มาเต็ม! คอลัมนิสต์ดังซัด ฟีฟ่าหักหลังแฟนบอลไทย ทำตัวน่าละอาย เจสซี ฟิงค์ เปิดฉากถล่มองค์กรลูกหนังโลกแบบไม่ไว้หน้า โดยชี้ว่าการปิดหูปิดตาไม่รับฟังใครนอกจากสมาคมฯ นั้น นับว่าน่าละอาย และไม่ได้เห็นแก่คนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ
ฟุตบอลไทยเลย
เจสซี ฟิงค์ คอลัมนิสต์ชื่อดังจาก foxsportsasia.com วิจารณ์การทำ
งานของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟ่า)เกี่ยวกับเรื่องการ
เลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ว่า การเลือกที่จะรับฟังทุกอย่างจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว โดยไม่สนใจเสียงของแฟนฟุตบอล สโมสร และฝ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลไทยนั้น ถือเป้นการกระทำที่น่าละอาย และตรงข้ามกับเป้าหมายที่ต้องการพัฒนาตัวเองเป็นองค์กรที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ อย่างสิ้นเชิง
ในบทความที่ชื่อ Fink: FIFA's betrayal of Thai fans (ฟิงค์: การหักหลังแฟนฟุตบอลชาวไทยของฟีฟ่า) พูดถึงสถานการณ์ความวุ่นวายต่าง ๆ เกี่ยวกับการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ คนใหม่ไว้อย่างครบถ้วนเท่าทัน ทั้งการยื่นฟ้องศาลของพัทยา ยูไนเต้ด ความคิดเห็นของ "บิ๊กกร๊อง" วิรัช ชาญพานิช ว่า วรวีร์ มะกูดี นั้นหมดอำนาจในการบริหารงานไปแล้ว และการยืนกรานซ้ำ ๆ ว่าจะต้องใช้ธรรมนูญใหม่ในการเลือกตั้ง ตามคำสั่งของฟีฟ่า ของวรวีร์ มะกูดี รักษาการณ์นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งธรรมนูญดังกล่าวจะลดจำนวนสโมสรที่มีสิทธิ์ออกเสียงให้เหลือเพียง 72 เสียงเท่านั้น
"แต่ความจริงก็คือ การลดจำนวนเสียงเป็นเพียงข้อแนะนำ ไม่ใช่คำสั่ง ไม่เคยเป็นข้อบังคับผูกพันใด ๆ แล้วเราก็ควรเชื่อว่า ไม่มีใครสักคนในสมาคมฯ จะทำอะไรได้เลย อย่างนั้นหรือ?" ฟิงค์ กล่าวไว้ในบทความ
เกี่ยวกับกรณีที่วรวีร์ มะกูดี ยืนยันว่า ฟีฟ่าส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจและประเมินสโมสรต่าง ๆ ในไทย แล้วจึงเห็นว่า 72 เสียงเป็นตัวเลขที่เหมาะสมนั้น คอลัมนิสต์ชื่อดังได้สัมภาษณ์ พินิจ งามพริ้ง ผู้สมัครอีกคนหนึ่ง ซึ่งพินิจให้ข้อมูลอีกด้านว่า "เราไม่รู้เรื่องฟีฟ่ามาเก็บข้อมูลอะไรเลย เพราะวรวีร์ มะกูดี คือช่องทางเดียวที่ฟีฟ่า ใช้สื่อสารกับฟุตบอลไทย"
พินิจกล่าวต่อไปว่า "ทำไมฟีฟ่าถึงไม่รับฟังความเห็นหรือข้อแนะนำจากทุกคนที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอล แล้วหาข้อสรุปที่ทุกคนยอมรับได้ ทั้งทีมสมัครเล่นและทีมอาชีพ ต่างมีความสำคัญในการพัฒนาฟุตบอล เราตัดทีมสมัครเล่นออกไป เพียงเพราะเขาไม่ใช่ "ทีมอาชีพ" และไม่มีเงินไม่ได้ ถ้าเอาตรรกะนี้มาใช้ ทำไมประเทศอย่างไทย, ศรีลังกา, ตรินิแดด, ลาว ฯลฯ ถึงมีสิทธิ์เต็มในการโหวตของฟีฟ่าล่ะ?"
ฟิงค์ตั้งคำถามต่อไปว่า ทำไมถึงไม่มีใครในฟีฟ่า ที่คิดจะถามความเห็นของคนในประเทศไทยบ้าง "หรือพวกเขาพอใจที่จะให้ใครก็ได้ที่เป็นนายกฯ อยู่ ยกเอาคำสั่งของฟีฟ่าไปใช้เล่นงานทุก ๆ คนที่เหลือ?"
"อนาคตของฟุตบอลไทยนั้น สำคัญอย่างยิ่งกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภูมิภาคที่ฝันจะเป็นเจ้าภาพฟุต
บอลโลกในปี 2034 แต่วิธีที่ฟีฟ่าเลือกเมินแฟนฟุตบอลชาวไทยนั้น มันราวกับว่า พวกเขาไม่ได้อยู่ในกีฬาเดียวกันด้วยซ้ำ และมันช่างน่าละอาย"
เครดิตโดย : http://www.goal.com