หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: สาวๆเอย จะบอกให้ (4)  (อ่าน 6959 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 13 ส.ค. 12, 08:22 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 
ผู้ชายชอบผู้หญิงตรงไหน
จากการค้นพบทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ เขาบอกว่าการที่ผุ้หยิงผู้ชายจะชอบกันกผ้เพราะเคมีในร่างกายตรงกัน แต่มันก้แปลกเพราะบางที เคมีในร่างกายไม่ตรงกัน แต่ฝ่ายหนุ่มดันไปชอบผู้หญิงบางคนแบบเธอไม่ได้สนใจหรือชอบตอบ แสดงว่าเคมีในร่างกายฝ่ายหนุ่มดันไปชอบเขาฝ่ายเดียว

ทีนี้ถ้าจะถามว่าที่หนุ่มๆไปชอบเธอเพราะอะไร ถามไปก้มักตอบไม่เหมือนกันในบรรดาผู้ชายแต่ละคน บ้างก็บอกชอบเพราะหน้าตาสวยถูกใจ บางคนก็บอกชอบเพราะ หน้าอกใหญ่ (แสดงว่าแกคงหวังว่าเวลามีเพศสัมพันธ์แกคงใช้หน้าอกผู้หญิงเป็นประโยฃน์แน่ๆ) บางคนบอกว่าชอบเพราะตัวเล็ก (นี่ก็คงจินตนาการไปว่าผู้หญิงตัวเล้กอะรไๆคงเล็ก และ เมื่อเล็กก็คงฟิตดี) ผู้ชายบางคนชอบผุ้หญิงแก่ หรืออายุมากกว่า (ในใจแกคงคิดว่าจะเอาไปทำแม่และเมียพร้อมๆกัน หรือเพราะเหตุลอะไรลึกๆ) บางคนมีนะมองผู้หญิงชอบไปมองสะโพกเธอก่อน ถามว่าความสวยของสะโพกผู้หญิงอยู่ตรงไหน ผู้ชายมักตอบไม่ได้ แต่จะอ้างว่าเวลาร่วมเพศแล้วสะใจดี(สะใจยังไงแต่ละคนคิดเอาเอง)

ภาพข้างล่าง คิดว่า WM จะไม่ลบเพราะดูแล้วเพลินๆดีนะครับ



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #1 เมื่อ: 14 ส.ค. 12, 11:35 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อย่างที่บอกนะครับ พวกผู่้ชายนีั่ชอบความสวยของผุ้หญิงไม่เหมือนกัน นอกจากจะมีจำพวกชอบเพราะใบหน้าสวย ชอบเพราะ นมใหญ่ ชอบเพราะสะโพกใหญ่ ชอบเพราะนิสัยดี แต่มีอีกจำพวก คือผู้ชายที่ชอบเพราะเสียงของเธอ เสียงเพราะ เสียงกระเส่า เสียงร้องเพราะสยิว แค่ได้ยินเสียงแต่ไม่ได้เห็นตัวก็นึกชอบเสียแล้ว

แสดงว่าเสียงมีอิทธิพลขนาดทำให้คนเราเกิดอารมณ์ได้ เกิดจินตนาการไปได้ต่างๆนานา ข้างล่างเป็นคลิปวิดิโอแสดงเสียง ของสัตว์เวลามีเพศสัมพันธ์ ตอนแรกตั้งใจจะอัดเฉพาะเสียงมาให้ฟังก่อน รับรองว่าถ้าได้ฟังแล้วผู้ฟังอาจนึกไปถึงการร่วมเพศของผู้ชายผู้หญิง และถ้าเป็นเสียงคน จะเป็นเสียงฝ่ายหญิงละ แต่ผู้ชายได้ยินโดยไม่ได้เห็นตัวตน รับรองว่าอารมณ์ของผู้ชายจะกระเจิงเลยละ

น่าเสียดายที่ จขกท.เอาคลิปเฉพาะเสียงมาโหลดไม่เป็น อีกอย่างถ้าเอามาเฉพาะเสียงได้ก็อาจโดน WM ลบแน่ๆ ดังนั้นจึงขอเอาคลิปวิดิโอแสดงการมีความสุขของเต่า 2 ตัว มาให้ดู และให้ฟังเสียง คลิปนี้แสดงว่าไม่ใช่เฉพาะมนุษย์ที่เวลาร่วมเพศจะส่งเสียง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเสียงฝ่ายหญิงละมากกว่า แต่สำหรับสัตว์บางชนิด เช่น เต่า ปรากฏว่าเต่าเพศผู้กลับเป็นฝ่ายส่งเสียง และถ้าได้ยินแต่เสียงจะทำให้คนได้ยิน นึกว่าเป็นเสียงผู้หญิงก็ได้



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #2 เมื่อ: 15 ส.ค. 12, 08:06 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ขออนุญาตคุณสาวเอยอีกครั้ง คือนอกจากจะแนะนำให้ไปอ่านกระทู้ของคนอื่นๆดูว่าเขามีแนวคิดแนวปฏิบัติอย่างไรในการชูรักชูรส บางคนก็แทบคิดไม่ถึงว่าจะทำได้จริงๆ แต่นั่นแหละผู้ตอบก้คงไม่ได้เสแสร้งตอบเพราะไม่ได้มีรางวัลตอบแทนข้อเขียนใดๆ จึงขออนุมาณเอาว่าเขาคงพูดความจริง ตอนนี้ก็ไปอ่านเจอบทความแนะนำวิธีปฏิบัติตัวของคุณผู้หญิงอีกจากบทความในนสพ.เดลินิวส์ คำแนะนำส่วนใหญ่ก็น่าจะทำตามได้ ที่สำคัญสำบัดสำนวนในการบอกเล่าจะเรียบร้อยกว่าที่ผมเขียนมาก ลองอ่านๆดูครับ

การสื่อสารทำความเข้าใจจะใช้คำพูดตรงๆ หรือคำพูดทางอ้อม ก็สุดแล้วแต่พื้นเพนิสัยใจคอของแต่ละคน พิจารณาประกอบกับพื้นฐานการสื่อสารของทั้งคู่…
แต่ก็อยากแนะนำว่าอย่าพูดอ้อมค้อมมากนัก เพราะผู้ชายทั่วไปไม่ได้ฉลาดทุกคน
ถ้าคุณรู้สึกเอียงอาย แม้แต่จะเอื้อนเอ่ยวาจา ที่จะบ่งบอกความคิดริเริ่มสร้างสรรค์…ก็อาจเลือกเส้นทาง สื่อสารแบบภาษากาย ก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น
แต่งชุดนอนบางๆ ชนิดถอดง่ายไม่ต้องหลายชั้น…แต่อันนี้ต้องพิจารณาเรือนร่างของผู้ใส่ด้วย ควรแน่ใจว่าจะส่งผลปลุกเร้าสามี เพราะบางรายกลับได้ผลออกมาตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง…ถ้าเป็นกรณีหลัง ควรปิดไฟให้มืดสนิท เพื่อให้สมองส่วนจินตนาการทำงานมากหน่อย
ปิดผ้าม่านให้มิดชิด จงใจให้เขาเห็นด้วยว่า เราปิดผ้าม่านอย่างมีจุดหมาย ถ้าเขาสงสัยว่าปกติทุกคืนไม่เห็นต้องปิดม่าน ทำไมวันนี้ต้องปิดด้วย…บอกเขาเลยว่า "เธอก็น่าจะรู้ว่าเดี๋ยวห้องนี้จะเกิดอะไรขึ้น"…ถ้าสามีเข้าใจผิดคิดว่าคุณจะลงมือฆ่าเขา ควรพิจารณาความสัมพันธ์ที่ผ่านมา…
เดินโฉบผ่านหน้าสามีบ่อยๆ ถ้าเขายังนอนเตียงโดยสายตายังจ้องดูรายการทีวี ไม่น่าสนใจเท่าไร…พยายามกระชากสายตาของเขาให้เหลียวมองสิ่งที่น่าสนใจมากกว่า ถ้าเดินผ่านรอบที่หนึ่งยังไม่ได้ผล อย่าเพิ่งละความพยายาม ถ้ารอบสองเขายังไม่เกิดอาการหวั่นไหว ควรมีรอบสาม…ถ้าสามรอบแล้วยังไม่มีวี่แววใดๆ…จงปิดทีวี แล้วดับไฟ
นวด บีบแขนขาให้เขาผ่อนคลาย…คนเรามักพอใจและผ่อนคลายเสมอ เมื่อมีใครนวดให้ เราชอบให้มีคนมานวดเวลาที่เรานั่งพักหรือนอนเล่น แต่เรามักขี้เกียจ เวลาคู่สมรสอยากให้เรานวดเขา ทำให้มีการกระจายรายได้ไปนอกบ้าน…ภรรยาอาจค่อยๆ สัมผัสโดยการลูบไล้ ค่อยๆ กดเบาๆ ตามกล้ามเนื้อ จากการสัมผัสหนึ่งมือเพิ่มเป็นสองมือ เปลี่ยนจากเบาเป็นหนักแน่นขึ้น โดยที่คุณ ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องนวดแผนโบราณใดๆ สลับกับการลูบไล้ในส่วนที่ไวต่อการกระตุ้น จูบบ้าง หยอกบ้าง…ไม่ต้องถึงกับหยิกข่วนหรือกัด…ยังไม่ใช่เวลานั้น…ค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ด จากบนลงล่างหรือจากล่างขึ้นบนก็ได้ แล้วแต่ความถนัด…ซบแก้มบนหน้าอกเขา สักพักฝ่ายสามีจะสิ้นแรงต้านทานใดๆ
…หลังจากนั้นภรรยาจึงปลดเปลื้องเสื้อผ้าที่พัวพันรอบแผ่นผิวกายตน เป็นการบ่งบอกให้สามีรับรู้ว่าถึงเวลาที่คุณควรทำหน้าที่ นวดแผนซ้อนแผน ต่อไป
เสน่ห์ของสามีอยู่ที่การดูแล เทกแคร์ และให้เกียรติผู้หญิงผู้เป็นภรรยา ให้ความอบอุ่นและมั่นใจ ส่วนเสน่ห์ของสตรีสมัยก่อนถือเรื่องความเป็นแม่บ้านแม่เรือน ต้องปรุงรสอาหารอร่อย เรียน เสน่ห์ปลายจวัก เป็นมนต์รักเรียกผัว เพราะยุคก่อน ผู้ชายทำไร่ทำนากลับมากินข้าวบ้านไม่มีทางเลี่ยง
สังคมสมัยนี้เปลี่ยนไป ผู้หญิงก็เรียนหนังสือสูงๆ แล้ว มีงานมีการทำ มีรายได้ไม่น้อยหน้าสามี เรื่องทำกับข้าวกับปลา ถ้าเข้าครัวไม่เป็นเลย ก็มีทางออก พาไปกินนอกบ้านกันก็ได้ ซื้ออาหารนอกบ้านมาอุ่นเตาอบไมโครเวฟในบ้านก็ได้ ผู้ชายไม่พูดบ่นหรอกครับ
เรื่องอาหารการกิน เดี๋ยวนี้พึ่ง 'สามแม่ครัว' พอได้ แต่ถ้าเรื่องกิจกรรมบนเตียง ขอให้สามีพึ่งภรรยาคนเดียว…แม่ครัวคนอื่นห้ามยุ่ง!

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #3 เมื่อ: 16 ส.ค. 12, 14:16 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ผมอยากจะเล่าถึงคุณผู้หญิงบางคนที่เธอมีปัญหา สังเกตุว่าแทบไม่มีปัยหาเหมือนกันเลย ผมขอคัดมาให้ลองอ่านดู อ่านๆไปจะได้รู้ว่าคุณไม่ได้เป็นคนเดียวทีอาจมีปัญหา อ่านแล้วลองคิดทบทวนดูว่าคนอื่นมีปัญหาหนักเบากว่าคุณไหม เชาเหลานั้นมีปัญหาแล้วมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร.............................

Heart ตอนนี้เป็นยังไงกันบ้างครับ ทำอะไรกันอยู่ เล่าแชร์ประสบการณ์สู่กันฟังครับ แค่อยากให้ระบายออกมา แค่อยากรู้ว่าผู้หญิงเค้าทำไรกัน

Lovelovejub

มีเรื่องมาแชร์ด้วยเหมือนกันค่ะ เมื่อวานมีปัญหากับแฟนค่ะ ปกติแฟนเป็นคนสุภาพอ่อนโยนมาก แต่เมื่อวานเค้าโมโหแล้วเผลอพูด กู-คุณ กับเรา นี่ไม่ใช่ครั้งแรก เค้าเป็นแบบนี้มาสี่ ห้าครั้งแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานเราก็ยังไม่ได้โทรคุยกันเลย ปกติเราโทรปลุกกันทุกวัน คุยโทรศัพท์กันก่อนนอนทุกคืน ตั้งแต่เมื่อวานที่ได้ยินภาษาพ่อขุนราม ก็ยังไม่ได้คุยกันอีกเลย
ถามความคิดเห็นเพื่อนๆ หน่อยนะคะ ว่าถ้าแฟนพุดแบบนี้กับเพื่อนๆ จะทำอย่างไรกันบ้างค่ะ

another_vampire

ราเจอแบบนั้นมาเป็นสองปีแล้วล่ะ ..เฮ่อ ช่วยอะไรคุณไม่ได้เลย

นอกจากภาษาพ่อขุนรามฯแล้ว ยังมีคำด่าหยาบๆ ...#$^&&^%$##%&.... ตามมาอีกเป็นพรวน

เราเลือกที่จะ ทน ทน มา ตลอด

คำว่า กู - คุณ นี่ถือว่าเป็นคำธรรมดาไปแล้ว

เพื่อนๆ และคนรอบตัวทุกคนบอกว่าควรจะเลิก แต่ยังตัดใจไม่ได้ซักที เหอๆๆ

lovelovejub

ขอบคุณนะคะที่ร่วมแชร์ความรู้สึกกัน ก็ทำให้ได้รู้ว่าไม่มีเราคนเดียวที่ต้องได้ยินแบบนี้

ใจนึงก็อยากเลิกๆไปเลยนะคะ มันใจหายที่ได้ยิน เพราะเค้าเป็นคนสุภาพ อ่อนโยนมาก เรารักเค้าตรงนี้แหละ
แต่แล้วทำไมรักกันมาได้ 4 ปี ถึงเปลี่ยนไป

another_vampire

ด้วยความยินดีค่ะ

ที่ผ่านมา เราเลือกที่จะทน

แต่ตอนนี้.... ความอดทนของเราก็ใกล้จะหมดแล้วเหมือนกัน

เราไม่ได้คุยกันก่อนนอนมาสองเดือนแล้ว จากที่เมื่อก่อนเคยได้คุยกันทุกคืน

เช้าเคยได้คุยกันทุกวันตอนเค้าตื่น หรือขับรถไปทำงาน - - ตอนนี้ก็แทบไม่เคยโทรมาหา

ถามเรื่องอะไรๆ ก็ไม่ได้ จะโดนพูดว่าอย่ามาเ..ือก

ห้ามเราโทรไปหาไม่ว่าจะเวลาไหนๆ ... ทุกครั้งที่โทรไป จะโดนถามว่า "คุณโทรมาทำไม โทรมาจิกกูหรอ??" ตั้งแต่ประโยคแรกที่รับสาย โดยที่ไม่ฟังเราเลยว่าเราจะมีธุระอะไร แล้วก็วางสาย - - ถ้าเค้าอยากคุย จะโทรมาเอง

ตอนนี้กำลังเตรียมตัวเตรียมใจต้อนรับความโสด ฉลองปีใหม่.....

i.am.nudee

เราเห็นด้วยกับคุณนะ ข้อแรก เพราะเราเจอกับตัวเราเองเลย เมื่อ2-3 ปีก่อน
จนเรานะ อยากจะสวนมันกลับไปเลยอ่ะ เพราะมีแฟนคบใครมาไม่เคยมีใครมาใช้คำหยาบกับเรา
ไม่เคยมีใครขึ้นคุณกูกับเรา ทำเนียนเป็นรำคาญ หรือบางทีทำเนียนเป็นคุยกับเพื่อน
ให้อีกฝ่ายคิดว่าคุยกับเพื่อนไม่ได้คุยกับแฟน

ส่วนข้อสอง ที่คุณบอกก็เพราะถ้าผู้หญิงบางทีสงสัยอะไรแล้วอยากได้คำตอบ
แล้วไม่ได้ ก็จะคาใจแล้วถามจนผู้ชายทำเนียนเป็นรำคาญไงอ่ะ อันนี้สำหรับเคสผู้ชายเลวๆ นะ

เพราะผู้ชายดีๆ เค้าไม่ด่าผู้หญิงที่เค้ารักกันหรอก

ผู้ชายบางคนเห็นแก่ตัว เค้าจะพยายามทำเลว เพราะเค้าไม่กล้าบอกเลิกกับอีกคน
เพราะยังเสียดายอยู่ถ้าอีกคนไม่ได้ทำไรผิด

แต่ในกรณีเคสของ lovelovejub อันนี้บางทีต้องรอดูอ่ะค่ะ
เพราะบอกมาแค่นี้มันตอบไม่ได้หรอกว่าสาเหตุมันน่าจะมาจากอะไร

ส่วนตัวเราเคยสวนกลับไปนะ ถามเลยทำไมต้องขึ้นคำนี้กับเรา
เราไปทำไรให้ แต่ในใจอ่ะ "กรูทำไรให้คุณต้องมาขึ้นคำหยาบด้วยเนี่ย เป็นไรมากมะปจด.ไม่มาเหรอ 5555"

รอดูต่อไปน๊า แต่คนที่ขึ้นกู-คุณกับแฟนบางคนเค้าก็ไม่ชอบหรอกเน๊อะ
แต่บางคนเค้าอาจจะเฉยๆ เพราะกรูมา คุณกลับ

แต่สำหรับเรา เราไม่ชอบเพราะมันไม่ให้เกียรติกันอ่ะ

nok toto

แฟนเราเคยหลุดค่ะ 1-2 ครั้งเท่านั้นค่ะ
เราบอกเค้าว่า "หนูไม่ใช่เพื่อนพี่" เำพราะฉนั้น ระวังคำพูดหน่อย
บอกกันแค่ครั้งเดียวรู้เรื่องค่ะ
เราถือว่าการพูดจาหยาบคายใส่เป็นเรื่องที่ไม่ให้เกียรตืกันอย่างมาก
เพราะฉนั้นถ้าทำไำม่ได้ก็ไม่รู้จะทนไปทำไม

kiss me 99

ของเรามีบ้างเป็นบางครั้งเวลาอารมณ์ดีเกินก็จะบอกว่าพูดไม่เพราะเลยค่ะ กับเราเขาก็พูดจาดีนะแต่เคยคุยโทรศัพย์กันแล้วเขาไม่ได้วางเราก็แอบฟัง โอ้โฮ สารพัดสัตว์คำหยาบ กระจาย แต่ก็เรื่องของเขาไม้เป็นกับเราก็พอ

lovelove jub

สืบเนื่องมาจากรอยร้าวหลายครั้งที่ผ่านมา เมื่อคืนเรากับแฟนตกลงเลิกรากันแล้ว คุยกันด้วยเหตุผล เราตกลงกันด้วยดี สรุปว่าความสัมพันธ์นับจากนี้ต่อไป เป็นพี่น้องกัน เพราะยังมีอะไรหลายอย่าง ที่ต้องทำร่วมกันอยู่
ไม่รวมเรื่องที่เค้าพูดภาษาพ่อขุนรามกับเรา โดยรวมพี่เค้าเป็นสุภาพบุรุษสำหรับเราเสมอ เกือบสี่ปีที่คบกันมาจนถึงวันนี้ที่เราแยกทางกันเดิน
วันนี้เราเศร้ามากเลย เสียใจมากๆ คิดถึงวันเก่าๆ ทำงานเบลอๆ ใจสั่นๆ ขอบตาร้อนตลอดเวลาเลย นี่พิษอกหักมันรุนแรงขนาดนี้เลยหรอเนี่ย เราต้องเป็นแบบนี้ไปกี่วันนะ

jubbjibb

เราไปชอบคนที่ไม่เหมาะกับเราค่ะ

ที่ว่าไม่เหมาะ ไม่ใช่ว่าไม่ดีพอ

แต่การงานของเค้า ที่ต้องเทคแคร์ลูกค้า ทำงานไม่เป็นเวลา (ถ่ายภาพยนตร์) ต้องเจอคนสวยๆ มากมาย เรารู้ว่าเราทนไม่ได้แน่นอน

แนวคิดบางอย่างของเค้าก็ขัดแย้งกับเราอย่างสิ้นเชิง

แต่ว่า มันเผลอใจไปเมื่อไหร่ ไม่รู้เหมือนกันค่ะ เวลาคุยกะเค้าแล้ว มีความสุขมากๆ เลย

ตอนนี้ได้แต่ทำใจให้เป็นพี่เป็นน้องกะเค้าน่ะค่ะ



(คัดมาจาก plaza.ladysquire.com ครับ) จะถูกลบไหมเนี่ย

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #4 เมื่อ: 17 ส.ค. 12, 09:56 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ต้องขอสารภาพว่า เมื่อเข้ามาในบอรืดย่อย ชื่อ บอร์ดเรื่องบนเตียงไม่ผิดหวัง เพราะแต่ละวัน ได้รุ้ได้ทราบว่าคนมีปัญหายังมีอีกมาก บางคนอาจจะคิดว่า ไม่มีจะกินสิคือปัญหาใหญ่ แต่มีอีกหลายๆคนกลับมีปัญหาเรื่องบนเตียง

สังคมไทยเป็นสังคมดัดจริต ส่วนมากจะพูดแต่ว่าชีวิตรักมีปัญหา แต่จริงๆแล้วมันใม่ใช่ มันไม่เป็นปัญหาเพราะความรักเลย แต่เป็นปัญหาเพราะเรื่องกามราคะ เรื่องเซ็กซ์ บางคนขาดเซ็กซ์ บางคนกับคู่ครองมีเซ็กซ์ไม่พอดีกัน บางคนต้องรอคนรักมาให้น้ำรักนานแสนนานเหมือนนาในหน้่าแล้ง บางคนจนแล้วจนรอดไม่เคยรุ้ว่าจุดสุดยอดเป็นอย่างไร บางคนก็ได้ผู้หญิงแบบแปลกๆเช่นเธอมีแฟนอยู่แล้วดันมาเต็มใจได้เสียกับหนุ่มอีกคน ผู้หญิงบางคนยอมรับสภาพมีสามีถึง 2 คนอยู่ด้วยกัน ฯลฯ

ทั้งหลายเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องศิลธรรมเสื่อมหรอก มันเป็นมาแต่โบราณกาลแล้ว แต่สังคมดัดจริตไม่ยอมรับว่ามันมีมันเกิดขึ้นได้จริงๆ บางคนเป็นเดือดเป็นแค้นหาว่า คนที่มาเล่ามาเปิดเผยเป็นคนที่ทำให้ศาสนาเสื่อม จริงๆแล้วเรื่องทางโลกกะทางธรรมมันคนละเรื่อง ถ้าคนเคร่งศาสนามากหรือแก่วัดมากมันลำบากนักก็แนะนำให้ไปบวชเสีย แต่ก็ไม่แน่นะ แม้แต่คนที่บวชเรีรยนมาตั้งแต่เด็กมาถึงขั้นเป็นพระสงฆ์องคเจ้ามีคนนับหน้าถือตาทั่วบ้านทั่วเมือง ก็ยังอดเรื่องกามราคะไม่ได้เลย บางคนไม่อยากนอนกับเมียก็หาข้ออ้างว่าถือศิลก็มี

ดังนั้นขอแนะนำว่า ถ้าใครฝืนไม่ได้ จะทำอะไรก็ทำเถอะ ตราบใดที่ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ถ้าทำแล้วไม่สบายใจก็มาระบายให้คนอื่นฟังได้ ที่สำคัญอย่าไปเชื่อมากนักว่า "อดข้าวดอกเจ้าชีวิตวาย ไม่ตายดอกเพราะอดเสน่หา" ใครบอกไม่ตาย เรียกว่าตายทั้งเป็นเลยละ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 ส.ค. 12, 10:17 น โดย BACHUS20 » noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #5 เมื่อ: 18 ส.ค. 12, 09:19 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คนเราชอบพูดว่า "ผิดกลิ่น" หมายถึงอะไร คนมีกลิ่นไหม มีแน่นอน มีหลายกลิ่นเสียด้วย เอามาบอกถือเสียว่ารู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม (คัดลอกมาจาก กระทู้ของคุณ stapanavej เว็บบ้านราษฎร์ครับ)

..... กลิ่นปาก... มักมาจากสองส่วนคือ..จากความไม่สะอาด และโรคในช่องปาก ฟัน และเหงือก .. ส่วนที่สอง
มาจากเศษอาหารที่ติดค้างอยู่ในกะเพาะอาหาร ซึ่งยังไม่ถูกย่อยไปหมด และอาจจะตกค้างเน่าเสีย ซึ่งสร้าง
กลิ่นระเหยขึ้นมา ...อันไม่เป็นที่พึงปรารถนาของใครเลย

..... กลิ่นกาย ... ซึ่งมาจากหลายส่วนเลย แยกได้ประมาณนี้ครับ ..
.....................1. ซอกคอ ซอกหลังใบหู ซอกรักแร้ ข้อพับแขน และจาำกลำตัวส่วนเหนือเอว แผ่นหลัง จะมีต่อมเหงื่อบริเวณดังกล่าวผลิตของเหลวออกมา..และเมื่อได้สัมผัสกับแบคทีเรียที่เกาะอยู่ตามร่างกาย จะทำให้เกิดกลิ่นที่แตกต่างกันไป.. บางกลิ่นชวนให้รู้สึกดี น่าหลงไหล บางกลิ่นก็ทำให้รู้สึกไม่อยากได้กลิ่น หรือน่าจะรังเกียจมากกว่า พอใจ
อย่างไรก็ตาม ก็แล้วแต่ความรู้สึกของผู้ได้รับกลิ่นนั้น ว่าประสาทสัมผัสของตนจะแมทช์ กับ กลิ่นที่ได้รับแค่ไหน
เพียงไร (ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับการหมั่นรักษาความสะอาด เช่น การอาบน้ำ ถูกตัว เป็นอย่างดีก่อนด้วยครับ)
......................2. ส่วนที่ต่ำกว่าเอวลงไป ลงไปถึงซอกขาหนีบทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และข้อพับของเท้า ซึ่ง
จะมีต่อมเหงื่อที่ผลิตของเหลวออกมา เมื่อได้สัมผัสแบคทีเรีย ก็จะเกิดกลิ่นแตกต่างกันไปแต่ละคนเช่นกันครับ..
อันมีทั้งกลิ่นที่ชวนหลงไหล กับกลิ่นที่ไม่พีงอยากได้กลิ่นด้วยซ้ำ

..... กลิ่นซอกหลืบ... เป็นกลิ่นที่เกิดจากซอกหลืบภายใน ของทั้งหญิงและชาย ..
.........................1. สำหรับฝ่ายหญิงมีทั้งส่วนที่เกิดขึ้นโดยต่อมเหงื่อธรรมชาติ และส่วนที่เกิดจากภาวะการ
สะสมความไม่สะอาดเอาไว้ ซึ่งน่าจะมีกลิ่นที่แตกต่างกันไป มากบ้าง น้อยบ้าง ... แต่เชื่อว่า ส่วนที่ไม่เกิดจาก
ภาวะการสะสมความไม่สะอาด น่าจะเป็นส่วนที่มีกลิ่นอันรับได้จากเพศตรงข้าม แต่ส่วนที่เกิดจากความไม่สะอาด
น่าจะเป็นในทางตรงข้ามครับ ...
..........................2. สำหรับฝ่ายชาย..เป็นส่วนที่เกิดจากสะสมความไม่สะอาดมากกว่า .. หลายท่านที่มีส่วน
ของปลายท่ออวัยวะยื่นยาวเลยท่อปัสสาวะออกมา (เรียกว่าหนังหุ้มอวัยวะไม่เปิด แบบที่ชาวมุสลิมมักจะตัดส่วนนี้
ออกไป ซึ่งเรียกว่าขลิบออก) ซึ่งการที่หนังหุ้มอวัยยวะไม่เปิดหมดนี้ ทำให้สะสมความไม่สะอาดต่างๆ ไว้ภายใน
หนังที่หุ้มอยู่.. และการทำความสะอาดทุกครั้งในการอาบน้ำ หรือเข้าห้องขับถ่าย ไม่เต็มร้อย .. ก็จะเกิดกลิ่นอัน
ไม่พึงประสงค์ขึ้นได้

..... กลิ่นน้ำคัดหลั่ง ส่วนใหญ่จะหมายถึงของเหลวที่ถูกผลิตออกมา ในระหว่างการโรแมนติคกันของชาย
และหญิง (ซึ่งเรียกว่าน้ำหล่อลื่น จะมีทั้งในฝ่ายหญิง และฝ่ายชาย แต่ของฝ่ายหญิงธรรมชาติจะให้มีมากกว่า เพื่อ
สร้างภาวะความสะดวก ตามชื่อที่เรียกนั้นเอง) ..... น้ำคัดหลั่งนี้ส่วนใหญ่จะมีกลิ่นเอนไปทางกลิ่นที่มีเสน่ห์เย้ายวน
ใจ มากกว่ากลิ่นอันไม่พึงประสงค์.. เว้นเสียแต่ว่าการรักษาความสะอาดของเจ้าของน้ำคัดหลั่งไม่ดีพอ และสะสม
ความไม่สะอาดติดค้างอยู่ด้วย ก็พาลทำให้กลิ่นที่เย้ายวนอาจจะเปลี่ยนไปในทางตรงข้ามได้...

..... กลิ่นน้ำเชื้อของฝ่ายชาย ถุงอัณฑะ จะิเป็นผู้ผลิตน้ำเชื้อนี้ออกมา และลำเลียงหลั่งออกมาจากปลาย
ท่ออวัยวะเมื่อถึงจุดสุดยอด เพื่อการผสมกับไข่ภายในมดลูก่ของฝ่ายหญิง ...กลิ่นน้ำเชื้อ(อสุจิ) นี้ก็มีกลิ่นที่แตกต่างกัน
ไปด้วย เช่นหากฝ่ายชายไม่รักษาความสะอาด และหรือติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อยู่ กลิ่นน้ำเชื้อนี้ก็จะมีกลิ่นอันไม่
พึงประสงค์ หรือฝ่ายชายมีภาวะของโรคประจำตัวอยู่เช่น โรคต่อมลูกหมาก หรือ มะเร็งต่อมลูกหมาก น้ำเชื้อที่ถูกผลิต
และลำเลียงออกมา ก็จะบังเกิดกลิ่นอันไม่น่าพิศมัยนัก
..แต่ถ้าหากไม่ประสบภาวะปัญหาอะไร กลิ่นแท้ๆ ของน้ำเชื้อ semenฝ่ายชาย จะมีกลิ่นที่ไม่น่ารังเกียจอะไร ส่วนประกอบของน้ำเชื้อ จะมีพวกโปรตีน (เพราะมีเจ้าตัวจิ๋วหางยาวๆ จำนวนมากมายแหวกว่าย อยู่ในน้ำหล่อเลี้ยงสีขาวขุ่น เสมือนอาหารของพวกนี้) ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อคน แม้จะเข้าปาก หรือเข้าไปในร่างกายของอีกฝ่ายหนึ่ง......
..... ส่วนของฝ่ายหญิงเมื่อถึงจุดสุดยอด ก็จะผลิดของเหลวใสๆ ออกมาโดยต่อมตรงจุด G-Spot มาก หรือน้อยแล้วแต่คนแต่ของเหลวนี้ไม่เรียกว่าน้ำเชื้อ แต่เป็นของเหลวที่ถูกผลิตออกมาเมื่อถูกกระตุ้น และมากขึ้นเมื่อถึงจุดสุดยอด และกลิ่นจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับต่อมที่ผลิตของเหลวนั้นว่าจะสร้างกลิ่นเย้ายวน หรือกลิ่นอันไม่พึงประสงค์หรือไม่

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #6 เมื่อ: 18 ส.ค. 12, 09:28 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ที่เคัดเอามาเล่ายืดยาวงก็เพื่อผู้อ่านที่เป็นผุ้ชายจะได้รับรู้ว่า อันว่ากลิ่นที่ผู้ชายดมๆและเลียๆอวัยวะคนรู้ใจนั้นมันกลิ่นอะไรแน่ และถ้าช่องคลอดของเธอเริ่มเป็นมะเร็งกลิ่นมันคงเหม็นเหมือนปลาเค็มอะไรทำนองนั้น จะได้สังเกตุมิใช่หลับหูหลับตาดมเรื่อยเปื่อย

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #7 เมื่อ: 19 ส.ค. 12, 00:13 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คุณสาวๆเอย ครับ

ความจริงในโลกนี้ยังมีปัญหาอีกมากมายนักไม่เฉพาะแต่ปัญหาชีวิตคู่ แต่ในบรรดาปัญหาทั้งหลายผมว่าปัญหาเรื่องเพศจะเป็นปัญหาใหญ่กว่าเป็นแต่ว่าคนทั่วไปไม่ค่อยยอมรับ จะอย่างไรก็ดีปัญหาเรืองเพศที่บางทีก็เรียกปัญหาชีวิตคู่เพราะมันเกี่ยวกันระหว่างคนสองคน หรือสองคนขึ้นไป ในบางข้อเขียนของผมก็ได้เน้นให้ตระหนักถืงปัญหาที่ควรแก้ไข ครั้นเขียนๆไปก็เกิดเป็นห่วงว่าสำหรับสาวเอยของผมบางรายจะจริงจังจนเกินไป จริงจังแบบไปคิดว่าเรื่ืองเพศเรื่องความสัมพันธ์ของคนต่างเพศจะต้องมีกฏเกณฑ์แน่นอน เมื่อมีกฏเกณฑ์ก็สามารถมีวิธีแก้ไขแต่ละปัญหาของทุกคนเหมือนๆกันซึ่งมันไม่ใช่

เอาเป็นว่าปัญหาเรื่องเพศซึ่งมีส่วนสำคัญในการกำหนดพฤติกรรมของมนุษย์ทั้งหญิงและชายนั้น มันเป็นเรื่องของร่างกายและเรื่องสภาวะจิตใจในขณะเดียวกัน อย่างที่เคยพูดถึง บางคนใช้วิธีแก้ปัญหาไม่เหมือนกัน บางคนใช้วิธีเช้าวัดเพื่อไปกำหนดจิตมิให้มันนึกถึงซึ่งที่จริงมันไม่ใช่วิธีแก้ เป็นแต่มันก็อาจช่วยระงัยความคิดไปชั่วขณะ พอเผลอๆจิตมันก็กระหวัดคิดอีก บางคนใช้วิธีหาทางเอาชนะคู่ครองหรือแฟนที่ตนรักโดยการไปหาหมอเสน่ห์อย่างที่ผมเคยพูดมาแล้ว นอกจากจะเสียเงิน เผลอๆอาจเสียตัวพลาดท่าให้หมอเสน่ห์เสียอีก ครั่นจะไปโพนทนาก็อายเพื่อนอายเพื่อนฝูง

เอาละ ถ้าไม่ต้องการหาทางแก้ปัญหาจริงๆ วิธีง่ายๆในการทำใจก็ให้ถือว่า ในโลกนี้ทุกอย่างเป็นไปตามกรรม การจะได้เจอเนื้อคู่ การจะได้พลัดพรากจากกัน การจะไปมีคู่รักคนรักซ้อน หรือการจะต้องมีพฤติกรรมที่สังคมเห็นว่าผิดศิลหรือบัดสี มันล้วนแต่เกิดจากกรรมเก่าทั้งนั้น ถูกแล้วครับ พระพุทธธรรมคำสอนก็บอกว่ามนุษย์เกิดมาและเป็นไปตามกรรม ใครทำกรรมดีก็ได้ัรับผลตอบแทนดี ฯลฯ การที่จะโต้แย้งว่าไม่เห็นจริง เพราะเห็นคนบางคนทำชั่วก็ได้รับผลดีมีกินมีใช้มีคู่ครองสมบูรณ์พูนสุข มันก็เป็นเรืื่องของกรรมเก่านั่นแหละครับ เพราะชาติก่อนเขาทำบุญมาก และบุญในชาติก่อนมาเกื้อหนุนเขาในชาตินี้ยังไงครับ

ขอเรียนตามตรงว่าปัญหาชีวิตคู่อาจเป็นเรื่องของทั้งจิตใจและร่างกาย หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เมื่อพูดถึงจิตใจย่อมหมายความรวมถึงอารมณ์ความอยากความใตร่ด้วย ฉะนั้นในทางวิทยาศาสตร์บางทีมันอธิบายเหตุผลไม่ได้จริงๆ ฉะนั้้นอย่าพยายามหาเหตุผลเพราะอารมณ์ของมนุษย์จริงๆแล้วไม่ได้ต้องมีเหตุผลเสมอไป เช่นบางคนชอบมีแฟนรูปหล่อล่ำบึ๊ก บางคนชอบมีแฟนรูปร่างพอดี หน้าตาอาจไม่สำคัญ หรือบางคนต้องการมีคู่ครองโดยมุ่งหวังความอบอุ่นความช่วยเหลือที่อีกฝ่ายจะมอบให้ได้ ดังนั้นการที่จะสรุปว่าอะไรที่เกิด มันเกิดตามกรรม มันน่าจะเป็นข้อสรุปที่ดีที่สุดในขณะนี้

เมื่อหาทางสรุปปัญหาที่เกิดดังนี้แล้วก้เป็นหน้าที่ของแค่ละคนจะหาวิธีแก้ไข การแก้ไขผมก้บอกแล้วอย่าไปจริงจังเกินไป ทำจิตใจให้สบาย พยายามองปัญหาที่เกิดขึ้นในแง่ขบขันก็น่าจะช่วยได้บ้างครับ ถ้าอยากหาความรู้หรือประสบการณ์ของคนอื่น ผมก็พยายามหามาเสนอโดยเฉพาะที่ผมรู้ หรือมีประสบการณ์ เป็นแต่ผมพยายามที่จะไม่หาประสบการณ์แบบผาดโผนมาเสนอในกระทู้นี้ซึ่งมีคนอ่านทั้งหญิงสาว เด็กสาว และแม่บ้านซึ่งมาตรฐานสภาพความเป็นอยู่และจิตใจไม่เหมือนกัน แต่จะอย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าความเห็นของผมเป็นความเห็นส่วนตัวซึ่งอาจจะผิดหรือถูกก็ได้

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ขอแชร์ค่ะ
เรทกระทู้
« ตอบ #8 เมื่อ: 19 ส.ค. 12, 19:39 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

หายไปหลายวัน...กลับมาร่ายซะยามเหยียดเลยนะคะ

เรื่องที่คุณพูดมาส่วนใหญ่เป็นความจริงค่ะ หลาย ๆคนทนทุกข์ทรมานไม่มีความสุขในชีวิตคู่ ก็เพราะความเชื่อผิด ๆ ที่ว่า เมื่อแต่งกันแล้ว ก็ทน ๆ กันไป กว่าจะรู้ตัวอีกที ก็เมื่อไปเจอคน ๆใหม่ ที่ถูกใจใช่เลย ก็ทำอะไรลำบาก จะเลิกกับคนเก่า ก็ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาอ้าง เพราะทนกันมาตั้งนานแล้ว กับคนใหม่ก็ไม่อยากเสียไป...

จริงนะ...

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #9 เมื่อ: 20 ส.ค. 12, 07:50 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
สวัสดีครับ คุณ ขอแชร์ค่ะ

ก็คงต้องต่อว่า ว่าคุณสาวน้อยผู้รักอิสระเสรีอายุ 20 ปีปลายอย่างคุณขอแชร์ค่ะปล่อยให้หนุ่มใหญ่อย่างผมเขียนกระทู้ยาวๆอยู่คนเดียว ความจริงข้อคิดเห็นของคุณขอแชร์ค่ะมีแฟนๆอยากอ่านอยากฟังคุณเล่าอยู่อีกเยอะครับ

พอมาถึงก้เล่นสรุปสั้นๆเห้นด้วยกับความคิดเห็นของผมที่จริงเราเคยเห็นต้างอยุ่หลายเรื่องนะ ตอนนี้ขอวกไปคุยเรื่องกลิ่นอีกทีนะครับ ใครว่ากลิ่นไม่สำคัญล่ะ

เรืองกลิ่นตัวกลิ่นเหงื่อนะครับ คนที่โรแมนติกละก็จะพิถีพิถัน และการพิถีพิถันก็เพื่อความจรุงใจความสุขทีีสมบูรณ์ขึ้นทั่้งรูปรส กลิ่นเสียงและสัมผัส ในยามอารมณ์ปรอดโปร่งนะครับ มันดูดีไปหมดจริงๆ ความจริงเรื่องกลิ่นนี่ก็ไม่เชิงว่าผู้ชายต้องรังเกียจไปหมดนะครับ ผู้ชายบางคน เอ๊า ไม่ต้องบอกตนโน้นตนนี้นะครับ แม้แต่ผมเองยามรักยามพิสวาสนะ อะไรๆก็ดูจะหอมไปหมดทุกสัดส่วนของร่างกายคนใกล้ชิดของเรา และถ้าเธอรู้จักหากลิ่มน้ำหอมมาช่วยปรุงแต่งก็นับว่าวิเศษครับ

แต่ไม่แน่ครับ คือผู้ชายบางคนก็อาจจะรวมผมด้วยก็ชอบนะผู้หญิงมีกลิ่นนิดๆ จะกลิ่นเหงื่อกลิ่นกาย หรือกลิ่นอะไรๆในตัวเธอบางทีมันช่วยเพิ่มไฟในอารมณ์น่ะครับ สมัยนี้เขามีขายจำพวกน้ำหอมกลิ่นฟีโรโมนฉุนมากฉุนน้อยก็มีให้เลือก เขาโฆษณาว่าประพรมน้ำหอมกลิ่นที่ว่าจะเพิ่มอารมณ์ให้คุณผู้ชายพายเรื่อได้มาก คุณสาวเอยคนใดมีเงินก็ลองซื้อมาใช้ดู ใช้ได้ผลประการใดกรุณามาบอกต่อกันด้วย แต่ว่าก็ว่าเถอะครับ คุณเจ้ากลิ่นฟีโรโมนนี่ ผู้ชายก็มีเกือบทุกคน มากบ้างน้อยบ้างแต่คุณสาวๆหลายคนไม่สังเกตุหรือไม่รู้ว่านั่นมันกลิ่นฟีโรโมน ถ้าคุณสาวเอยากจะถามซักไซ้ให้รู้จริงๆ ก็ต้องบอกว่ามันเป็นกลิ่นน้ำเขื้อของผู้ชายผู้หญิงละครับ (ถ้าอธิบายผิด ท่านผู้รู้กรุณาอธิบายเพิ่มด้วยนะครับ)

ใครๆที่บอกชอบโรแมนติกแต่ไม่รู้จักกลิ่นแบบนี้ถือว่ายังไม่ใช่นักรักตัวจริงละ จริงๆนะ ผู้ชายบางคนก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าคุณกลิ่นที่ว่าเป็นกลิ่นยังไง แต่ผู้ชายบางคนนอกจากจะไม่รู้ดันไปเปรียบเทียบเป็นกลิ่นอะไรที่ฉุนนิดๆไปโน่น บางคนก็พูดเกินเลยว่ากลิ่นเหมือนปลาเค็มหรืออะไรคล้ายแบบนั้น แต่อย่าไปถือพวกผู้ชายบางคน แกออกจะปากจัดจ้าน หรือแกอาจไม่รู้จริงๆ และไม่รู้จะเปรียบเทียบยังไงน่ะครับ แกหารู้จักไม่ว่า กลิ่นบางกลิ่นแม้จะฉุนหรือแรง แต่คนก็ชอบนะ เช่นอาหารแบบปลาร้า ส้มตำ หรือของหมักดอง กลิ่นมันฉุนแต่คนก็ชอบกินไม่ใช่หรือ นี่ว่าด้วยเรื่องกลิ่นตามธรรมชาตินะ ไม่ใช่เรืื่องกลิ่นที่จะว่าซึ่งเป็นกลิ่นที่ผิดปรกติหรือไม่พึงประสงค์ของคู่ใจ (ในตอนต่อๆไป ครับ)
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ขอแชร์ค่ะ
เรทกระทู้
« ตอบ #10 เมื่อ: 20 ส.ค. 12, 10:27 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ต้องเรียนคุณ BACHUS 20 นะคะ ว่าไม่ได้หายไปไหน
เพียงแต่ไม่รู้จะแจมข้อเขียนกับใคร อย่างไร เพราโดยส่วนตัวชอบอ่านค่ะ

ต้องบอกก่อนว่า อายุเฉียด ๆ 50 เล็กน้อยมาก ๆ แล้วค่ะ
ไม่ใช่ 20 ปลาย ๆ อย่างที่คุณ จขกท. ให้กำลังใจหรอกค่ะ หุหุ
ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านฝน มาเยอะ จึงกล้าที่จะให้คำแนะนำกับใคร ๆได้บ้าง
แต่ก็เพียงในมุมมองแง่คิดของเราเท่านั้น ก็อาจจะไม่โดนหรือ ไม่ตรงใจใคร ๆ บ้าง
ก็ถือซะว่า ...ต่างจิตต่างใจ เราไม่ได้หวังคำชม ..แต่ก็ไม่ชอบคำด่า 555

สำหรับเรื่องที่คุณเขียนมาเรื่องกลิ่น ...ต้องบอกว่า นานาจิตตังจริง ๆ
สำหรับส่วนตัว ...หากผู้ชายคนนั้นกลิ่นไม่พึงประสงค์
ประเภท หมักหมม ไม่ค่อยอาบน้ำ หรือใส่เสื้อผ้าสกปรกเนี่ย รับไม่ได้เลยค่ะ
คนที่อยู่ปัจจุบันด้วยกัน..ต้องบอกว่า ต่างคน ต่างผลัดกันดมเลยค่ะ..หุหุ
ขนาดทำงานด้วยกันเหงื่อออก หยดติ๊ง ๆ ทั้งคู่ ต่างคนยังบอกว่าไม่เหม็นเลยค่ะ
หรือจะเป็นเพราะ ต่างพึงพอใจด้วยกันทั้งคู่มั๊งคะ...

เนี่ยก็เช็คระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันอยู่นะคะ ว่า Promotion ของทั้งคู่จะหมดเมื่อไร 555
แต่ก็หลายปีแล้ว ต่างคนยังรู้สึก Happy กับชีวิตรัก ชีวิต Sex กันดีอยู่
บางคนบอกวัยทองทั้งคู่แล้ว ยังมีอารมณ์นี้อยู่อีกเหรอ
ต้องบอกว่า คู่ของเรา คึกคักมาก เรียกว่าอย่าอยู่ในที่ลับตาคนเชียวล่ะ ...จัดหนักกันเลยทีเดียว

ดิฉันว่า...ความต้องการที่สมดุลกัน และการพูดคุยกันอย่างตรงไป ตรงมา
และการอยู่ด้วยกันอย่างถ้อยที ถ้อยอาศัย อย่าเอาเปรียบกัน
ไม่คาดหวังว่าต้องเป็นอย่างที่เราต้องการ
คิดซะว่าเขาก็ต้องมีชีวิตของเขา เราก็ต้องมีชิวิตของเรา
ให้เวลา ให้โอกาสในการใช้ชีวิต ก็จะทำให้การใช้ชีวิตคู่อยู่กันอย่างยืดยาว
เพราะหากว่าต่างฝ่าย ต่างหมดความรัก ความพึงพอใจกันแล้ว ยื้อไว้ไม่เกิดประโยชน์

สำหรับเรื่อง Sex ต้องพึงพอใจที่จะทำกิจกรรมทั้งคู่ เรียกว่า Win Win ค่ะ
เขาต้องทำให้เราด้วย เราก็ต้องทำให้เขาด้วย เรียกว่า เขาชอบอะไร เราก็ต้องชอบด้วย
ไม่ใช่เขามีความต้องการ แต่เราไม่มี เมื่อฝืนเมื่อไร ก็ล่มเมื่อนั้น
เรียกว่าทุกสนามที่ลับตาคน คือที่ ๆ เราสามารถทำกิจกรรมกันได้ค่ะ

สำหรับเรื่องขนาด จะว่าสำคัญมั๊ย โดยส่วนตัวก็ชอบนะคะ
เพราะดิฉัน เป็นผู้หญิงไทย Size ฝรั่ง หุหุ
แต่มันมีวิธีที่จะทำให้เรา Enjoy ได้กับขนาดของชายไทยมาตรฐานสูง 555
สำคัญที่คู่ของเรา ต้องรู้จักที่จะใช้อุปกรณ์ หรือตัวช่วย ที่พอเหมาะ พอดี
สิ่งสำคัญที่สุดของทั้งคู่คือ ความสุข ความสนุก ที่เกิดจากการทำกิจกรรมกัน
ต้องบอกก่อนว่า เราไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกวัน
เพราะทำงานคนละจังหวัดกัน จะเจอกันเฉพาะ เสาร์ - อาทิตย์เท่านั้น
แต่เมื่อมีความต้องการในช่วงระหว่างสัปดาห์ เราก็มี Sex Phone กันบ้าง
พอให้หวือหวา เรียกว่า ต่างคน ต่างกระตุ้นรอเวลามาพบกันเลยทีเดียว

อ่านมาถึงตรงนี้ อย่านึกว่า เราเป็นแค่คู่ขานะคะ เราแต่งงานกันตามประเพณีแล้วค่ะ
แต่เราทั้งสองชอบทำตัวแบบคู่รักกันที่เพิ่งจีบกันใหม่ ๆ
ส่วนใหญ่ ดิฉันจะบอกเขาเสมอว่า หมดรักกันเมื่อไร ก็ ต่างคนต่างไปได้ ไม่ต้องทะเลาะกัน
อยุู่กันอย่างสบาย ๆ พบเจอคนใหม่ที่ถูกใจเมื่อไร ก็บอกหน่อยแล้วกัน
เรียกว่า เราทั้งสองคน ต่างคน ต่างเคยผ่านชีวิตคู่ที่ล้มเหลวมาแล้วทั้งคู่มั๊งคะ
เราเลย รู้ว่าการที่เราจะอยู่กันอย่างมีความสุข เราต้องปฏิบัติตัวอย่างไร

แลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้บ้างนะคะ แต่ลงลึกมากกว่านี้ คงต้องพิจารณา
ถึงแม้ว่าจะมีความคิดแบบสุขนิยม แต่อย่างไรก็ตาม ..ยังอยู่ในสังคมหัวโขนอยู่
เรื่องบางเรื่องก็นำมาเผยแพร่ให้บุคคลอื่น ๆ รับรู้รับทราบได้ยากค่ะ

ขอบคุณที่ยังระลึกถึงกันอยู่ค่ะ




noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #11 เมื่อ: 20 ส.ค. 12, 20:59 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
คุณขอแชร์ค่ะ ครับ

ยินดได้เห็นมาคุยในกระทู้ครับ ผมดีใจที่มีคุณผู้หญิงตัวอย่างที่ดีๆมาเล่าประสบการณ์และแนวคิดดีๆให้คุณผู้หญิงด้วยกันได้รู้ได้ฟัง
ตามความเห็นของผม คุณขอแชร์ค่ะ ก็บอกนะว่าอายุเกือบ 50 (ซึ่ง 30-40ปี ก็ถือว่าเกือบๆเหมือนกัน)แต่มีความคิดทันสมัยพยายามทำตัวเหมือนตอนรักกันใหม่ๆได้ ทำให้ชีวิตมีชีวามีรสชาด รู้จักเอาใจใส่เสริมเติมแต่งตามสมควร

คุณขอแช์ครับ ผมเชื่อนะคุณผุ้หยิงเข่้ามาอ่านกระทู้ในห้องนี้เกือบ 80-90 % มีปัญหาเกี่ยวกับชีวิตคุ่ชีวิตรัก หรือก็มีนะที่เป้นสาวน้อยกำลังจะเริ่มเรียนรุ้ชีวิตคู่ ผมเองอ่านๆไปก็ไม่ได้แปลกใจหรอกเพราะคนเราในโลกนี้จะหนีเรื่อง กิน ขี้ ปี้ นอน ไม่ได้หรอก ใครจะมาอ้างว่าตัวเองเคร่งศาสนา แม้แต่มีเมียก้ไม่นอนกับเมียผมก็ยังไม่เชื่อ แต่มันไม่แน่คนไม่นอนกับเมียไม่้ใฃ่จะตายด้าน ลองผิดกลิ่นสิ อาจเกิดกำหนัดได้

ผมเองยอมรับว่าตะัวเองความหนุ่มมันมีน้อย แต่บังเอิญพรหมลิขิตได้กำหนดฃะตาให้มีคนรุ้ใจอีกคนที่เป็นสาวแส้อยู่ ดังนั้น แม้จะแก่แค่ไหนผมต้องพยายามทำตัวให้หนุ่มเข้าไว้ เพราะขีนทำตัวแก่คนรู้ใจจะเบื่อน่ะสิครับ พูดถึงเรืองเครื่องมือเครืองช่วยผมต้องศึกษาไว้ต้องมีไว้ จำเป็นครับ สววรรค์ไม่ได้สร้างให้ผมเป็นคนโชคดีมีของดีติดตัวมาชนิดที่ผู้หญิงหลง ก็เลยต้องศึกษากลเม็ดเทคนิคต่างๆไว้ครับ

นั่นสิ สำหรับคนหนุ่มคนสาวในห้องนี้ เชื่อว่าปัญหาของแต่ละคนแก้ได้ แต่ถ้ามีปัญหาอย่าเพิ่งเครียด โธ่ หญิงฃายตาบอด หญิงชายพิกลพิการเขายังหาความสุขใส่ตัวได้ ทำไมท่านเองอาจจะไม่สมบูรณ์ทุกอย่างขาดบางอย่างจะยอมแพ้ชีวิตล่ะครับ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ขอแชร์ค่ะ
เรทกระทู้
« ตอบ #12 เมื่อ: 20 ส.ค. 12, 22:30 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ก็จริงอยู่...ในเรื่องที่บอกว่าหญิงชายตาบอด ยังหาความสุขใส่ตัวได้..

แต่ก็อีกแหล่ะ ..ค่านิยม หรือธรรมเนียมประเพณีที่สั่งสอนหญิงไทยแต่โบราณ
มีส่วนอย่างมากในการหล่อหลอมความคิดที่ให้หญิงไทย ต้องเก็บออมความรู้สึก
ในเรื่องความรัก ความต้องการ ตามธรรมชาติเอาไว้ ไม่ให้แสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง โลดโผน
ซึ่งดิฉันก็ต้องยอมรับว่า ..เมื่อวัยเยาว์ ก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน

แต่เมื่อเวลาผ่านไป...เมื่อผ่านชีวิตมาพอสมควร...ตั้งแต่วัยสาว จยวัยครองเรือน
เรียนรู้ว่า...หากเรายึดติดกับ สังคมมากไป เราไม่มีความสุข
ถึงวันหนึ่ง เรากำลังเหมือนคนถูกผูกติดกับถัง อ๊อกซิเจน กำลังจะตาย..
จนวาระที่ถังอ๊อกซิเจนระเบิดออกมา ..แหลกละเอียด...
เราค้นพบว่า แท้ที่จริงแล้ว เราสามารถที่จะหายใจได้ด้วยตัวเอง
เราไม่จำเป็นต้องพึ่งมันอีกต่อไป...

สำหรับ...เรื่อง Sex เมื่อวัยสาวก็ไม่ประสีประสา เพราะสมัยนั้น ไม่มีสื่อให้เรียนรู้มากนัก
ไม่เหมือนสมัยนี้ ...สื่อเยอะ 555 เรียกว่าสามารถเรียนรู้กันอย่างโจ่งแจ้งทีเดียว
หรือเป็นเพราะประสบการณ์ยังน้อย เจอคู่ที่อ่อนประสบการณ์ ไม่เคยรู้จักความสุขในชีวิต Sex
ก็ยังเคยคิดว่า Sex ไม่สำคัญ เพราะไม่เห็นจะน่ารื่นรมย์ เลยสักนิด น่ารังเกียจ ขยะแขยง

แต่เมื่อเวลาผ่านไป...เมื่อปล่อยวาง และมองโลกของความเป็นจริงมากขึ้น หันหาความสุขใส่ตัว
จึงค้นพบว่า...อืม ก็ดีนะ ทำให้เลือดสูบฉีด หัวใจเต้นแรง กลับมาวูบวาบ เหมือนเมื่อวัยกระเตาะอีกครั้ง

555 เคยโดนหญิงไทยที่บอกว่าเป็นคนหัวโบราณ (แต่ลงหาคู่ใน web online )
ด่าเราว่าเป็นหญิงมั่วผู้ชาย แค่เราแนะนำเขาว่าให้ใช้ชีวิตแบบสุขนิยมมั่ง
อย่าได้แคร์กับความบริสุทธิ์ของเยื่อพรหมจารีย์ ที่เธอเฝ้าถนอมไว้อยู่เลย
เราแค่บอกว่า หากผู้ชายคนที่พรากสิ่งนั้นจากเธอไป เขาไม่สนใจ ก็อย่าได้ไปอาลัยอาวรณ์มันนัก
เปิดโอกาสหาผู้ชายคนใหม่ดีกว่ามั๊ย เธอก็ตีโพยตีพายว่าเราเยอะแยะ..เฮ้อ

เราว่าสมัยนี้ ...ผู้ชายที่เขาไม่ได้สนใจเรื่องความบริสุทธิ์ มีเยอะแยะ
แต่หากโชคไม่ดีเจอคนแบบนั้นก็ ปล่อยมันไปเหอะ ..เพราะหากเรื่องนี้ยังเห็นแก่ตัว
เรื่องอื่น ๆ ก็คงไม่รอดเช่นกัน...

ร่ายซะยืดยาว ... สงสัยอัดอั้นมั๊งเนี่ยเรา ....อิอิ





noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #13 เมื่อ: 21 ส.ค. 12, 10:51 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
คุณขอแชร์ ค่ะ ครับ ที่จริงน่าจะเปลี่ยนฃื่อเป็น เจ้าแม่แชร์ ดีไหมครับ

อ่านสองเที่ยว มาติดใจจริงๆก็ประโยคที่ว่า " เราว่าสมัยนี้ ...ผู้ชายที่เขาไม่ได้สนใจเรื่องความบริสุทธิ์ มีเยอะแยะ...."

แหม พูดจริงๆนะครับ ถ้าผู้ชายเลือกได้เขาก็ต้องเลือกเอาสาวๆที่บริสุทธิ์ละครับ ทีนี้มันมีปัญหาที่ว่าเกิดเจอปุ๊บ ปิ๊งปั๊บจะทำยังไง ตอนแรกอาจคิดว่าลองคบเล่นๆถ้ามีอะไรกันผู้ชายก้ไม่เสียหายนี่ อันนี้ผมเอาเองนะครับ

ทีนี่้พอคบๆไปชักรักขึ้นมาจริงๆ ตอนนี้จะมานั่งถามว่า "เธอจีะ เธอยังบริสุทธิ์อยู่ไหม ? " แล้วผู้ชายจะหวังได้เหรอว่่า เธอจะบอก " จ๊ะ หนููโดนเจาะใข่แดงมาแล้วแค่ไม่กี่ที่จ๊ะ" ในโลกแห่งความเป็นจริงมันไม่มีครับ ขืนไปถามเธอยังงั้นเป็นอดละคืนนั้น

ดังนั้น ถ้ามีผู้ชายที่แกอยากจะรู้และอยากได้สาวซิงๆก็อย่าไปว่าแกเลยครับ ที่จริงวันหลังแกถึงจะรุ้ว่า ขี่ม้าที่เคยมีคนฝึกมาแล้วอาจจะดีกว่า ก็เป็นได้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 ส.ค. 12, 11:00 น โดย BACHUS20 » noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ขอแชร์ค่ะ
เรทกระทู้
« ตอบ #14 เมื่อ: 21 ส.ค. 12, 22:26 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

"ดังนั้น ถ้ามีผู้ชายที่แกอยากจะรู้และอยากได้สาวซิงๆก็อย่าไปว่าแกเลยครับ ที่จริงวันหลังแกถึงจะรุ้ว่า ขี่ม้าที่เคยมีคนฝึกมาแล้วอาจจะดีกว่า ก็เป็นได้ครับ"

หรืออีกที ก็อาจจะเป็นเพราะพี่แก กลัวใครจะรู้ว่าไม่เจ๋งจริงล่ะสิ อิอิ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #15 เมื่อ: 22 ส.ค. 12, 08:19 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
เอ ท่าจะจริง เจ้าแม่แชร์ ครับ

มันก็คงมีนะครับ ผู้ชายประเภท นกเขาน้อย คือ แกไม่มั่นใจเพราะของแกเล็ก ถ้าผู้หญิงที่เธอเคยผ่านสนามมาแล้ว เธออาจจะนึกเปรียบเทียบ

เอ แต่สำหรับผมเองไม่เคยนึกกลัวนะครับ ถือว่าขนาดไม่สำคัญ มันอยู่ที่ลีลา สมัยนี้แถมยังมีเครื่องฃวยอีกเยอะแยะ
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #16 เมื่อ: 23 ส.ค. 12, 07:58 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

พูดถึงปัญหาของคนเราอย่างที่บอกละครับ ส่วนใหญ่หรืแอส่วนหนึ่งมาจากปัญหาบนเตียงจริงๆ ผมอยากจะเอาปัญหาที่เกิดขึ้นกับเพื่อนๆของผมสมัยหนุ่มๆมาเล่า เพราะปัญหาที่จะเล่าหรือเปิดเผยต่อไปนี้มันเป็นปัญหาที่เกิดได้ทั้งของคุณผู้ชายหนุ่มแก่และสาวๆหรือแม้แต่หญิงที่มีสามีแล้วมีอายุแล้ว

ผมขอยกตัวอย่างที่เกิดกับเพื่อนผมคนหนึ่งมาให้ฟัง เพื่อนผมคนนี้ตั้งแต่ตอนหนุ่มๆไม่เคยมีความสุขกับการได้ร่วมหลับนอนกับผู้หญิงจนขนาดเกิดปมด้อยต้องไปหาความสุขเอากับหญิง***หรือหมอนวด กระนั้นก็ตามปรากฏกว่าแม้แต่หมอนวดก็ไม่ยินดีจะร่วมรักกับแก แกก็ได้แต่ออกมาถามเพื่อนๆที่สนิทอย่างผมอยู่นั่นแหละทำไมพวกหมอนวดถึงนอนเป็นท่อนไม้ไม่ยินดียินร้ายกับแกเลย หนักเข้าแกได้ลงทุนจ่ายเงินค่าหมอนวดให้ผมไปลองนอนกับหมอนวดที่แกเคยนวดถึงได้รุ้ความจริง

คราวนี้ก็มาถึงเพื่อนอีกคน คนนี้รูปหล่อ หาจีบสาวได้ไม่ยาก แต่มันก็เกิดมีปํญหาอีก ปัญหาคือว่า แกไม่สามารถบรรลุผลในการร่วมเพศ ถามรายละเอียดแกแล้ว แกอธิบายให้ฟังอย่างหมดเปลือกละว่า พอกำลังจะเพลินๆมีความสุข อยู่ๆมันก็สะดุดกึกเจ้ามะเขือของแกก็เกิดอาการเผาขึ้นมาเฉยๆ สำหรับเพื่อนรายนี้ผมไม่ได้รับอนุญาตไปทดสอบเพราะเธอเป็นผู้หญิงคนทำงานปรกตินี่ครับ แต่ในที่สุดพอคาดคั้นถามซอกแซกเจ้าเพื่อนรักจริงๆก็ได้รู้ถึงปัญหา มันเหลือเชื่อ มันไม่น่าเป็นปัญหา ถึงแม้จะเป็นมันก็แก้ได้ไม่ยาก

สำหรับรายเพื่อนคนแรกได้ไปนอนแต่กับหญิงบริการ เพราะมีปมด้อยกลัวจีบสาวๆแล้่วมีปัญหา จากการที่ค่อยๆถามหมอนวดเจ้่าประจำของแก เธอบอกว่า แหม พี่ พอหนูจะมีอารมณ๋มันก็ไม่ไหว ปากแกมีกลิ่นเหม็นมากๆ เธอก็อุตส่าห์ทนให้เสร็จๆไปแต่เพื่อนผมก็ไม่เสร็จ ครั้นจะพูดขึ้นก้กลัวจะไม่ได้ค่าทิป พอผมออกมาบอกแก คุณเพื่อนผมก็ตบเข่าฉาด อั๊วว่าแล้ว คุณปากอั๊วนี้แหละเป็นเหตุ คือปากอั๊วหมอบอกมันมีกลิ่นเพราะอั๊วเป็นโรคกระเพาะ โธ่ เห็นๆไหมครับ เรื่องเพศแกไม่มีปัญหาเลย จะมัวไปโด๊ปยาบำรุงก็ไม่ช่วยอะไรได้ อีกหลายเดือนต่อมาได้เจอเพื่อนคนนั้นอีกได้รับการบอกเล่าว่าตอนนี้กำลังรักษาโรคกระเพาะ เวลาไปร่วมเพศแกจะใช้ยาอมฃ่วยกลบกลิ่นปากก็พอช่วยได้บ้าง หลังจากนั้นปัญหาเรื่องผู้หญิงไม่ยินดีหมดไป แต่มีปัญหานกเขาแกไม่แข็งแรง อันนี้ก็ต้องสัมภาษณ์และถามละเอียดว่าแกทำยังไงบ้าง

คราวนี้ก็ม่าถึงเพื่อนอีกคนหนึ่ง คนนี้มีกำลังวังชาเป็นหนุ่มฉกรรจ์เลยละ แต่ปัญหาคือกำลังมีความสุขครึ่งๆกลางๆมะเขือก็เผาเสียยังงี้น คือหดหู่ไปเลย ถามอย่างละเอียด แกบอกว่า ไม่รู้เป็นอย่างไร นอนกับผู้หญิงสาวบางคนที่เริ่มรู้จักกันและเริ่มรักกัน อยู่ๆจะมีกลิ่นไม่พีงประสงค์จากหลืบเร้นลับโชยมาเตะจมูก เท่านั่นแหละนกเขาของแกก็จะแปรสภาพเป็นกล้วยตากแห้งไปเลย ผมถามว่าทำไมแกไม่บอกผู้หญิงไปล่ะ คำตอบก็คือ บอกได้ยังไง ขนาดไม่พูดอะไรเธอก็เกลียดเราจะตายเพราะทั้งอั๊วและเธอต่างก็ไม่ถึงฝั่งฝัน (ผมพูดอย่างนี้ให้ดูเรียบร้อยนะ จริงๆเพื่อนมันพูดยิ่งกว่านี้)

กรณีนี้ลางทีผมออกจะเห็นใจที่ผู้หญิงบางคนมีกลิ่นจากซอกหลืบที่ซ่อนเร้นมากน้อยไม่เหมือนกัน บางรายเกิดจากไม่หมั่นทำความสะอาด แต่บางคนเกิดจากปัญหาภายในแต่เธอไม่รู้ ที่ไม่รุ้เพราะปรกติจมูกของเธอกับที่ซ่อนเร้นมันก็ห่างกันอยู่นะ ถ้าจะถามว่าแล้วทำไมผู้ชายถึงได้กลิ่นล่ะ แหมถามมาตรงๆอย่างนี้ก็ต้องตอบตรงๆละนะว่า ก็จมูกผู้ชายมันอยู่เฉยๆเสียที่ไหนล่ะครับ ผู้ชายบางคนนี่ถือมากเรื่องความสะอาดเรื่องกลิ่น เจ้ากลิ่นฟีโรโมนน่ะไม่ว่า แต่มันเป็น กลิ่นแบบบูดเน่านี่ ผู้ชายบางคนรับไม่ได้ นอกจากรับไม่ได้มีหวังความสัมพันธ์ต้องขาดสะบั่นแน่ๆ ขาดโดยที่ผู้หญิงจะไม่มีโอากาสรับรู้เลยว่าอยู่ๆทำไมผู้ชายคนนั้นค่อยๆเลือนหายไป ที่สำคัญเขาจะบอกเธอได้ยังไง เลิกเพราะอะไร

ฉะนั้นตุณๆสาวเอย จงจำไว้ ถ้าคุณเป็นสาวและเริ่มมีแฟนหรือคู่รัก และก่อนจะมีเพศสัมพันธ์ขอให้แน่ใจว่า หลืบเร้นลับของคุณจะไม่ทำพิษ บางทีจะโทษหมอเสมอไปก็ไม่ได้ เพราะตอนที่คุณไปขอตรวจภายในนั้น หมอแกก็มีผ้าปิดปากปิดจมูก บางทีหมอก็ไม่ได้กลิ่นละครับ เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องคุณสาวเอยจะต้องให้ตนเป็นที่พึงแก่ตนโดยอาศัยหมั่นสังเกตุเอาเอง
เห็นไหมครับ

กรณีที่เกิดกับผู้ชาย และผู้หญิงที่ยกตัวอย่างมา ทั้งสองคนไม่ได้มีปัญหาเรื่องร่างกายหรือสมรรถภาพเลย สำหรับหนุ่มๆที่เป็นโรคมะเขือเผาคงจะต้องเอาใจใส่ให้มากๆ เพราะปรกติมะเขือของคุณมันก็ทำท่าจะเผาอยู่แล้ว ถ้ามาเจอปัญหาที่ว่ามันจะทำให้คุณปวดหัวเอาเลยเพราะไม่อาจรู้ว่ามันเป็นสาเหตุอะรกันแน่

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:  สาวๆ 

หน้า: 1

 
ตอบ
ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:   Go
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม