เรื่องล่าสุดของหมวด
หน้าใหม่ดีเวอร์ "แพรว คณิตกุล" แจงละเอียดทำหน้า ดูดไขมัน เป๊ะปังอลังการ
7 วิธีลดปัญหารูขุมขนกว้างอุดตัน ให้กลับมาเรียบเนียนสดใส
"โบว์ เบญจวรรณ" สวยตาแตกจนได้ฉายาล่าสุด "โสดไม่เสียเส้น"
5 วิธีป้องกันเมคอัพหลุดไหลเยิ้ม ช่วงหน้าฝน
ได้มาก โดนมาก "ริต้า ศรีริต้า" ปรับลุครับ Pride Month เป๊ะโดนใจชาวสีรุ้ง
"พิมจิ พิมพ์จิรา" มิสแกรนด์กรุงเทพฯ บอกเทคนิครักษาน้ำหนัก แม้ชอบกินแป้ง
Angelina Jolie ประเดิม Atelier Jolie แบรนด์เสื้อด้วยไลน์แรกที่ออกแบบร่วมกับ Chloé
"เจนี่" กับลุคคิวท์ๆ แต่ดูแซ่บนำ สวมชุดชั้นในอวดหุ่นเป๊ะ
"คารีสา สปริงเก็ตต์" กับชุดไปดูคอนเสิร์ต Beyonce ที่ลอนดอน จัดแน่นสุด!
สวยกระแทกตา "ปันปัน สุทัตตา" ฉลองวันเกิด 26 ปีด้วยลุคหรู แพง เซ็กซี่เบาเบา
ส่องลุค "ลิซ่า BLACKPINK" สวมผ้าไทยจากอุดรธานี ตอนนี้ขายหมดเกลี้ยง
"ปิ่น เก็จมณี" อวดหุ่นบางเฉียบ แซ่บ แทบไม่เชื่อว่าอายุจะ 50 แล้ว
เลิกซะ! 4 นิสัยสุดแย่ที่จะทำให้แฟนหนุ่มรู้สึกเอือมจนอยากเลิก
"เสี่ยโบ๊ท-พราวฟ้า-นัทนิสา" ร่วมซัพพอร์ต "มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ สุราษฎร์ธานี 2023"
เติมน้ำให้ผิวพร้อมเผยผิวสวยเปล่งปลั่งด้วยอาหาร 10 ชนิด
"แคท อาทิติยา" จากนางงาม-นักร้องลูกทุ่ง สู่การเป็นผู้กองสวยเก่ง
5 สิ่งที่ผู้หญิงควรทำทุกเช้า ดีต่อการเผาผลาญ อยากหุ่นสวยต้องลอง
"Angela Ponce" ผู้หญิงข้ามเพศชื่อดังของโลก กับลุคแซ่บ รับ Pride Month
หน้า: 1
แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?
ก็แค่อยากระบาย เพราะมันอึดอัดอ้างว้าง เปล่าเปลี่ยว และอยากเตือนสติให้ผู้หญิงทุกคนอย่าหวั่นไหวในคำของผู้ชายที่คิดจะหาความสุขยามห่างไกลลูกเมีย..ฉันกับเขาพบกันที่ทำงานของฉันเองเขาเป็นทหารเกณฑ์ กองทหารม้าแห่งหนึ่งทางภาคกลางมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยแถวที่ทำงานที่ฉันทำอยู่วันหนึ่ง เขาต้องมาทำธุระแถวออฟฟิศของฉันฉันสารภาพตามตรง ว่าฉันรู้สึกชอบเขาตั้งแต่แรกเห็นรูปร่าง.. หน้าตา.. ท่าทาง..นี่มันผู้ชายในฝันของฉันชัดๆฉันรู้สึกตื่นเต้น จนบอกไม่ถูก ที่ได้พบผู้ชายในอุดมคติฉันเอ่ยปากถามเขาว่ามีธุระอะไรเขาก็ยิ้มออกมาด้วยท่าทางเขินๆ บอกว่าจะมาติดต่อเรื่องงานให้นายฉันรู้สึกเขินมาก แต่ก็เก็บอาการ จนเขาจากไปเพื่อนๆ ของฉันก็จับอาการของฉันได้ "นี่เธอ ชอบอีตาพลทหารคนนั้นใช่มั้ย?"..ฉันไม่ปฏิเสธวันต่อมา ฉันได้รับจดหมายเล็กๆ จากเขาคนนั้นฉันเปิดออก..แต่ยังไม่ทันดูเพื่อนของฉันก็หยิบออกไปก่อน..เป็นเบอร์โทรศัพท์พร้อมข้อความว่า "โทรหาหน่อย.."ฉันไม่โทร เพราะอะไรฉันถึงต้องโทร?แต่เพื่อนของฉันกลับอยากรู้ว่าเพราะอะไร จึงหยิบโทรศัพท์ของฉันเอาไปโทร"เฮ้ย แกทำอะไรน่ะ""เอาน่า ก็อยากรู้นี่นา"...เป็นเขาจริงๆ เขาคนนั้น ผู้ชายในสเปคของฉัน"ทำไมไม่ขอเบอร์ตั้งแต่แรกล่ะ""ก็ไม่กล้า คนเยอะ""ไม่น่าทำแบบนี้เลย ตกใจหมด""ก็อยากคุยด้วย เรามันคนไม่มีแฟน เพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ไม่กี่วัน""เราก็ไม่มีใครเหมือนกัน เอาเป็นว่า เราก็คุยกันไปก่อนนะ :)"...แล้วเราสองคนก็คุยโทรศัพท์กันเรื่อยมา..เขาโทรหาฉันตลอดเวลา เช้าถึง เย็นถึงไปพบหน้ากันบ้าง คุยกันบ้าง..จนกระทั่งวันหนึ่ง"เธอมาหาเราหน่อยสิ""เธอเป็นอะไรหรอ?""เราไม่ค่อยสบาย มาหาเราหน่อย ซื้อยามาให้เราด้วย เราอยู่ในค่าย เราออกไปไม่ได้""เธอเป็นอะไรมากหรือเปล่า?""เธอมาหาเราหน่อยนะ ข้างตึกหน้าค่ายเรามีที่หลบอยู่ เธอมาหาเราตรงนั้นนะ"ฉันรู้สึกเป็นห่วงเขามาก หลังเลิกงานวันนั้น ฉันก็ไปซื้อยา แล้วก็แวะไปหาเขา เขารออยู่ตรงนั้นจริงๆแต่ท่าทีเหมือนว่าเขากลับไม่ได้เป็นอะไรเลย ฉันงงมาก ถามเขาว่าทำไมถึงโกหกกันแบบนี้.."ก็เราคิดถึงเธอ เราอยากกอดเธอ อยากหอมแก้มเธอ"คำๆ นั้นทำเอาฉันสับสน อาย เขิน ทำตัวไม่ถูก ฉันยืนอยู่ตรงนั้นสักพักเขาก็จับมือฉัน แล้วก็หอมแก้มฉัน..ฉันตกใจมาก แต่ก็ยืนให้เขามองตาฉันอยู่อย่างนั้น ..ทำไงล่ะ เราก็ชอบเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว"ทำอะไรน่ะ คนมาเห็นเข้ามันไม่ดีรู้ไหม?""ทำไมล่ะ เราจะทำ เราชอบเธอ เรารักเธอ อยากทำแบบนี้กับเธอ"...แล้วเขาก็บรรจงจูบลงที่ริมฝีปากของฉันฉันตกใจ เขิน มากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ฉันผลักเขาออกไปแล้วขี่รถกลับบ้านไปทันที..คืนนั้นฉันนอนไม่หลับเลย ทำยังไง ทำยังไง ทำยังไง เขาจูบฉันแล้ววววันต่อมา..ฉันก็ทำงานตามปกติ เขาเข้าเวรกองลาดตระเวนตอนกลางคืน..ฉันก็ไปหาเขา เอาข้าวไปให้..(แล้วไปเก็บตังค์ปลายทาง)แล้วฉันก็กลับ..สักพักมีโทรศัพท์เข้ามา เขาอีกแล้ว.."ตัวเอง มารับเค้าหน่อย จ่าอนุญาตให้ออกไปเที่ยวกับแฟน เราไปเที่ยวกันนะครับ นะ""แต่วันนี้เธอเข้าเวรลาดตระเวนไม่ใช่หรอ""จ่าอนุญาตแล้วครับ เราไปเที่ยวกันนะ นะ เค้าคิดถึงตัวเองมากนะครับ ออกมารับเค้าหน่อย""ก็ได้"แล้วฉันก็ออกไปรับเขา ไม่รู้ว่าตอนนั้นคิดอะไรอยู่เพราะว่าอยากเจอเขาหรือเปล่า.."มานี่ เดี๋ยวเค้าขับเอง""เธอจะพาเราไปไหนหรอ?""เอาน่า เดี๋ยวก็รู้เองนะ"....เขาพาฉันมาที่โรงแรมแห่งหนึ่ง "ตัวเองครับ เค้ารักตัวเองนะ เป็นของเค้านะ"........ในหัวของฉันมันไม่มีอะไรเลยในตอนนั้น นอกจากคำว่าชอบเขามาก อาจจะเรียกว่ารักเลยก็ได้ แต่.."..ทำไมเธอต้องพาเรามาทำอะไรแบบนี้ด้วย ผู้ชายเค้าคิดกันแค่นี้เองหรอ""ก็เค้ารักตัวเอง เค้ารักตัวเองมาก อยากมีความสุขกับคนที่เค้ารัก แล้วเค้าก็อยากรู้ ว่าตัวเองรักเค้ามั้ย"...ฉันไม่พูดอะไร เขาก็จูงมือฉันเดินขึ้นเตียงไป..แล้วฉันก็เป็นของเขาหลังจากวันนั้น ฉันกับเขาก็ยังหวานชื่น ฉันก็หลงระเริง คิดว่าเขามีฉันเพียงคนเดียว..แล้วเราก็ลักลอบไปมีอะไรกันอยู่จนกระทั่งสิบกว่าวันต่อมา..สายไม่ว่าง..สายไม่ว่างอีกแล้ว..ทำไมไม่โทรหากันเลยนะ..ไม่ได้มาเข้าเวรที่นี่แล้วหรอ..ทำไมเขาหายหน้าไป..ฉันกังวลใจมาก ฉันเลยโทรไปหาเขา คำตอบที่ฉันได้รับก็คือ"ไม่ว่าง ยุ่งอยู่ อย่าทำตัวงี่เง่าได้ไหม มีผัวเป็นทหารก็เข้าใจกันหน่อยสิ !!"..ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะได้คำตอบแบบนี้แล้วเขาก็ยุ่งแบบนั้นตลอดมา..จนกระทั่งมีเรื่องเกิดขึ้นในค่ายทหาร เพื่อนๆ ของเขาได้ถูกย้ายกลับกองประจำการฉันกับเขาคุยโทรศัพท์กันอยู่ จ่ามาคุยกับเขา"ว่าไง ไม่ได้กลับบ้านเลยสิเรา แฟนเป็นยังไงบ้างล่ะ"เขาคงคิดว่าฉันหลับไปแล้ว เขาเลยตอบไปว่า"ครับ ผมก็โทรไปบอกแฟนว่ายังกลับไปช่วยงานที่รีสอร์ทไม่ได้ตอนนี้ เพราะที่ค่ายยังยุ่งๆ อยู่"ฉันได้ยินหมดทุกคำพูด..เขามีแฟนแล้วหรอ ฉันเลยถามเขาไปตรงๆ"เธอมีแฟนแล้วหรอ""ใช่ที่ไหนล่ะ แฟนของพ่อ ก็แม่เค้ายังไงล่ะ ตัวเองอย่าคิดมากเลยนะ นอนเถอะ ฝันดีนะครับ"ฉันคิดมาตลอด...."ตัวเองครับ เค้าได้ผลัดลากลับบ้านแล้วนะ เค้าอยากเจอตัวเองจัง อยากกอดตัวเองก่อนค่อยกลับ""จริงเหรอ ดีใจด้วยนะ""ตัวเอง..เค้าจะบอกพ่อกับแม่นะ ว่าจะให้มาขอตัวเอง เราสองคนจะแต่งงานกัน ตัวเองประจำเดือนยังไม่มาใช่ไหม ขอให้เป็นลูกด้วยเถอะ เค้าอยากมีลูกกับตัวเอง""..ค่ะ กลับไปบ้านก็ติดต่อหาเค้าบ้างนะ"ครั้นถึงเวลาเค้าได้ผลัดลากลับบ้าน..เขาไม่เคยติดต่อหาฉันเลยฉันรู้ว่าตัวเองกำลังจะมีลูกกับเขา...ฉันเลยตัดสินใจโทรไปหาเขาเสียงผู้หญิงคนหนึ่งรับ"ฮัลโหล""สวัสดีค่ะ นั่นใช่เบอร์ของ....หรือเปล่าคะ""ใช่ค่ะ เบอร์ของ.....""แล้วนั่นใครพูดคะ""เมียค่ะ แล้วนั่นใครพูดคะ"เมีย...เมียเหรอ?ฉันก็เป็นเมียเขาเหมือนกันนะ...แต่ปากก็พูดออกไปว่า.."ฉันเป็นเพื่อนของเขาค่ะ ขอคุยกับเขาหน่อยนะคะ"ฉันเห็นเสียงเขาเดินไป แล้วฉันก็ได้ยินเสียงของเขาพูดว่า "ใครโทรมา"แล้วคนที่เรียกตัวเองว่า "เมีย" ก็บอกกับเขาว่า "มึ..ห้ามวางสายนะ"แต่เขาก็วางสายไป..ฉันพยายามติดต่อเขาหลายครั้ง เขาก็ตัดสายทิ้งฉันเลยส่งข้อความไปหาเขา ฉันขอโทษที่ฉันทำผิดแต่ฉันไม่รู้ ว่าเขามีเจ้าของแล้ว ไม่งั้นคงไม่ยุ่งแล้วฉันก็กำลังจะมีลูกกับเขา ลูกที่เขาเคยบอกว่าอยากมี..แต่สิ่งที่เขาพิมพ์ตอบกลับมา มันเหมือนเอามีดมากรีดหัวใจฉันเป็นอย่างยิ่ง"มึ..อย่ามากวนตีนกู อยากจะทำอะไรก็ตัวมึ.."ฉันเสียใจมาก นี่เหรอคนที่บอกว่ารักเรา คิดถึงเรา อยากกอดเราไม่อยากให้เรามีใคร เราก็ไม่เคยมีใคร..แต่สิ่งที่เขาให้เรากลับมา มันเจ็บปวด เจ็บยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด..ฉันต้องกลายเป็นเมียน้อย ..ทั้งๆ ที่คำว่าเมียน้อย เป็นสิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดในชีวิต....พี่ชายฉันบอกว่าเขากลับมาที่ค่ายแล้ว แล้วเขาก็ไม่เคยติดต่อหาฉันอีกเลย..
เมียน้อยนี่หมายถึงเป็นเมียอีกคนหนึ่งของผู้ชายที่มีเมียอยู่แล้ว ทั้งชายและหญิงยังไปมาหาสู่กันอยู่ ดังนั้น ตำแหน่งเมียน้อยคุณก็ไม่ได้เป็นเพราะถูกทิ้งแน่แล้ว เขาไม่ไปมาหาสู่เลี้ยงดูอุ้มชูคุณแน่ และคุณก็ไม่ต้องไปยื้อแย่งแสดงตัวอะไรหรอก โดนเมียเขาฉีกอกตายแหง ๆ ผู้ชายคนนี้กลัวเมีย คนกลัวเมียแต่เจ้าชู้มีเยอะแยะไป ไปเอาจริงเอาจังกับคำพูดของคนแบบนี้ไม่ได้หรอก เขาไม่มีทางมีบ้านเล็กบ้านน้อยแน่ แค่หลอกลวงหญิงที่อยู่ตามทางชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น เขาเป็นผู้ชายประเภทน้ำแตกแล้วแยกทาง อย่างเก่งก็ต่ออีกหนสองหนเท่านั้น ไม่มีทางจีรังยั่งยืนกับใครนอกจากกับเมีย ถ้าคิดจะเป็นบ้านเล็กของผู้ชายแบบนี้ให้ได้ คุณต้องมีทรัพย์สินหรือความสบายให้เขาเหมือนหรือมากกว่าที่เมียเขาให้น่ะแหล่ะกระทู้ก่อนหน้านี้ที่คุณถามเรื่องท้องหรือเปล่านี่คุณบอกว่าเพิ่งเรียนจบใช่ไหม...ถ้าไม่กล้าบอกเรื่องท้องกับพ่อแม่ให้บอกพี่ชายนะ ให้พี่ชายช่วยคิดช่วยแก้ไข แต่อย่าทำลายเด็กในท้องเลย เขาไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วย ถึงแม้ว่าเขาจะเกิดจากความมักมากในกามของพ่อและความไม่รู้เท่าทันคนของแม่ก็ตาม แต่เขาไม่ได้ผิดอะไร ให้โอกาสเขาได้ลืมตาดูโลกแล้วพระเจ้าจะอวยพรคุณคิดเสียว่าชีวิตเพียงก้าวพลาด คนเราล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่ได้ ก้าวเดินต่อไปโดยเก็บอดีตไว้เป็นบทเรียนของชีวิตว่าที่ผิดพลาดไปแล้วจะไม่เกิดขึ้นมาอีก...รักษาตัวดี ๆ นะ
คุณ noojidsai คะขอบคุณมากค่ะสำหรับคำแนะนำตอนนี้กำลังสับสน ทำอะไรไม่ถูกมันเจ็บ มันเหงา มันอ้างว้างสับสนไปหมดไหนจะเรื่องลูกที่อีกไม่กี่เดือนก็จะลืมตาดูโลกไหนจะกลุ้มที่ว่าจะบอกพ่อกับแม่อย่างไรไหนอีกใจก็อยากจะรู้ ว่าเขาไม่เคยคิดจะดูดำดูดีลูกของตัวเองบ้างเลยหรือเขาไม่ใช่คนหรือ หัวใจของเขาทำด้วยอะไรบทเรียนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของฉัน มันเกิดขึ้นแล้ว..
พยายามทำใจให้สงบ อย่าคิดมากให้จิตใจฟุ้งซ่าน ถ้าสุขภาพใจไม่ดี สุขภาพกายจะย่ำแย่ไปด้วย อย่าคิดหาคำตอบว่าทำไมเขาถึงเป็นแบบนั้น ทำไมเขาถึงทำกับเราแบบนี้ เพราะคิดยังไงก็ไม่มีคำตอบ หรือถึงหาคำตอบได้มันก็ไม่มีประโยชน์ ไม่มีผลดีอะไรขึ้นมา เสียเวลาและบั่นทอนจิตใจเปล่า ๆสำหรับเรื่องพ่อแม่ แค่คุณคิดว่าพ่อแม่รักคุณมากที่สุด อยู่เคียงข้างคุณไม่ว่าจะเกิดเรื่องดีหรือร้ายและให้อภัยคุณเสมอ คุณก็จะกล้าบอกพ่อแม่แล้ว จริงอยู่ที่พวกท่านต้องเสียใจหรือโกรธ แต่นั่นก็เป็นเพราะรักคุณมาก คุณเจ็บพวกท่านก็เจ็บ คุณอาจถูกดุด่าว่ากล่าวบ้าง แต่นั่นก็เป็นเพราะพวกท่านรักคุณมากเหมือนกัน พ่อแม่กับลูกตัดกันไม่ตายขายกันไม่ขาดหรอก เหตุการณ์เจ็บปวดของคุณครั้งนี้อาจทำให้เกิดความรักความผูกพันระหว่างคุณกับพ่อแม่มากขึ้นก็ได้ ไม่มีใครรัก ห่วงใย และให้อภัยคุณได้เหมือนพ่อแม่อีกแล้วเอาดอกไม้มาฝาก อย่าคิดมากนะ
ไม่ต้องคิดมากหรอก ถ้าคุณจิตใจหม่นหมอง จะพลอยให้ตัวเล็กในท้อง มีผลกระทบไปด้วย...คุณมีครอบครัว มีหน้าที่การงาน...ไม่ต้องไปง้อเขา ถ้าเขาไม่ต้องการเรา...เก็บใจไว้ เพื่อให้กำลังใจตัวเอง และมีความสุขกับอีกชีวิตน้อยๆ ที่กำลังเติบโตในตัวคุณ...ให้เจ้าตัวเล็ก ได้แต่ความรัก ความสุข จากคุณ....สู้เพื่อตัวเรา และ ลูกของเรา ...ผู้ชายคนนั้น ปล่อยเขาไปเถิด ...วันหนึ่ง เขาจะได้ลิ้มรส ความเจ็บ ที่ก่อไว้กับคนอื่น....สู้ๆนะ...
ขอบคุณคุณ noojidsai อีกครั้งและขอบคุณคุณ เป็นแม่เหมือนกัน ด้วยนะคะใช่ค่ะ ฉันมีงาน และงานที่ฉันทำก็เป็นงานที่ค่อนข้างเงินดีพอสมควรและแน่นอนว่า..ฉันมีเงิน ฉันมีทุกสิ่งทุกอย่าง ด้วยน้ำพักน้ำแรงของฉันเอง..มากพอที่จะทำให้เขาเอ่ยปากขอยืมเงินได้แรกๆ ยืมแล้วก็คืน พอมาพักหลังๆ เริ่มบอกว่าไม่มีเงินคืนให้จะเอาโทรศัพท์ แหวน แล้วก็นาฬิกาข้อมือของฉันแต่ฉันไม่ยอม....ตอนนี้ฉันคิดได้แล้ว คนๆ นี้ ไม่สมควรจะมาเป็นพ่อของลูกฉัน ..ถ้าลูกของฉันเป็นผู้ชาย ฉันจะสอนให้เขาให้เกียรติผู้หญิงให้มากๆ อย่าทำร้าย และเอาเปรียบผู้หญิง..แต่ถ้าลูกของฉันเป็นผู้หญิง ฉันจะสอนให้เขาเป็นคนฉลาดทันคน ไม่หวั่นไหวกับคำพูดหวานๆ ของคนชั่วๆ..ฉันจะดูแลลูกคนนี้ให้ดีที่สุด เพราะลูกคนนี้เป็นทั้งแก้วตา ดวงใจ และบทเรียนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของฉัน..ขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะคะ :')
คุณ glamourous_sky คุณโชคดีมากๆที่ห่างออกจากผู้ชายคนนี้ได้ และโชคดีที่สุดที่ไม่ได้เป็นภรรยาของเขาไปตลอดชีวิต หลังผ่านพ้นมุมมืดของชีวิต ทำให้คุณได้พบแสงสว่าง นึกดีๆการอยู่ห่างจากเขาคนนั้น น่าจะทำให้เรามีทุกข์น้อยลงนะคะ ตั้งสติดีๆ แล้วคุณจะพบว่ามีอีกหลายสิ่งรอบตัวเราที่สวยงาม แต่เราเคยมองข้ามมันไป ยังมีคนรอบข้างที่รักและห่วงใยกเราอีกหลายคนที่เราอาจจะยังไม่ได้ใส่ใจ หรือตอบแทนความรักที่เค้ามอบให้เรามามากพอ เรื่องราวของคุณสามารถเป็นอุทธาหรณ์ให้อีกหลายๆคนได้ ขอบคุณเรื่องราวนะคะ สู้ๆค่ะ ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้
แจ้งเตือน
ภาพและเนื้อหาต่อไปนี้ ไม่เหมาะสมแก่เด็ก และเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี