อีแ้ร้ง copy เนื้อหาคดีอากงจากข้างล่างมาให้ช่วยเปรียบเทียบ
อากง >>
1) ตอนแรกพยายามจะบอกว่า เดือนพฤษภาคมนั้นตนเอา
มือถือไปซ่อม (จะโบ้ยว่าร้านมือถือเป็นคนส่ง) แต่หลักฐาน log มีสถานที่กำกับ จำเลยจึงเปลี่ยนคำให้การ อ้างว่าจำผิด อาจส่งซ่อมเดือนเมษายน
2) จากนั้นจึงอ้างว่า IMEI นั้นสามารถปลอมแปลงได้ ดังนั้น อากงอาจถูกปลอมแปลงตอนไปซ่อมมือถือ แต่คำให้การก็มีพิรุธ อ้างว่าจำร้านซ่อมมือถือไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ ถ้าส่งซ่อมจริงต้องจำได้เพื่อไปเอามือถือคืน นอกจากนี้ log ก็ ชี้ชัดอยู่แล้วว่ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น
3)อากงจึงดิ้นรนเฮือกสุด ท้ายว่า อากงลืมมือถือไว้ที่บ้านบ่อย ๆ โดยให้คนใกล้ชิดมาเป็นพยาน (จะโบ้ยว่ามีใครบุกเข้ามาในบ้านเปลี่ยน SIM แล้วส่ง??) ซึ่งไม่ make sense เลยคือ ถ้าบุกถึงในบ้านจะมาเปลี่ยน SIM ทำอาแป๊ะอะไร??
ทำไมสุพจน์ถึงเปลี่ยนแปลงคำให้การ
ทำไมอากงถึงเปลี่ยนแปลงคำให้การ
พฤติกรรมของสองคนนี้ มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
อีแร้ง งงส์ อีแร้ง มาตามไปอ่านนิตยาสารใกล้คุกอีกแล้ว โพสคดีหมิ่นในมุมมองสื่อต่างชาติไปโดนหมด ลักษณะคดีมันคนละเรื่องเลยอีแร้งเอ้ย จะเอามาเทียบกันได้อย่างไร แปะลิ้ม กะ อากง ว่าไปอย่าง
ปลัดสุพจน์ไม่ได้กลับคำให้การนะครับ เพราะแกยืนยันตลอดว่าโจรได้ไปประมาณ 5 ล้าน แต่เนื่องจากเงินยังไม่ได้นับเลยไม่รู้ว่ายอดจริงๆ แล้วเท่าไหร่ ฉะนั้นปึกเงินที่บอกว่าเบิกไปจากธนาคารที่อุดร บ้านผม ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าโจรปล้นไปจากที่อื่น และเงินที่ตำรวจยึดได้สิบแปดล้าน ส่วนเกินมากถึงสิบสามล้าน ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าโจรปล้นไปจากบ้านอื่น ใครเป็นเจ้าของเงินล่ะทีนี้ ตำรวจต้องคืนโจรเค้าไปนะ???
ทำไม๊ ทำไม ท่านปลัดไม่กระซิบผมแต่ต้น ผมจะได้ช่วยแบ่งเบาในการเป็นผู้เสียหายสักห้าล้าน สิบล้าน ถ้ากระชิบกันก่อนจะได้ไปแจ้งความว่าเงินผมที่อุดร หายไปจากการถูกขโมย
อืม...ต้องคอยดูว่าตำรวจไทยที่ทำคดีนี้ จะกินแบงค์ กินหญ้า หรือกินข้าว