ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพลังงานประเทศไทย ตอนที่ 5 รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุไทยมีก๊าซธรรมชาติอยู่ในอันดับที่ 13 ของโลก มากกว่ามาเลเซีย ซาอุดิอาระเบีย แต่ที่ก๊าซแอลพีจีขาดเพราะสร้างโรงแยกก๊าซไม่พอ (วัตถุดิบมีเพียงพอ)
ข้อเท็จจริง •ไม่ทราบว่าหน่วยงานรัฐบาลศหรัฐใดระบุเรื่องดังกล่าว เพราะห่างไกลความเป็นจริงมากๆ ประเทศไทยนั้นไม่ได้มี หรือผลิตก๊าซฯได้เป็นอันดับที่ 13 ของโลก หากลองตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจาก BP statistic 2013 ที่เป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและยอมรับทั่วไป จะพบว่าประเทศไทยเรามีปริมาณสำรองก๊าซฯ 10.1 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต และผลิตได้ 41,4000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ทำให้หากนำมาจัดอันดับประเทศไทยเราจะอยู่ในลำดับที่ 24 ของโลกในแง่ปริมาณการผลิต และลำดับที่ 39 ของโลกในแง่ปริมาณสำรอง ดังนั้นประเทศไทยจึงไม่ได้มีก๊าซฯเป็นอันดับที่ 13 ไม่ว่าจะมองในแง่ใด
•และที่บอกว่าเรามีก๊าซฯ มากกว่าซาอุดิอาระเบีย และมาเลเซียยิ่งไม่ถูกต้องเข้าไปใหญ่ เพราะซาอุดิอาระเบียมีปริมาณสำรองก๊าซฯ 290.8 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต และผลิตได้ 102.8 พันล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนมาเลเซียมีปริมาณสำรองก๊าซฯ 46.8 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต และผลิตได้ 65,200 ล้านลูกบาศก์เมตร มองมุมไหนเราก็เทียบ 2 ประเทศนั้นไม่ติด
•ไม่เป็นความจริงที่บอกว่าก๊าซแอลพีจีขาดเพราะสร้างโรงแยกก๊าซฯ ไม่พอ แต่สาเหตุที่แท้จริงที่เราต้องนำเข้าก๊าซแอลพีจีนั้นเป็นเพราะความต้องการใช้ในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างเนื่องกว่าที่คาดการณ์ จากการที่รัฐควบคุมราคาขาย LPG ให้อยู่ในระดับต่ำกว่าราคาตลาดและเชื้อเพลิงชนิดอื่น จึงทำให้มีการเปลี่ยนจากการใช้เชื้อเพลิงชนิดอื่นหันมาใช้ LPG เพิ่มมากขึ้น และยังเกิดการลักลอบนำก๊าซแอลพีจีในประเทศไปขายต่างประเทศอีกด้วย
•การที่ปตท. ไม่สร้างโรงแยกฯ เพิ่มเพื่อผลิต LPG เนื่องจาก ความไม่แน่นอนของปริมาณก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยที่ต้องใช้สำหรับโรงแยกก๊าซฯ ว่าจะมีเพียงพอหรือไม่ เนื่องจากในอนาคตประเทศไทยจะสามารถผลิตก๊าซฯลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณก๊าซฯในอ่าวไทยอาจไม่เพียงพอต่อการลงทุนโรงแยกก๊าซฯแห่งใหม่