เหตุผลแท้จริงของ "การร่วมรัก"

เหตุผลแท้จริงของการร่วมรัก

ไม่ว่าคุณเพิ่งจะพบรักกับชายหนุ่มคนหนึ่ง หรือรู้สึกกังวลว่า มันจะจบแล้ว การมีเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้องจะสามารถกระชับสายสัมพันธ์ทางอารมณ์ให้คุณได้

วิธีที่คุณมี Sex สามารถทำให้ผู้ชายคนหนึ่งหลงรักคุณได้จริง ๆ หรือ? และวิธีที่เขาสัมผัสเรือนร่างของคุณจะทำให้อารมณ์ของคุณอยู่นอกเหนือการควบ คุมโดยสิ้นเชิงละหรือ?..."จริง" ซูซาน คัชชินสกาส (Susan Kuchinskas) ผู้เขียนเรื่องปฏิกิริยาเคมีแห่งสายสัมพันธ์ (The Chemistry of Connection) กล่าว

"ธรรมชาติรังสรรค์ให้ Sex เป็นตัวหล่อหลอมความผูกพันทั้งหลายของความรัก เพราะในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ ผู้ชายและผู้หญิงจะหลั่งอ๊อกซิโตซิน (Oxytocin) ซึ่งก็คือ สารเคมีแห่งความผูกพัน และโดพามีน (Dopamine) สารเคมีแห่งรางวัลตอบแทนออกมา มันเป็นสารผสมที่มีศักยภาพสูงซึ่งไม่เพียงแค่ทำให้คุณมีความปรารถนาทางเพศมากขึ้นเท่านั้น แต่มันยังผูกพันความปรารถนานั้นให้แก่คู่รักของคุณด้วย"

นี่คือคำอธิบายของความรู้สึกที่ว่า "ผมติดใจคุณจังเลย" และคุณจะยังใจเต้นตึ๊กตั๊กไปเป็นอาทิตย์ เป็นเดือน หรือเป็นปี ตั้งแต่คุณมีอะไรด้วยกันเป็นครั้งแรก

แล้วคุณจะรักษาความรู้สึกนี้ไปให้นานแสนนานได้อย่างไร ถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์ต่อไปนี้

1. เมื่อคุณเพิ่งพบกัน

คุณจะสร้างความใกล้ชิดสนิมสนมได้อย่างไร ในเมื่อคุณทั้งสองแทบไม่รู้จักกันเลย และสิ่งเดียวที่ผูกพันพวกคุณไว้ได้ก็คือ กลอนบทหนึ่งเท่านั้น?

"คุณทั้งคู่กำลังผลิตอ๊อกซิโตซินตอนคุณร่วมรัก แต่เทสโตสเตอโรน (Testoserone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีมากมายในผู้ชาย มันระงับผลของอ๊อกซิโตซินไว้ ในขณะที่เอสโตรเจน (Oestrogen) ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงกลับขยายผลของอ๊อกซิโตซิน"

"ผลลัพธ์ก็คือ" ซูซานอธิบาย "คุณผู้หญิง คุณมีความรู้สึกต่อความสัมพันธ์นี้มากกว่าผู้ชายของคุณ"

คุณจึงจำเป็นต้อง "เล่นให้เนียน"

การเล่นบทเหนียม ๆ อาจดูล้าสมัยไปแล้วสำหรับสาว ๆ ยุคนี้ แต่ปฏิกิริยาทางเคมีมันสนับสนุนทฤษฏีนี้จริง ๆ

"ผู้หญิงมักจะทึกทักว่า การเล่นเซ็กซ์แบบโลดโผนทำให้มัดใจผู้ชายไว้ได้" ดร.แคโรล อัลท์แมน นักกามภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญกล่าว "และมันจะเป็นเช่นนั้นก็ประมาณเดือนเดียว เพราะผู้ชายไม่รู้สึกผูกพันกับเซ็กซ์โลดโผน นั่นเป็นเพียงความใคร่ทางเคมี ซึ่งจะจางหายไปในเวลาไม่นาน"

"โดพามีน คือ สารเคมีตัวสำคัญ" ซูซานอธิบาย "มันทำให้เพศชายแสวงหารางวัลซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยิ่งพวกเขาทำไปโดยปราศจากรางวัลนานขึ้นเท่าไร พวกเขาก็จะยิ่งพยายามทำซ้ำเพื่อให้ได้มันมามากขึ้นเท่านั้น และการทำซ้ำจะเป็นการหลอมรวมสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น"

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้หญิง อ๊อกซิโตซินคือ กาวใจตัวสำคัญ ซึ่งได้มาจากการสัมผัส ความไว้วางใจ และการได้รับการปกป้อง

"สิ่งที่ทรงพลังไม่ใช่แค่การสัมผัสเนื้อตัว แต่การเปิดเผยปฏิกิริยาของผู้ชายต่อการสัมผัสของคุณต่างหากล่ะที่มีพลัง" ไชยา ฮานอยเออร์ (Jaiya Hanauer) ผู้เชี่ยวชาญกามตันตระกล่าว ดังนั้น จงสำรวจจุดต่าง ๆ ที่ไม่ธรรมดา (แต่ไม่วิตถารเกินไป) เช่น ติ่งหู พื้นที่ระหว่างสะดือกับหัวเหน่า (ก็ท้องน้อยน่ะแหละ) และแผ่นหลังบริเวณไต เป็นต้น การสัมผัสลูบไล้ก็ให้เป็นไปอย่างสบาย ๆ ปราศจากความกังวลใด ๆ

ถ้าคุณต้องการให้เขา "ติดใจ" คุณจริง ๆ ไชยาแนะนำให้มีการลูบไล้เขาเบา ๆ ไปทั่วร่างหลังการหลั่งน้ำกาม เพื่อให้เขาปล่อยอ๊อกซิโตซิน สารเคมีแห่งความรักมากขึ้นอีก

2. เมื่อคุณอยู่ในความสัมพันธ์ระยะยาว

ความเข้าใจผิดทั่วไป คือ ความคิดที่ว่าปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติจะช่วยให้สิ่งต่าง ๆ ในความรักของคุณคงอยู่ ในขณะที่ความซู่ซ่าจางลง ถ้ามีการวางแผน มันจะไม่ดี ถูกต้องไหม?

ผิด...ดร.ไชยาบอกว่า "คู่สมรสหลายคู่หยุดการมีเพศสัมพันธ์ เพราะคิดว่าไม่เหมาะสมกับวัยของตัวเองแล้ว (โถ โถ โถ อายุแค่ 45 จะรีบถอดใจไปไหน เดี๋ยวพระเจ้าก็โกรธเอาหรอก) จึงทำให้สูญเสียความใกล้ชิดสนิทสนมกันไป มันไม่ใช่การขาดความแปลกใหม่ในชีวิตหรอกที่ทำให้ความผูกพันของการสมรสพัง ทลาย แต่การขาดการมีความสุขร่วมกันต่างหากที่ทำให้ชีวิตคู่ของคุณขึ้นรา"

คุณจึงจำเป็นต้องแสวงหาความสุขตามแผน

"จากการวิจัยแสดงให้เห็นว่าผู้ชายที่แต่ง งานแล้ว มีระดับโปรแลคติน (Prolactin) สารเคมีแห่งความอิ่มเอมและความพึงพอใจสูงกว่าชายโสด" ซูซานอธิบาย "สารเคมีชนิดนี้ทำให้เขามีความพึงพอใจง่ายขึ้น แต่ทำให้แรงกระตุ้นทางเพศลดลง และผู้หญิงที่แต่งงานแล้วจะมีความพึงพอใจสูงขึ้น แต่ความใคร่ต่ำลง"

ดังนั้น ทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายจึงไม่หลงใหลได้ปลื้มกับกายกรรมบนเตียงด้วยสถานภาพทางเคมีในปัจจุบันของคุณอีกต่อไป

ดร.ไชยา กระตุ้นเตือนให้บรรดาสามีและภรรยา มีการวางแผนสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ครั้งละนาน ๆ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เริ่มต้นด้วยการอาบน้ำร่วมกัน ให้เขาสระผมให้คุณหรือนวดน้ำมันให้คุณ จากนั้นก็แต่งกายในชุดสุดเซ็กซี่ ใช้เวลาเยอะ ๆ ในการจูบและสัมผัสเรือนร่างซึ่งกันและกัน เน้นการลูบไล้ท้องน้อยด้วยนะ อย่าลืม

ผู้เชี่ยวชาญตันตระเรียกจุดนี้ (ท้องน้อย) ว่าศูนย์พลัง และบอกว่าการลูบไล้จะเป็นการหลอมรวมสายสัมพันธ์ระหว่างคุณทั้งสอง ให้เขาลูบท้องน้อยของคุณเป็นวงอย่างช้า ๆ ด้วยมือหนึ่งขณะเขาใช้นิ้วอีกมือหนึ่งทำงานข้างในตัวคุณ

นอนเปลือยเปล่าตลอดเวลาด้วย ดร. ไชยาแนะนำ เพื่อรักษาไฟเสน่หาให้คุกรุ่นอยู่เสมอ และพร้อมที่จะลุกพรึ่บเมื่อต้องการ

3. เมื่อ SEX ขึ้นรา

คุณกับผู้ชายของคุณยังมีเพศสัมพันธ์กันอยู่ แต่ทว่า มันกลายเป็นกิจวัตรไปเสียแล้ว มันเป็นสิ่งที่คุณต้องทำอย่างเสียมิได้ เพราะเห็นว่ามันเป็นหน้าที่อย่างหนึ่งซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ ใช่ไหม?

ผลลัพธ์ก็คือ "เซ็งเป็ด"

การร่วมเพศของคุณจึงไม่ใช่การร่วมรักอีกต่อไป เพราะ "เป็ด" ของคุณไม่มีความสนุกตื่นเต้นกับกิจกามเหมือนตอนข้าวใหม่ปลามันอีกแล้ว

ทำยังไงดีล่ะ?

"จงเพ่งเล็งไปที่การสร้างปัจจัยตื่นเต้นขึ้นมาใหม่ ซึ่งหมายถึงการยกระดับโดพามีน (Dopamine) สารเคมีแห่งรางวัลตอบแทนให้สูงขึ้น" ดร.ซูซานแนะนำ

"คุณอาจคิดว่าตัวปัญหาคือความสัมพันธ์ของคุณกับคู่รัก ซึ่งมันจะเป็นยังไงก็ตามเถอะ แต่คุณต้องเชื่อมความสัมพันธ์กับคู่รักของคุณเสียใหม่ด้วยความตื่นเต้น"

คุณจึงจำเป็นต้องหาประสบการณ์ใหม่ร่วมกัน

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้มีการสำรวจเซ็กซ์ที่คุณมีกันอยู่แล้วจากมุมที่แตกต่าง ยกตัวอย่างเช่น ใช้ผ้าผูกตาด้วยกันทั้งคู่ในขณะที่จะมีเพศสัมพันธ์ มันจะช่วยปลดปล่อยอารมณ์ที่ถูกยับยั้งไว้ในยามลืมตาตามปกติออกมาได้ เพราะคุณทั้งคู่จะไม่เห็นข้อบกพร่องทางกายภาพหรือสรีระอันชินตาของกันและกัน สมาธิของพวกคุณก็จะอยู่กับการสัมผัสทางผิวกายมากขึ้น เนื่องจากจักษุสัมผัสของคุณถูกลดทอนลงนั่นเอง

หรือลองใช้จุกอุดหู (ear plugs) ก็ได้ มันจะเป็นการลดโสตสัมผัสลงไป ซึ่งจะทำให้คุณเพ่งสมาธิไปที่การสัมผัสทางผิวกายได้มากขึ้น เช่นเดียวกับการผูกตา

หรือไม่ก็ให้เขาถู จับหรือจูบบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายคุณที่คุณไม่เคยชอบ จนกระทั่งคุณรู้สึกสบายกับการสัมผัสดังกล่าว ถ้าคุณไม่ค่อยกล้าที่จะเสนอแนะอะไรที่ไม่ปกติ ก็ทำให้มันง่ายขึ้นด้วยการใช้คำว่า "ลอง" นำหน้า เช่น "ลองจูบซอกรักแร้ดูหน่อยมั้ย" หรือ "เรามาลองเล่นเกมปิดตาตีหม้อกันมั้ย" อะไรทำนองนี้ มันจะเป็นการอนุญาตให้คู่ของคุณรู้สึกว่ามีส่วนในการตัดสินใจ ไม่ใช่ถูกกดดันหรือโดนบังคับ

ดร.ไชยาเสริมว่า "หลังจากนั้น ก็คุยกันว่าอย่างไหนได้ผล มันจะช่วยสร้างความใกล้ชิดสนิมสนมในการสื่อสารของพวกคุณได้มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำให้คุณทั้งสองรู้สึกมีความผูกพันกันแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น"

ไม่ยากใช่มั้ยครับ ลองทำดูสิ

4. เมื่อคุณกลัวว่า มันจบแล้ว

"คุณกำลังรู้สึกห่างเหินกับคู่ของคุณแล้วใช้มั้ย? และคิดว่าเซ็กซ์อาจเป็นสิ่งสุดท้ายที่คุณอยากจะทำร่วมกับเขา แต่เชื่อเถอะ มันมักจะเป็นสิ่งที่เยียวยาความผูกพันของคุณทั้งสองไว้ได้ อย่าเพิ่งรีบเบื่อหน่ายมัน"

คุณจึงจำเป็นต้องมีเซ็กซ์แบบพร้อมเพรียงกัน

ก่อนมีเพศสัมพันธ์ ให้นอนลงด้วยกันและหายใจอย่างพร้อมเพรียงกันซึ่งก็คือ หายใจเข้า-ออกพร้อม ๆ กัน ผู้ฝึกตันตระถือว่า การทำแบบนี้เป็นการเยียวยาอย่างลึกซึ้ง

ในระหว่างการมีเซ็กซ์ คุณพยายามหายใจออกขณะเขาหายใจเข้า และหายใจเข้าขณะเขาหายใจออก สอดประสานนิ้วมือของพวกคุณเข้าด้วยกันและจูบกันไปเรื่อย ๆ นี่คือ เครื่องมือผูกพันทางสารเคมีอันมหึมา

หลังจากนั้น ปล่อยให้ลมหายใจของคุณอยู่ในจังหวะเดียวกับเขา เหมือนตอนก่อนมีเพศสัมพันธ์ และพอผ่านไป 2-3 นาที ลองพยายามหารือกันว่า อะไรที่ทำให้คุณทั้งคู่แยกห่างจากกัน ในช่วงเวลาอันผ่อนคลายนี้ เซ็กซ์สามารถเรียกความสัมพันธ์ของพวกคุณให้กลับมาแน่นแฟ้นขึ้นได้ใหม่ก่อนที่มันจะสลายไป

"อย่างไรก็ตาม ถ้าความสัมพันธ์ของคุณมันถึงจุดที่เกินจะเยียวยาแล้ว และคุณรู้ว่าแยกกันอยู่จะดีกว่า เซ็กซ์ก็จะช่วยอะไรคุณไม่ได้ เพราะมันกลายเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดที่คุณจะทำได้แล้ว" ดร.ซูซานเตือน

"ส่วนผสมของอ๊อกซิโตซินกับโดพามีนนั้นทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ และการใช้เซ็กซ์เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันเป็นพิษ ก็จะยิ่งผูกมัดพวกคุณแน่นขึ้น จนขยับไปไหนไม่ได้ ผลลัพธ์ก็คือ คุณทั้งคู่ต้องทนอยู่ร่วมกันอย่างอึดอัดมากขึ้นไปเรื่อย ๆ"

ในกรณีนี้ เราขอแนะนำให้คุณแยกย้ายกันไปหาคนที่ชอบ ที่ชอบเถิด อย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันอีกต่อไปเลย

ที่มา : คอลัมน์ Sexociety โดย Dr.DEN ASTV ผู้จัดการออนไลน์

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน