสสะ ทุสาวุธัง
ยะมะนัสสะ นะยะนาวุธัง
อิเมทิสวา สัพเพยักขา ปะลายันติ

[ตอบ #36 เมื่อ:]

红衣姨是一个疯了的人。

บทแผ่เมตตา

สัพเพ สัตตา
สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ , เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ,

อะเวรา โหนตุ
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด , อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย

อัพยาปัชฌา โหนตุ
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด , อย่าได้พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย ,

อะนีฆา โหนตุ
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด , อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย ,

สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
จงมีความสุขกายสุขใจ , รักษาตน , ให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิดฯ.

รับไปให้ถ้วนหน้านะจ้ะ

[ตอบ #37 เมื่อ:]

ป้าเสื้อแดงกลับมาคราวนี้อาการหนักกว่าเดิมนะป้า ป้ารู้ตัวหรือเปล่า?

[ตอบ #38 เมื่อ:]

ป้าเสื้อแดงกลับมาคราวนี้อาการหนักกว่าเดิมนะป้า ป้ารู้ตัวหรือเปล่า?

คาถาไล่ปีศาจ

สักกัสสะวชิราวุธัง เวสสุวัณณัสสะคะธาวุธัง
อาสะวะกัสสะธุสาธุธัง ยะมะนัสสะนัยนาวุธัง
นารายยัสสะจักราวุธัง ปัญจะคาวุธานัง
เอเตสังอานุภาเวนะ ยักขะยักขาวิจุณณาโลมัง
นาเมมะพุทธะสันติ คัจฉะละมุมหิโอกาสะติฏฐาหิ

[ตอบ #39 เมื่อ:]

เสื้อแดงนี่งมงายเนาะ

[ตอบ #40 เมื่อ:]

เสื้อแดงนี่งมงายเนาะ

อ่ะ เป็นงั้นไป โดนทั้งขึ้นทั้งล่องเลยเลยตรู ด่ากลับก็โดนว่า ตอนนี้อุตส่าห์ เอาทางพระเข้าข่ม นะเนี่ย ทำงัยดีหว่า มารผจญเยอะปายหมด

[ตอบ #41 เมื่อ:]

ป้า ยุบหนอ พองหนอ นะ
คน มันโดนอบรมสั่งสอนมาไม่เหมือนกัน
อดทน และ สู้ นะ
จะอยู่เคียงข้างกัน ตลอดไป
อองซาน วัดปทุม

[ตอบ #42 เมื่อ:]

แทบจะทันทีที่ “อองซาน ซูจี” ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ได้รับการปล่อยตัว ภายหลังถูกกักขังอยู่ในบ้านพักเป็นระยะเวลายาวนาน “ทักษิณ ชินวัตร” ก็ฉวยโอกาส ออกแถลงการณ์ โยงกรณีของ “อองซาน ซูจี” เข้าสู่วาระทางการเมืองของตนเองอย่างไม่กระดากอาย

สื่อมวลชนไทยบางสำนัก ถึงกับเรียกขานพฤติการณ์ของทักษิณในครั้งนี้ว่า “ซุกผ้านุ่ง ซูจี”

คล้ายๆ กับ ที่ทักษิณและบริวารลูกจ้างของเขา เคยพยายามหยิบยกตัวเองขึ้นไปเปรียบเทียบกับ “อองซาน ซูจี” หลายครั้งหลายหน

“ทักษิณ ชินวัตร” กับ “อองซาน ซูจี” เปรียบเทียบกันได้หรือไม่?

ถ้าลองเปรียบเทียบกันแล้ว ควรจะได้เรียนรู้ความเหมือนหรือความต่างประการใด?

1) “อองซาน ซูจี” กับ “ทักษิณ ชินวัตร” เป็นคนรุ่นราวคราวเดียวกัน

“ซูจี” เกิดเมื่อปี พ.ศ.2488 ส่วน “ทักษิณ” เกิดปี 2492 แก่กว่ากันเพียง 4 ปี

2) “อองซาน ซูจี” กับ “ทักษิณ ชินวัตร” เป็น “นักเรียนนอก” เหมือนกัน

แต่ “ซูจี” จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชาปรัชญา การเมืองและเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด สหราชอาณาจักร (มหาวิทยาลัยเดียวกันกับนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ส่วน “ทักษิณ” จบระดับปริญญาเอก ด้านอาชญวิทยา มหาวิทยาลัยแซมฮิวสตันสเตต สหรัฐอเมริกา (ใครรู้จักบ้าง ยกมือขึ้น)

3) “อองซาน ซูจี” กับ “ทักษิณ ชินวัตร” มีจุดกำเนิดทางการเมืองแตกต่างกัน

เมื่อปี 2530 ประชาชนพม่าไม่พอใจ “ระบอบเนวิน” (อดีตผู้นำเผด็จการทหารพม่า) เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจ เกี่ยวกับเงินตรา ทำให้เกิดการประท้วงลุกลาม แผ่ขยายออกไป กระทั่งนายพลเนวินลาออกไปแล้ว ก็ยังมีการชุมนุมประท้วง ก่อนจะนำมาซึ่งการใช้กำลังเข่นฆ่าประชาชน มีคนล้มตายจำนวนมาก แล้ว “ซูจี” ก็แสดงบทบาท ยืนหยัดเคียงข้างประชาชน โดยเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือครั้งแรก เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2531 ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาล เรียกร้องให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อเตรียมการเลือกตั้งทั่วไป

“ซูจี” ขึ้นปราศรัยเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่วันที่ 26 สิงหาคม ต่อหน้าประชาชนกว่า 500,000 คน ที่มาชุมนุมกันที่เจดีย์ชเวดากอง ในย่างกุ้ง เรียกร้องประชาธิปไตย หลังจากนั้น ได้ร่วมจัดตั้งพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (National League for Democracy: NLD) และได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคฯ

ตรงกันข้ามกับทักษิณอย่างสิ้นเชิง

ปี 2540 ประชาชนไทยเดือดร้อนจากการลอยตัวค่าเงินบาทโดยรัฐบาลพลเอกชวลิต ท่ามกลางครหาว่าทักษิณมีส่วนรับรู้ข้อมูลลับ ทำให้สามารถเอาตัวรอด หรือได้ผลประโยชน์ส่วนตัวบนความพินาศของเศรษฐกิจไทยในช่วงนั้น โดยไม่เคยแสดงบทบาทยืนหยัดเคียงข้างพี่น้องคนไทยเลยแม้แต่น้อย

หลังจากนั้น 14 ก.ค.2541 “ทักษิณ” จึงได้จัดตั้งพรรคไทยรักไทย ใช้เงินเป็นเครื่องมือซื้อความจงรักภักดีจากนักการเมืองพรรคต่างๆ ดึงดูดเข้ามาสนับสนุนตนเองเป็นหัวหน้าพรรค และหลังจากนั้น ยังใช้อำนาจรัฐและอำนาจทุน บีบและซื้อพรรคการเมืองขนาดกลางและขนาดเล็กให้ยุบเข้ามารวมกับพรรคไทยรักไทย และสร้าง “ระบอบทักษิณ” ขึ้นมาครอบงำประชาธิปไตยไทย

4) “อองซาน ซูจี” กับ “ทักษิณ ชินวัตร” มีสถานะทางเศรษฐกิจแตกต่างกัน

“ซูจี” ไม่มีธุรกิจส่วนตัว ไม่เคยวิ่งเต้นเข้าหาเผด็จการทหารพม่า เพื่อให้ตนเองได้รับสัมปทานผูกขาด เพื่อกอบโกยร่ำรวย แต่ “ทักษิณ” ถึงกับลาออกจากราชการตำรวจ เพื่อทำธุรกิจส่วนตัว โดยอาศัยเส้นสาย หากินกับหน่วยงานของรัฐ และวิ่งเต้นเข้าหาเผด็จการทหาร รสช. จนกระทั่งได้สัมปทานผูกขาดกิจการดาวเทียม

และเมื่อมีการปราบปรามประชาชน พฤษภาทมิฬ 2535 ทักษิณก็ไม่เคยออกมาประท้วง หรือแสดงท่าทีต่อต้านเผด็จการ รสช.เลยแม้แต่น้อย

สัมปทานผูกขาดในกิจการโทรคมนาคม ได้กลายเป็นฐานอำนาจทางธุรกิจ ทำให้ทักษิณสามารถกอบโกยผลประโยชน์ สั่งสมอำนาจทุน กลายเป็นมหาเศรษฐีอย่างรวดเร็ว แม้กระทั่งเมื่อได้อำนาจ เป้นนายกรัฐมนตรี ก็ยังใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจส่วนตัว จนกระทั่งถูกศาลฎีกาฯ พิพากษายึดทรัพย์อันได้มาโดยมิชอบให้ตกเป็นของแผ่นดิน

5) “อองซาน ซูจี” กับ “ทักษิณ ชินวัตร” มีสถานะทางการเมืองแตกต่างกัน

“ซูจี” ไม่เคยเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่เคยอยู่ในอำนาจรัฐ แต่เป็นพลเมืองพม่า ที่ยืนหยัดต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม และเพื่อให้ชาวพม่าได้มีสิทธิเสรีภาพ มีส่วนร่วมในทางการเมือง

การต่อสู้ของ “ซูจี” เป็นการเรียกร้องเพื่อชาวพม่าโดยส่วนรวมอย่างแท้จริง เพราะเหตุนี้ รัฐบาลเผด็จการทหารพม่าจึงไม่ต้องการให้ “ซูจี” อยู่ในประเทศพม่า ถึงกับเสนอให้หลบหนีออกไปอยู่ต่างแดน

ตรงกันข้ามกับทักษิณ

“ทักษิณ” เคยเข้าไปมีอำนาจรัฐ เป็นถึงนายกรัฐมนตรี ยึดกุมอำนาจรัฐแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่งตั้งคนของตนเข้าไปยึดครองกลไกของรัฐไว้เกือบทั้งหมด แล้วใช้อำนาจแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองและพวกพ้อง ควบคู่ไปกับการใช้นโยบาย “ลดแลกแจกแถม” และการตลาดการโฆษณา สร้างภาพลักษณ์และบุญคุณทางการเมือง เพื่อให้ตนเองได้รับความนิยมในหมู่ประชาชน

วันที่ 19 ก.ย. 2549 คณะรัฐประหาร คมช.ยึดอำนาจทักษิณ โดยประกาศเจตนาว่าต้องการหยุดยั้งระบอบทักษิณที่ทุจริตโกงกินและสร้างความเสียหายแก่สถาบันหลักของบ้านเมืองเท่านั้น มิได้จะยึดเอาอำนาจรัฐธาธิปัตย์มาเป็นของตัวอย่างถาวร คมช.จึงมิได้แทรกแซงอำนาจตุลาการศาลยุติธรรม และยังกุมอำนาจบริหารและนิติบัญญัติไว้เพียงไม่กี่วัน หลังจากนั้น ได้จัดให้มีรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ทำหน้าที่บริหาร มีสภานิติบัญญัติทำหน้าที่นิติบัญญัติ ส่วนอรรถคดีต่างๆ ก็ให้เป็นอำนาจของฝ่ายตุลาการต่อไปตามเดิม ด้วยเหตุนี้ สังคมส่วนใหญ่จึงไม่แสดงการต่อต้านการรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 มีแต่คนมามอบดอกไม้ให้ทหาร

คณะทหารของไทยไม่ได้ขับไล่ให้ทักษิณหนีไปอยู่ต่างประเทศ แต่ต้องการให้ทักษิณยืนหยัดต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมและระบบศาลยุติธรรมของประเทศไทย ซึ่งบางคดีก็ปรากฏว่าทักษิณเป็นฝ่ายชนะคดี แต่บางคดีที่ศาลตัดสินให้มีความผิด ทักษิณกลับหลบหนีออกนอกประเทศไปเสียเอง

ยิ่งรัฐบาลไทยปัจจุบัน ยิ่งไม่ต้องการให้ทักษิณหนีไปอยู่ต่างประเทศ แต่ต้องการให้กลับเข้ามาต่อสู้คดีเยี่ยงประชาชนคนไทยในประเทศ โดยพร้อมที่จะส่งคนไปรับ หรือให้มีกระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนด้วยซ้ำ

สถานะทางการเมืองของ “ซูจี” กับ “ทักษิณ” จึงแตกต่างกันคนละขั้ว

“ซูจี” คือ ผู้ยืนหยัดต่อสู้เพื่อความถูกต้อง เพื่อคนพม่า แต่ “ทักษิณ” คือ ผู้หลบหนีความผิด เพื่อเอาตัวเองรอด

[ตอบ #43 เมื่อ:]

6) “อองซาน ซูจี” กับ “ทักษิณ ชินวัตร” มีสถานะทางกฎหมายแตกต่างกัน

“ทักษิณ” อยู่ในฐานะผู้ร้ายหนีคำพิพากษาลงโทษจำคุกของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมือง อันเป็นระบบยุติธรรมปกติของไทย ที่มีมาตั้งแต่ก่อนทักษิณจะเป็นนายกรัฐมนตรี

นอกจากนี้ ยังมีคดีอาญา ข้อหาโกงกินบ้านเมืองอีกหลายคดี ที่ทักษิณหลบหนี ไม่ยอมมาขึ้นศาล

มิใช่ทักษิณไม่ยอมรับระบบยุติธรรมไทย เพราะได้ว่าจ้างทีมทนายให้ดำเนินการต่อสู้แก้ต่างอย่างเต็มที่ แต่กลัวแพ้คดี กลัวติดคุก จึงเอาตัวเองหลบหนีไปอยู่ต่างแดน

ทักษิณชอบอ้างว่า ตนเองถูก “คดีการเมือง” ทั้งๆ ที่ คดีที่ทักษิณถูกตั้งข้อหา ถูกดำเนินคดี หรือถูกศาลพิพากษาไปแล้วนั้น เป็น “คดีเผาเมือง” - “คดีโกงกินบ้านเมือง” - “คดีอาญาแผ่นดิน”

ต่างจาก “ซูจี” ที่ถูกเล่นงานด้วยข้อหาทางการเมือง หรือ “คดีการเมือง” ถึงกับขังไว้ในบ้านเฉยๆ

ดังจะเห็นได้ว่า “ซูจี” ไม่เคยปลุกระดมคนพม่าให้ออกไปเผาบ้านเผาเมือง จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธชุดดำ ก่อการร้าย ระเบิดเอ็ม 79 รวมถึงไม่เคยอยู่ในอำนาจรัฐ จึงไม่เคยทุจริตโกงกินบ้านเมือง

7) “อองซาน ซูจี” กับ “ทักษิณ ชินวัตร” มีสถานะทางสังคมแตกต่างกัน

ขณะที่ “ซูจี” ถูกเผด็จการทหารพม่าคุมขังให้เป็นนักโทษทางการเมืองนั้น “ทักษิณ” ยังเป็นผู้นำในการออกกฎหมายที่มีลักษณะเผด็จการในประเทศไทย ใช้อำนาจรัฐละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในประเทศไทยอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็น ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กรณีตากใบ กรือเซะ ฯลฯ กรณีฆาตกรรมประชาชนกว่า 2,500 ศพ ในสงครามยาเสพติด, เกิดการลอบสังหารผู้นำประชาชนจำนวนมาก รวมทั้งทนายสมชาย นีละไพจิตร ฯลฯ

มิหนำซ้ำ ระหว่างที่เป็นนายกฯ ทักษิณก็บินไปพบปะสัมพันธ์ หาผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้นำเผด็จการพม่าหลายครั้งหลายหน รวมถึงการบังคับให้เอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้ให้พม่าโดยมิชอบ เอื้อประโยชน์แก่ลูกชายของเผด็จการทหารพม่า และบริษัทในเครือของทักษิณเอง โดยไม่เคยแสดงท่าทีห่วงใยในสถานการณ์สิทธิและประชาธิปไตยในพม่า ตลอดจนชีวิตความเป็นอยู่ของ “ซูจี” เลยแม้แต่น้อย

จนถึงวันนี้ “ซูจี” ก็ยังถือสัญชาติพม่า และปักหลักเสี่ยงชีวิต เสี่ยงภัย ต่อสู้ทางการเมืองอยู่ในประเทศพม่ามาโดยตลอด แตกต่างจาก “ทักษิณ” ที่พร้อมจะเปลี่ยนสัญชาติตลอดเวลา เร่ร่อน หลบหนีไปเรื่อยๆ เพื่อ “เอาตัวรอด” โดยอาศัย “เงินจ้างผีโม่แป้ง” ใช้ทีมนักกฎหมาย นักเคลื่อนไหว นักการเมือง รับจ้างดำเนินการแทนตนเองที่คอยสั่งการจากต่างแดน ก่อให้เกิดความเสียหาย ทำให้ประเทศชาติบอบช้ำรุนแรง

ระหว่างถูกกักขัง “ซูจี” ได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ

ตรงข้ามกับ “ทักษิณ” ระหว่างหลบหนีความผิดส่วนตัว และดิ้นรนจะกลับมาอำนาจรัฐ ได้มีส่วนร่วม สนับสนุน สั่งการ ชักจูง หรือบงการ กระทั่งเกิดการใช้ความรุนแรงในสังคมไทย ถึงกับได้รับการจัดอันดับโดยสื่อสากลระดับโลก ให้ติดอันดับ “อดีตผู้นำที่เลว”

8) “อองซาน ซูจี” กับ “ทักษิณ ชินวัตร” มีหัวจิตหัวใจที่แตกต่างกัน

“ซูจี” เป็นผู้หญิงที่ใจเด็ดเดี่ยว เคยแยกทางกับสามีระยะหนึ่งก็เพื่อที่จะได้เดินตามอุดมคติของตนเอง ต่างจาก “ทักษิณ” เป็นผู้ชาย แต่ประกาศแยกทางกับภรรยา ก็เพื่อรักษาผลประโยชน์ในทางกฎหมาย

“ซูจี” ยอมสูญเสียอิสรภาพของตนเอง ไม่หลบหนีออกนอกประเทศตามความต้องการของเผด็จการทหารพม่า เพื่อแลกกับโอกาสในการต่อสู้เพื่อสิทธิและเสรีภาพของชาวพม่าทุกคน แต่ “ทักษิณ” ทำให้ประเทศไทยและคนไทยทั้งประเทศตกอยู่ในความขัดแย้ง แตกแยก ติดหล่มความรุนแรง สูญเสียโอกาส เพื่อแลกกับการได้ต่อสู้เพื่อรักาผลประโยชน์ส่วนตัวของทักษิณ

คนพม่ารักซูจี เพราะซูจีไม่ทิ้งพม่า

ไม่ยอมออกไปรับรางวัลโนเบล และไม่ออกไปร่วมงานศพของสามีที่อังกฤษ เพราะกลัวจะไม่ได้กลับมาต่อสู้รว่มกับคนพม่า

แต่คนเสื้อแดงหลงทักษิณ ทั้งๆ ที่ ทักษิณละทิ้งแผ่นดินไทย เอาตัวรอด

ไม่ยอมกลับมาสู้คดีในศาลยุติธรรมเหมือนคนเสื้อแดง และไม่ยอมกลับเข้ามา แม้แต่ในโอกาสงานศพของญาติสนิทตน เพราะกลัวจะติดคุก ไม่ได้ใช้เงิน

“อองซาน ซูจี” กับ “ทักษิณ ชินวัตร”

ใครคือ นางฟ้า และ ซาตาน ?

[ตอบ #44 เมื่อ:]

ประชาชน ประชาธิปไตย ประชา ย่อมาจาก พวกตูเเอง คนทั้งประเทศไม่มีความหมาย....ควายเอ้ย...

[ไอค่อนข้อความ:]

	ปรากฎข้อผิดพลาดตังต่อไปนี้ขณะส่งข้อความนี้:
	คำเตือน: ความคิดเห็นนี้ถูกล็อกไว้! เฉพาะผู้ดูแลเท่านั้นที่ตอบได้
ชื่อ:
	แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:	ไอค่อนขณะนี้ กระทู้ทั่วไปเหมาะสำหรับผู้ชมทุกวัย กระทู้สำหรับเด็กก่อนวัยเรียน กระทู้สำหรับเด็ก กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำ กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 13 ปี กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี กระทู้เฉพาะไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชน
	ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา ขนาดตัวอักษร เล็กมาก เล็ก ปกติ ใหญ่ ใหญ่มาก เปลี่ยนสี สีดำ/ขาว สีแดง สีเหลือง สีชมพู สีเขียว สีส้ม สีม่วง สีนํ้าเงิน/ฟ้า สีเทา สีน้ำตาล สีเขียวฟ้า สีกรมท่า สีเลือดนก สีเหลืองอมเขียว
	[เพิ่มเติม]
	กลับไปกระทู้นี้ หลังจากการตั้งความคิดเห็น ไม่ใช้สัญลักษณ์แสดงอารมณ์
แนบไฟล์:	(แนบไฟล์เพิ่ม) ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ :	ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
	ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ: