กคป. งานเข้า ! ปตท. ยื่นฟ้อง 37 ล้าน เหตุชุมนุมปิดสำนักงานใหญ่
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สำนักข่าวอิศรา
กคป. งานเข้า ! ถูก ปตท. ยื่นฟ้อง 37 ล้านบาท เหตุชุมนุมปิดสำนักงานใหญ่ ด้าน กคป. บอกทำทีว่าเข้ามาเป็นตัวแทนเจรจากับรัฐบาล แต่เข้ามาดูตัวและถ่ายรูปเพื่อฟ้องร้อง
วานนี้ (18 มีนาคม 2557) สำนักข่าวอิศรา เปิดเผยว่า แกนนำกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กคป.) ได้แก่ นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา นายทศพล แก้วทิมา หมอระวี มาศฉมาดล และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ถูก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องในข้อหาบุกรุกเข้ามาในบริเวณด้านหน้าอาคารสำนักงานใหญ่ ปตท. เพื่อใช้เป็นสถานที่ชุมนุมตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2557 โดยเรียกค่าเสียหายทั้งสิ้น 37,060,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ นายอิฐบูรณ์ ได้โพสต์ในเฟซบุ๊ก ระบุว่า กคป. ถูก ปตท. กล่าวหาว่าทำให้ไม่สามารถเข้าไปใช้อาคารและพื้นที่ทั้งหมดในสำนักงานใหญ่ เป็นเหตุให้ ปตท. ต้องปิดอาคาร เนื่องจากเกรงว่า กคป. จะเข้าไปบุกรุกในตัวอาคารที่ทำการของ ปตท. อันจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน เครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ไฟฟ้า รวมถึงข้อมูลทางการค้า จึงเรียกค่าเสียหายดังนี้..
1. ความเสียหายต่อทรัพย์สิน รวม 5,370,000 บาท แบ่งเป็น
1.1 ค่าซ่อมแซมและปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบพื้นที่สำนักงาน ปตท. 500,000 บาท
1.2 ค่าใช้จ่ายในการอบโอโซนฆ่าเชื้อทุกอาคาร 1,100,000 บาท
1.3 ค่าล้างบ่อน้ำพุ พร้อมเติมน้ำใหม่ 100,000 บาท
1.4 ค่าล้างตู้ปลาและซื้อปลาใหม่ 20,000 บาท
1.5 ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงเชื้อจุลินทรีย์ พร้อมปรับสภาพน้ำของระบบบำบัด 100,000 บาท
1.6 ค่างานซ่อมแซมประตูรั้ว 50,000 บาท
1.7 ค่าซื้อตู้เย็นใหม่ทดแทนของเก่า 120 ตู้ รวม 1,800,000 บาท (ตู้ละ 15,000 บาท)
1.8 ค่าทำความสะอาดตู้กดน้ำเย็น 120 ตู้ รวมเป็นเงิน 150,000 บาท (ตู้ละ 1,250 บาท)
1.9 ค่าซ่อมแซมตู้ไฟฟ้าตามแนวรั้ว 300,000 บาท
1.10 ค่าซ่อมแซมกล้องวงจรปิด 100,000 บาท
1.11 ค่าตรวจสภาพอากาศ 450,000 บาท
1.12 ค่าต้นไม้ยืนต้นที่ได้รับความเสียหาย 700,000 บาท
2. ความเสียหายจากการขาดรายได้จากการปิดปั๊มน้ำมัน
- ปั๊ม LPG เสียโอกาสจากกิจการร้านกาแฟ คาเฟ่อเมซอน ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น และร้านจิฟฟี่ นับแต่วันที่ 13 มกราคม 2557 ถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2557 (28 วัน) เป็นเงินรวม 19,930,000 บาท จึงขอคิดค่าขาดรายได้วันละ 710,000 บาท (ตั้งแต่ 13 มกราคม 2557 จนถึงวันฟ้องคือ 13 กุมภาพันธ์ 2557) เป็นเงินรวม 22,770,000 บาท
3. ความเสียหายจากการที่ต้องจ่ายค่าเช่า
- ค่าใช้สถานที่อื่นแทน สำนักงานใหญ่ ปตท. ค่าใช้จ่ายในการติดต่อเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานที่ ค่าเดินทางของพนักงาน ค่าอุปกรณ์สำนักงาน ค่าโรงแรมหรือที่พักพนักงาน ค่า รปภ. ที่เพิ่มขึ้น เป็นเงิน 7,800,000 บาท ในส่วนนี้เป็นเงินวันละ 280,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2557 จนถึงวันฟ้อง รวมเป็นเงิน 8,920,000 บาท
รวมค่าเสียหาย 3 รายการ 37,060,000 บาท
โดย นายอิฐบูรณ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิศรา ว่า ก่อนถูกฟ้องร้องในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2557 มีตัวแทนจาก ปตท. อ้างว่ามาเจรจา มารับข้อเรียกร้องของเราไป ด้าน กคป. ก็นำข้อเสนอของเราให้ตัวแทน ปตท. เพื่อไปยื่นต่อกระทรวงพลังงาน รัฐบาล และนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อเกิดการฟ้องร้องเกิดขึ้น ตนคิดว่าเขาคงไม่มีจุดประสงค์ที่จะเจรจาตั้งแต่ต้น เพียงแค่ว่าจะมาดูตัวว่าต้องฟ้องใคร
กคป.
สำหรับข้อเรียกร้องที่ให้ ปตท. ไปนั้น มีประเด็นสำคัญคือ ให้ลดราคาน้ำมันลงลิตรละ 5 บาท, ยุติการขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี, ยกเลิกประกาศแก้ไข พ.ร.บ.โตรเลียม และยกเลิกการผูกขาดในธุรกิจพลังงาน ซึ่งผู้ที่ทำหน้าที่เหล่านี้ ไม่ใช่หน้าที่ของ ปตท. แต่กลับมีเจ้าหน้าที่ของ ปตท. มาเจรจา โดยมากับตัวแทนของ ศอรส. แต่ไม่มีตัวแทนรัฐบาลมา ซึ่งตั้งแต่วันนั้นก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะมาเจราตั้งแต่แรก เพียงแต่มีชี้เป้า มาดูหน้า และถ่ายรูป
นายอิฐบูรณ์ กล่าวต่อว่า กรณีที่ 4 คนนี้ที่ถูกฟ้อง ก็เป็นเพราะเป็นตัวแทนที่ขึ้นไปเจรจาหาทางออกในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ แล้วเขาก็กล่าวหาว่าเราเป็นแกนนำ ทั้งที่วันนั้น เป็นวันที่ ศอรส. (ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน) มาขอเจรจา เราก็เลยยื่นข้อเรียกร้องไป เพื่อหวังให้เขานำไปหารือกับรัฐบาลกับนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ นายอิฐบูรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนั้น ปตท. ก็ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามายื่นหมายในวันที่ 15 มีนาคม 2557 อีกทั้งยังอ้างว่าในวันที่ 13 มกราคม 2557 ซึ่งเป็นวันปิดกรุงเทพฯ มีกลุ่มผู้ชุมนุมมาทำให้ ปตท. ต้องปิดสำนักงานใหญ่ แต่จริง ๆ แล้ว การชุมนุมอย่างเป็นทางการของ กคป. นั้น เริ่มต้นในวันที่ 25 มกราคม 2557 หลังจากวันปิดกรุงเทพฯ ถึง 2 สัปดาห์ เพราะฉะนั้น การปิดสำนักงานใหญ่ของ ปตท. ไม่เกี่ยวกับ กคป. แต่อย่างใด
นายอิฐบูรณ์ กล่าวต่อไปว่า เหตุผลที่เราไปใช้พื้นที่ดังกล่าวชุมนุม เพราะคิดว่าพื้นที่นั้นมีความปลอดภัยกับมวลชน แล้วการเข้าไปอยู่ของพวกเราก็ไม่ได้ล้างผลาญทำอะไรเลย เราเข้าไปโดยดูแลรักษาความสะอาด ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ เพราะฉะนั้น ความเสียหายที่เขากล่าวอ้างนั้น เป็นพื้นที่ในส่วนอาคารของ ปตท. ซึ่งอยู่ในพื้นที่ควบคุมของทหาร ถ้า ปตท. เห็นว่ามีความเสียหาย ก็น่าไปฟ้องกองทัพบก
ด้าน นายบวร วงศ์สินอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทพีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือพีทีทีจีซี ระบุว่า ตนไม่รู้เรื่องที่ทาง ปตท. ไปฟ้องร้องค่าเสียหาย กคป. จำนวน 37 ล้านบาทเลย ต้องลองสอบถามประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลข่าวสารของ ปตท. แต่ทั้งนี้ตนก็ไม่รู้เหมือนกับว่าเขาไปอยู่ไหน เพราะว่าสำนักงานใหญ่ ปตท. ปิดทำการมาตั้งแต่มีการชุมนุม
เครดิต กระปุกดอทคอม
