หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 ... 36

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: การรายงานข่าวเหตุการณ์ต่างๆในประเทศและต่างประเทศ โดยคุณจูและคุณดิส  (อ่าน 22371 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« ตอบ #180 เมื่อ: 8 ก.ย. 14, 13:11 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

ตอนนี้ที่เมกาซึ่งอยู่ตรงข้ามกับไทย เกิดพายุฝุ่นทรายพัดเข้าเมือง เกิดไฟป่าขึ้น และเกิดภูเขาไฟระเบิดขึ้นลาวาไหลเหมือนน้ำเป็นทางยาว 250 ไมล์ ด้านนั้นมีไฟช่วยส่งเสริมกัน คงจะมีธาตุไฟมาก ส่วนด้านเรามีน้ำช่วย ไหลเย็นหรือเป็นธาตุน้ำมากมาเสริมกันไปครับคุณจู อย่าไปทำร้ายธรรมชาติแล้วธรรมชาติก็จะช่วยเหลือมนุษย์เช่นกันครับ..



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ไหมน๊ะ!
เรทกระทู้
« ตอบ #181 เมื่อ: 8 ก.ย. 14, 13:11 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*064 อาจารย์ค่ะปัญหาที่เกี่ยวด้วยเรื่องต่าง ๆ คลื่นสื่อสารอะไรทำนองนี้ หากใช้ยุทธวิธี เทพีสันติภาพ นี่อาจารย์คิดว่าจะสงบไหม เพราะว่าเรื่องแบบนี้ต้องปรึกษาท่านเทพีสันติภาพก็คงจะให้คำตอบได้ q*073

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ไหมน๊ะ!
เรทกระทู้
« ตอบ #182 เมื่อ: 8 ก.ย. 14, 13:13 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*061 อาจารย์ค่ะคงจะใช้เพราะเป็นดินโคลนทั้งนั้นที่จะไหลลงไปทับถมกันนั่นก็จะเกิดเป็นการประสานรอยร้าวได้ แต่รอยร้าวภายในใจของคนมีตัณหาไม่ทราบว่าจะมีอะไรไปอุดตันกระนั้นได้ ก็คงจะมีแต่ไขมันให้ไปอุดตันนั้นก็คงจะหมดปัญหาจริงไหมค่ะอาจารย์ q*061

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
คิด คิด คิด
เรทกระทู้
« ตอบ #183 เมื่อ: 8 ก.ย. 14, 13:17 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*061 ปัญหาเรื่องคลื่นความถี่อะไรนี่ท่านธรรมชาติคงจะช่วยไม่ได้ เรื่องนี้ต้องปรึกษาท่านเทพีสันติภาพอย่างเดียวเดี๋ยวก็จบ q*061

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #184 เมื่อ: 8 ก.ย. 14, 13:39 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เหตุน้ำท่วมอินเดีย-ปากีสถานส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 350 คน



ทางการอินเดีย พยายามช่วยเหลือประชาชนหลายพันคน ที่ติดอยู่ท่ามกลางอุทกภัยในแคว้นแคชเมียร์ ที่ได้ชื่อว่าเลวร้ายที่สุดในรอบ 50 ปี ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 150 คน และทำให้เมืองศรีนคร ซึ่งเป็นเมืองเอกของแคชเมียร์ ในฝั่งที่อยู่ภายใต้การปกครองของอินเดีย อยู่ในสภาพจมน้ำ ขณะที่พรมแดนในฝั่งปากีสถาน ก็เผชิญน้ำท่วมเฉียบพลัน บ้านเรือนพังถล่ม เพราะฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน และมีผู้เสียชีวิตเกือบ 200 คน



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 9 ก.ย. 14, 11:13 น โดย destinygoal » noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #185 เมื่อ: 8 ก.ย. 14, 14:03 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 


ประวัติโดยย่อ
กุหลาบ สายประดิษฐ์ หรือรู้จักกันดีในนามปากกาว่า ศรีบูรพา(31 มีนาคม พ.ศ. 2448 — 16 มิถุนายน พ.ศ. 2517) เป็นนักเขียนชื่อดังชาวไทย
กุหลาบเกิดในปลายสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นชาวกรุงเทพฯ พ่อชื่อสุวรรณ เป็นเสมียนเอก ทำงานอยู่กรมรถไฟ แม่ชื่อสมบุญ เป็นชาวนาอยู่จังหวัดสุพรรณบุรี นายสุวรรณกับนางสมบุญ ได้ให้กำเนิดบุตรสองคน คนโตเป็นหญิง ชื่อ จำรัส นิมาภาส (แต่งงานกับนายกุหลาบ นิมาภาส) ส่วนคนเล็กเป็นชาย ชื่อ กุหลาบ สายประดิษฐ์ สี่ชีวิตพ่อแม่ลูกได้แยกครอบครัวมาเช่าห้องแถวที่เป็นของพระยาสิงหเสนีอยู่แถว ๆ หัวลำโพง
เมื่อกุหลาบมีอายุได้สี่ขวบ เขาได้เริ่มต้นเรียนหนังสือครั้งแรกที่โรงเรียนวัดหัวลำโพง จนถึงชั้นประถม 4 นายสุวรรณได้ช่วยสอนหนังสือให้ลูกชายคนเดียวก่อนเข้าโรงเรียนด้วย แต่พ่อของกุหลาบอายุสั้น ป่วยเป็นไข้เสียชีวิตแต่เมื่ออายุเพียงแค่ 35 ปี ตอนนั้นกุหลาบเพิ่งอายุหกขวบ แม่และพี่สาวจึงได้เลี้ยงดูเขาต่อมา โดยแม่ได้รับจ้างตัดเย็บเสื้อผ้า และส่งพี่สาวไปฝึกเล่นละครรำ และละครร้อง เพื่อหาเงินมาช่วยจุนเจือและส่งเสียให้กุหลาบได้เรียนหนังสือโดยไม่ติดขัด กล่าวคือเมื่อจบชั้นประถม 4 แม่ก็ได้เอากุหลาบไปฝากเข้าเรียนต่อที่ โรงเรียนทหารเด็ก ของกรมหลวงนครราชสีมา โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนประจำ สอนทั้งวิชาทั่วไปและวิชาทหาร

กุหลาบได้เรียนอยู่ที่โรงเรียนนี้สองปี แม่ก็รู้สึกสงสาร เพราะเห็นว่าลูกชายต้องอยู่เวรยามแบบทหาร และเห็นว่าอยากให้กุหลาบได้เรียนวิชาทั่วไปมากกว่า ดังนั้นจึงเอาออกจากโรงเรียนทหาร ให้มาอยู่ที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ โดยเริ่มต้นเรียนในชั้นมัธยม 2 และได้เรียนเรื่อยมาจนจบชั้นมัธยม 8 เมื่อ พ.ศ. 2468พ.ศ. 2465 อายุได้ 17 ปี เริ่มฝึกหัดการแต่งหนังสือ และทำหนังสือ โดยใช้พิมพ์ดีดพ.ศ. 2466 อายุได้ 18 ปี เริ่มเขียนบทกวี และเขียนเรื่องจากภาพยนตร์ ส่งไปให้หนังสือพิมพ์ ภาพยนตร์สยาม ในช่วงนั้นใช้นามปากกา เช่น "ดาราลอย" "ส.ป.ด. กุหลาบ" "นางสาวโกสุมภ์" "หนูศรี" "ก. สายประดิษฐ์" "นายบำเรอ" และ "หมอต๋อง" เริ่มต้นใช้นามปากกา "ศรีบูรพา" เป็นครั้งแรก ในเขียนงานชื่อ แถลงการณ์ ลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ ทศวารบันเทิง ไม่ทราบเป็นงานเขียนประเภทใด ในปีนั้นได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษอยู่ที่ โรงเรียนรวมการสอน และเป็นนักประพันธ์อยู่ใน สำนักรวมการแปล ของนายแตงโม จันทวิมพ์ กุหลาบ สายประดิษฐ์ ได้มาฝึกการประพันธ์อยู่ที่ "สำนัก" นี้ ด้วยความมุ่งหวังอยากเรียนรู้ และหารายได้จากงานเขียนไปจุนเจือครอบครัว ที่มีฐานะค่อนข้างยากจน พร้อมกันนั้นก็ได้ชักชวนเพื่อนร่วมรุ่นอีกสองคน คือ ชะเอม อันตรเสน และ สนิท เจริญรัฐ ให้มาช่วยกันที่ สำนักรวมการแปล ด้วย

พ.ศ. 2467 อายุได้ 19 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยม 8 กุหลาบ สายประดิษฐ์ ได้ใช้นามจริงของตัวเองเป็นครั้งแรกในการเขียนกลอนหก ชื่อ "ต้องแจวเรือจ้าง" พิมพ์ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์ของโรงเรียน ชื่อ แถลงการณ์ศึกษาเทพศิรินทร์ หนังสือพิมพ์โรงเรียนเล่มนี้ มีหลวงสำเร็จวรรณกิจ (บุญ เสขะนันท์) ซึ่งเป็นครูวิชาภาษาไทยของเขาเป็นบรรณาธิการ เป็น ในปีเดียวกัน กุหลาบก็เริ่มใช้นามปากกา "ศรีบูรพา" เขียนบทประพันธ์ขายอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

พ.ศ. 2468 อายุ 20 กุหลาบเรียนจบชั้นมัธยม 8 เริ่มชีวิตการเป็นบรรณาธิการครั้งแรกหนังสือรายทส(รายสิบวัน) ชื่อ สาส์นสหาย แต่ออกมาได้แค่ 7 เล่ม ก็ต้องเลิกไป ต่อมาวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2468 กุหลาบได้เข้าทำงานที่กรมยุทธศึกษาฯ โดยเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ เสนาศึกษาและแผ่วิทยาศาสตร์ โดยมีตำแหน่งเป็น "เจ้าพนักงานโรงวิทยาศาสตร์" ได้เงินเดือนเดือนละ 30 บาท การที่กุหลาบไปเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการที่ เสนาศึกษาและแผ่วิทยาศาสตร์ เพราะสืบเนื่องมาจากเคยส่งเรื่องไปลงพิมพ์ที่นี่ จนเป็นที่พอใจของ พ.ท. พระพิสิษฐพจนาการ (ชื่น อินทรปาลิต) ผู้เป็นบรรณาธิการในขณะนั้น ซึ่งต้องการ "ผู้ช่วย" ที่มีความรู้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษไปทำงาน

พ.ศ. 2469 อายุ 21 เริ่มเขียนงานประพันธ์อีกหลายชิ้น ได้ลงตีพิมพ์ที่ เสนาศึกษาและแผ่วิทยาศาสตร์ (รายเดือน) สมานมิตรบันเทิง (รายปักษ์) มหาวิทยาลัย (รายเดือน) สวนอักษร (รายปักษ์) สาราเกษม (รายปักษ์) ปราโมทย์นคร (รายสัปดาห์) ดรุณเกษม (รายปักษ์) เฉลิมเชาว์ (รายเดือน) วิทยาจารย ์(รายเดือน) ฯลฯ ขณะเดียวกันก็ได้ไปช่วยเพื่อนทำหนังสือพิมพ์ ธงไทย รายสัปดาห์ และหนังสือพิมพ์ ข่าวสด ซึ่งออกในงานรื่นเริงของโรงเรียนเทพศิรินทร์

ขณะที่ กุหลาบ สายประดิษฐ์ ได้ทำงานเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ เสนาศึกษาและแผ่วิทยาศาสตร์ อยู่ประมาณสองปีเศษนั้น ได้มีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ "Young กุหลาบ" ตัดสินใจเลิกคิดที่จะเอาดีทางรับราชการ และได้เบนชีวิตหันมาประกอบอาชีพนักเขียน นักหนังสือพิมพ์โดยอิสระเพียงอย่างเดียว โดยเป็นหนึ่งใน

คณะสุภาพบุรุษร่วมกับนักเขียนชื่อดังท่านอื่นๆ เช่น ยาขอบ ฮิวเมอริสต์ จัดทำหนังสือพิมพ์ชื่อ สุภาพบุรุษ รายปักษ์ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2472 ออกจำหน่ายทุกวันที่ 1 และ 15 ของเดือน มี กุหลาบ สายประดิษฐ์ เป็นบรรณาธิการและเจ้าของ มียอดพิมพ์ครั้งแรก 2,000 เล่ม หนังสือ สุภาพบุรุษ รายปักษ์ ฉบับสุดท้าย คือปีที่ 2 ฉบับที่ 37 วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2473 หลังจากนั้นตำนานแห่ง คณะสุภาพบุรุษ ยังคงมีสืบต่อมา แต่ทว่ามิได้เป็นไปในลักษณะของการจัดทำ Literary Magazine อีกต่อไป การยุติลงของ สุภาพบุรุษ

เมื่อพ.ศ. 2495 ถูกจับกุมด้วยข้อหากบฏภายในและภายนอกราชอาณาจักร หรือ "กบฏสันติภาพ" และได้รับนิรโทษกรรมใน พ.ศ. 2500 ในช่วงปลายชีวิตได้ลี้ภัยไปอยู่ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน

นามปากา
- ศรีบูรพา
- อิสสรชน
- ชื่นใน
- กุหลาบ สายประดิษฐ์

การศึกษา

ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนเทพศิรินทร์
ธรรมศาสตร์บัณฑิต
มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง
ผลงาน
- ฉันจอดไม่ต้องแจว
- ปราบพยศ
- มารมนุษย์
- ลูกผู้ชาย
- โลกสันนิวาส
- หัวใจปรารถนา
- แสนรักแสนแค้น
- จดหมายถึงชายโสด
- สระสวาท (แปลจากเรื่อง The Pool ของ W. Somerset Maugham)
- สงครามชีวิต
- ผจญบาป
- ข้างหลังภาพ
- นอบ

เรื่องสั้น
- คมสวาทบาดจิต (เรื่องสั้นเรื่องแรก)
- สิ่งที่ชีวิตต้องการ
- ทำงานทำเงิน
- ข้างขึ้นข้างแรม
- ผู้มาจากโลกบริสุทธิ์
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #186 เมื่อ: 8 ก.ย. 14, 14:43 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ลูกชายเผยภาพสุดท้าย อ.ถวัลย์ ดัชนี



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (8 ก.ย.) นายดอยธิเบศร์ ดัชนี บุตรชายของ "ถวัลย์ ดัชนี" ศิลปินแห่งชาติผู้ล่วงลับ ได้โพสต์ภาพฝีมือการวาดภาพครั้งสุดท้ายของผู้เป็นพ่อลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมบรรยายว่า

"ภาพสุดท้าย อ.ถวัลย์ ดัชนี วันที่ 21 ก.ค. 2557 พ่อวาดภาพ "ม้า" ขึ้นที่โรงพยาบาล ในขณะที่เข้าพักรักษาตัวอยู่ เป็นภาพสุดท้ายที่พ่อวาดในขณะยังมีลมหายใจ" เทคนิคปากกาเคมี และปากกาลูกลื่นบนกระดาษ

ปล.ในวันพระราชทานเพลิงศพ 10 กันยายน 2557 เวลา 5 โมงเย็นนี้เราจะนำภาพนี้มาจัดพิมพ์ขึ้นจำนวนจำกัด และมอบให้ทุกท่านเป็นที่ระลึกแด่การจากไปของท่านอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ครับ"

ทั้งนี้ อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ประจำปี พ.ศ. 2544 วัย 74 ปี จากไปอย่างไม่มีวันกลับ เมื่อคืนของวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา ด้วยโรคตับอักเสบ นับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของวงการศิลปะและจิตรกรรมของไทย


ติดตามข่าวด่วน เกาะกระแสข่าวดัง บน Facebook คลิกที่นี่!!



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
แล้วใครล่ะ!
เรทกระทู้
« ตอบ #187 เมื่อ: 8 ก.ย. 14, 14:52 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*064 อาจารย์ค่ะขณะนี้ไม่ต้องไปดูหนังที่เมเจอร์แต่อย่างใด ดูข่าวต่างประเทศเรื่องศึกไอเอสไอเอส นี่ไม่รู้ว่ามีผู้กำกับการแสดงเป็นใครอย่างไร นี่เป็นเรื่องจริงแล้วมิใช่แต่ในหนังแต่ประการใด ติดตามดูได้หลายบทหลายตอนที่จะแสดงให้ชมกันทั้งประเทศนี้ได้ ไม่มีรายได้มีแต่ความสูญเสียและความเศร้าโศกเสียใจของบรรดาผู้สูญเสียชีวิตทั้งหลาย เรื่องนี้จะจบอย่างไรก็คงจะเป็นเรื่องยาว และหากใครจะเขียนเป็นบทภาพยนตร์ได้ก็ให้จดบันทึกไปได้เลยนับแต่นี้เป็นต้นไป เพราะจะเป็นหนังประวัติศาสตร์ของโลกใบนี้กระนั้นได้

สุดท้ายก็ต้องจบลงตรงที่เอาอาวุธขึ้นมาสู้รบกันกระนั้นเพราะว่าจากการที่ดูในหนังสงครามที่ผ่านมาไม่มีสักครั้งที่จะไม่มีฉากทำลายล้างนี้กันได้ และหากไม่เหมือนในหนังก็คงจะไม่มันส์กระนั้นได้ เรื่องนี้ก็ต้องมีการงัดเอาอาวุธออกมาใช้เพื่อแสดงศักยภาพร่วมกันระหว่างยักษ์ต่อยักษ์นั้นเห็นจะได้

แต่อยากจะถามว่าหนังก็มีฉายให้ดูนั้น แต่ก็ยังอยากจะทำให้เป็นเรื่องจริงให้จงได้ เรื่องนี้ต้องใช้วิจารณญาณของชาติผู้นำที่ไม่ได้เป็นคู่อริกระนั้นเพราะนี่จะเป็นต้นแบบหรือเปล่านั่นก็ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ แต่อยากจะบอกว่าแค่ดูในหนังก็คงจะเพียงพอหนาแก่การทัศนาที่จะเมามันส์ในอารมณ์กระนั้นได้

แต่หากเป็นเรื่องจริงนั้นหนา ก็คิดว่าหาสาระประโยชน์อันใดไม่ได้ เพราะไม่ได้เข้าฉายในโรงที่จะทำกำไร มีแต่ขาดทุนกันทั้งสองฝ่ายและสุดท้ายประชาชนก็รับเคราะห์กรรมกันไป แต่ที่จะสูญเสียมากนั้นก็คงจะเป็นชาติที่ถูกกระทำก่อนกระนั้นได้ ก็ให้ข้อคิดสำหรับชาติผู้นำทั้งหลายที่จะก่อเรื่องราวที่จะเป็นประวัติศาสตร์ของโลกใบนี้ของเราที่จะต้องจดจำไปจนตาย แต่สุดท้ายใครจะได้รับการขนานนามว่า เป็นยอดแห่งมหาบุรุษแห่งโลกใบนี้นั้นหนาคงไม่ใช่คู่นี้แต่ประการใด q*064

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
มหาบุรุษของโลก!
เรทกระทู้
« ตอบ #188 เมื่อ: 8 ก.ย. 14, 15:26 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*062 คุณดีสฯ คงจะหาที่ไหนไม่ได้แล้วในโลกนี้ที่จะมีการสร้างวังนี้ให้เป็นสถานพยาบาลที่เกรียงไกร ก็คงจะมีแต่โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้าเท่านั้นที่เป็นสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่ได้ดำเนินการรับรักษานายทหารที่ประสบเคราะห์กรรมจากการสู้รบกับเหล่าอริร้ายที่เข้ามาทำลายความมั่นคงของไทย และยังได้ผลิตนายแพทย์ที่เป็นทหารและพยาบาลที่จะอยู่ประจำโรงพยาบาลและส่งไปดูแลรักษาเหล่าทหารหาญในศึกสงครามเมื่อยามมีภัย

บ้านเมืองของไทยมีการสร้างสรรค์พัฒนาโดยเน้นความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันนี้หนาเป็นที่ตั้งกระนั้นได้ มิได้คิดถึงเรื่องศึกสงครามที่จะต้องเข้าไปประหัตประหารให้เกิดทุกข์ภัย เพราะจิตใจที่สูงส่งของท่านผู้นำที่ได้ปกครองประเทศไทย แล้วอย่างนี้จะหาที่ใดในโลกนี้ที่จะอบอุ่นเท่ากับเมืองไทย เพราะความคิดที่ส่งออกมานั้นคือความเมตตา กรุณา ทั้งนั้นที่จะส่งผ่านมาถึงคนไทยและประเทศเพื่อนบ้านทั้งหลาย ประเทศไทยมีแต่การให้เป็นหลักสำคัญแม้กระทั่งใครจะมากระทำให้มีแต่ความเศร้าเสียใจ ก็มีแต่ความอดทน อดกลั้น และเป็นแบบอย่างที่ดีของคนไทยที่จะลอกเลียนแบบกระนั้นได้

พระองค์ท่านทรงสอนให้มีความอดทน อดกลั้น ในเรื่องการทำความดีนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากแต่ต้องอดทนเพราะผลที่เกิดขึ้นในวันข้างหน้านั้นมีแต่เรื่องที่ดีนั้นหนาเกิดขึ้นกระนั้นได้ ความเพียร ความอดทน ความอดกลั้น เป็นเรื่องที่คนไทยนั้นได้รับการสอนสั่งให้กระทำตลอดมา บัดนี้ คงถึงเวลาแล้วกระมังที่จะส่งผลให้เห็นกระนั้นว่าเป็นจริงเยี่ยงใด อดทน อดกลั้น และมีความเพียรพยายามที่จะสร้างสรรค์ความดีเป็นที่ตั้ง และนี่คือการตอกย้ำของประเทศไทยที่จะให้มีแต่การสร้างสรรค์ในเรื่องแต่ความดีเพื่อให้มั่นคงยืนยงคงที่ผันแปรเปลี่ยนไปมิได้ q*064

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #189 เมื่อ: 8 ก.ย. 14, 15:30 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เกษตรอำเภอบางบาลพร้อมทหาร สำรวจปลากระชัง กันการทุจริตร้องขอเงินชดเชย แนะจับปลาขายก่อนน้ำมวลใหญ่มาถึง

นายณรงค์ศักดิ์ ทวีศรี ประมง อ.บางบาล พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพันซ่อมบำรุง กรมสนับสนุน กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ เข้าสำรวจกระชับปลาทับทิม กระชังปลาดุก ที่เลี้ยงอยู่ริมแม่น้ำน้อย อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ที่มีจำนวนนับพันกระชัง รวม 45 ราย ตามคำสั่งของ นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัด ว่ามีกระชังปลาอะไรบ้างก่อนน้ำเหนือไหลหลาก มวลใหญ่จะลงมาถึงซึ่งเป็นสีแดงขุ่น ทำให้ปลากระชังสำลักน้ำช็อคตายได้ เพื่อแจ้งการเสียหายตามความเป็นจริงกันทุจริต ซึ่งการลงสำรวจครั้งนี้พบว่ามีเพียง 200 กว่ากระชัง ชาวประมงเลี้ยงปลากระชังยังไม่ขึ้นทะเบียน จึงแนะนำว่าถ้าปลามีประมาณตัวใหญ่ อายุพอจับขายได้ ก็ให้จับขายก่อนน้ำมวลใหญ่จะลงมาถึงและปลาตายจะไม่ได้ราคา


ติดตามข่าวด่วน เกาะกระแสข่าวดัง บน Facebook คลิกที่นี่!!



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #190 เมื่อ: 8 ก.ย. 14, 15:33 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

กสท. สั่ง ทีวีดาวเทียม-เคเบิล ถอดช่อง 3 ออก ใน 15 วัน



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สปริงนิวส์

มติ กสท. 3 ต่อ 2 ส่งหนังสือแจ้งให้ทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวี งดนำสัญญาณช่อง 3 อนาล็อกไปออกอากาศ ภายใน 15 วัน

จากกรณีที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ (กสท.) มีมติให้ช่อง 3, 5, 7, 9, 11 และไทยพีบีเอส สิ้นสุดการเป็นผู้ให้บริการทีวีที่ให้บริการโดยทั่วไป (ฟรีทีวี) ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2557 ดังนั้นผู้ให้บริการโครงข่ายเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมจึงไม่จำเป็นต้องนำทีวีภาคพื้นดิน 6 ช่องอนาล็อกไปออกอากาศอีก จึงส่งผลให้ช่อง 3 อนาล็อก ที่ไม่ได้ออกอากาศคู่ขนานในระบบดิจิตอลอยู่แล้วไม่สามารถออกอากาศบนโครงข่ายเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมได้อีก แต่ช่อง 3 ได้อ้างประกาศ คสช. ฉบับที่ 27 เพื่อออกอากาศรายการได้ตามปกติผ่านโครงข่ายดาวเทียมและเพย์ทีวี ทำให้ กสท. นัดประชุมพิจารณาหาทางออกในเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้วนั้น

ล่าสุดในวันนี้ (8 กันยายน 2557) กสท. ได้มีการประชุมถึงกรณีดังกล่าวอีกครั้ง ก่อนที่จะมีมติ 3 ต่อ 2 ให้ทำหนังสือแจ้งผู้ให้บริการโครงข่ายเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม ไม่ให้นำช่อง 3 อนาล็อกไปออกอากาศอีก โดยให้เวลา 15 วัน

กระปุกดอทคอม

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #191 เมื่อ: 8 ก.ย. 14, 15:37 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ช่อง 3 ยื่นฟ้อง 3 กสท. สุภิญญา-ธวัชชัย-ดร.พีระพงษ์
โพสต์เมื่อ : 8 กันยายน 2557 เวลา 10:03:32
รับแจ้งเตือนข่าวใหม่ ประเด็นฮิตทางมือถือ ฟรี คลิกที่นี่ ช่อง 3 ยื่นฟ้อง 3 กสท. สุภิญญา-ธวัชชัย-ดร.พีระพงษ์
ช่อง 3 ยื่นฟ้อง 3 กสท. สุภิญญา-ธวัชชัย-ดร.พีระพงษ์

ช่อง 3 ยื่นฟ้อง 3 กสท. สุภิญญา-ธวัชชัย-ดร.พีระพงษ์

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร

ช่อง 3 ส่งทยานยื่นฟ้อง กสท. 3 คน ประกอบด้วย สุภิญญา ธวัชชัย และดร.พีระพงษ์ 3 ข้อหา คือปฏิบัติหน้าที่มิชอบ หมิ่นประมาท และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

จากกรณีที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ (กสท.) มีมติให้สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 สิ้นสุดการเป็นผู้ให้บริการทีวีที่ให้บริการโดยทั่วไป (ฟรีทีวี) ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา แต่ช่อง 3 ยังคงอ้างประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 27 เพื่อสามารถออกอากาศผ่านระบบเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมได้ ทำให้ กสท. สั่งให้ช่อง 3 กลับไปจัดทำแนวทางการแก้ไขปัญหามาเสนอต่อที่ประชุมในวันที่ 8 กันยายนนั้น

ล่าสุด วันนี้ (8 กันยายน 2557) รายการเรื่องเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า ทีมทนายของบริษัท บางกอก เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ได้เข้ายื่นหนังสือแจ้งการยื่นฟ้องกรรมการของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ (กสท.) 3 คน คือ...

ช่อง 3 ยื่นฟ้อง 3 กสท. สุภิญญา-ธวัชชัย-ดร.พีระพงษ์
น.ส. สุภิญญา กลางณรงค์

1. น.ส. สุภิญญา กลางณรงค์ แจ้ง 3 ข้อหา คือ
-ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
-หมิ่นประมาท
-ทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ช่อง 3 ยื่นฟ้อง 3 กสท. สุภิญญา-ธวัชชัย-ดร.พีระพงษ์
นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์

2. นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

ช่อง 3 ยื่นฟ้อง 3 กสท. สุภิญญา-ธวัชชัย-ดร.พีระพงษ์
พ.ท. ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ

3. พ.ท. ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

โดยมีนายสมบัติ ลีลาพตะ รองเลขาธิการของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นผู้รับหนังสือ พร้อมบอกว่า จะนำเรื่องนี้เข้าในที่ประชุมบอร์ด กสท. เพื่อพิจารณาถึงกรณี ช่อง 3 อนาล็อก ดังกล่าวด้วย ด้านทีมทนายยืนยันว่า การฟ้องร้องไม่ได้มีมูลเหตุจากความขัดแย้งระหว่าง กสท. และช่อง 3 แต่เป็นการยื่นฟ้องเพื่อรักษาสิทธิ์ตามกฎหมายเท่านั้น

กระปุกดอทคอม

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #192 เมื่อ: 8 ก.ย. 14, 15:45 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อุกกาบาตตกในนิการากัว ทำเกิดหลุมกว้าง 12 เมตร
โพสต์เมื่อ : 8 กันยายน 2557 เวลา 14:36:58
รับแจ้งเตือนข่าวใหม่ ประเด็นฮิตทางมือถือ ฟรี คลิกที่นี่
อุกกาบาตตกในนิการากัว
อุกกาบาตตกในนิการากัว

อุกกาบาตตกในนิการากัว

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก GERMAN MIRANDA / EL 19 DIGITAL / AFP

อุกกาบาตตกในนิการากัว ทิ้งร่องรอยเป็นหลุมกว้าง 12 เมตร

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2557 สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า เกิดระเบิดปริศนาขึ้นในนิการากัว ทิ้งร่องรอยเป็นหลุมกว้างขนาด 12 เมตร ทางการชี้เป็นอุกกาบาตตก และโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา บริเวณชานเมืองมานากัว ใกล้กับสนามบิน เมื่อมีแรงระเบิดปริศนาปะทะกับพื้นดิน จนทำให้มีหลุมไม่ลึกมาก กว้างประมาณ 12 เมตร ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ในช่วงเวลาเกิดเหตุ มีการตรวจพบแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวบริเวณดังกล่าว ทำให้คาดเดาว่าเป็นเหตุอุกกาบาตตกบนพื้นโลกนั่นเอง

โดยทางด้านนายโฮเซ มิลแลน จากสถาบันวิจัยธรณีวิทยาในนิการากัว ได้เปิดเผยว่า "จากหลักฐานที่เราพบ เราขอยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมีรูปแบบที่เหมือนกับอุกกาบาตตก ไม่มีความเป็นไปได้เลยว่าจะเป็นปรากฏการณ์อื่น และเราต้องขอบคุณพระเจ้าที่อุกกาบาตได้ตกในพื้นที่รกร้างห่างที่อยู่อาศัย ทำให้ไม่สร้างอันตรายต่อประชาชน"

อย่างไรก็ดีทางการนิการากัวได้ขอความช่วยเหลือไปทางสหรัฐอเมริกาให้เข้ามาช่วยตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย เพื่อยืนยันว่าเป็นอุกกาบาตอย่างที่คาดไว้หรือไม่

ทั้งนี้นิการากัวเป็นประเทศที่มีภูเขาไฟกว่า 20 แห่ง และมักจะเกิดแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่เกิดเหตุจึงคิดว่าเสียงระเบิดที่พวกเขาได้ยินนั้นมาจากแผ่นดินไหว ก่อนที่ทางการจะออกมาชี้แจงว่าเป็นอุกกาบาตดังกล่าว



กระปุกดอทคอม



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
คิดเพื่อประเทศไทย
เรทกระทู้
« ตอบ #193 เมื่อ: 8 ก.ย. 14, 15:58 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*061 สิ่งที่สำคัญนอกเหนือจากการที่มีเหล่าบรรดาผลไม้ต่างๆ ที่ทยอยนำออกมาจำหน่ายที่มีราคาตกต่ำนั้น เราจะต้องมาเน้นกันที่มาตรฐานในการแข่งขันในตลาดโลกดีกว่าไหม ที่จะต้องมีการกำกับเป็นตราสัญญลักษณ์ที่จะบ่งบอกถึงรสชาด และผลผลิตที่ผิวพรรณและมีความสวยงามน่ารับประทานนั้นที่จะนำออกไปแข่งขันให้ได้ระดับที่เป็นน่าเชื่อถือยกย่องกระนั้นได้ หลังจากที่มีทัพนักกีฬาได้ไปสรรหาชัยชนะต่าง ๆ มา ก็ต้องจัดให้มีการประกวดสินค้าในระดับชาติเช่นเดียวกันที่จะต้องมีคณะกรรมการจากทุกมุมโลกนั้นให้มีตรารับประกันคุณภาพของแต่ละชาดติพันธุ์จะดีกว่าไหม ที่จะได้มีการแข่งขันกันผลิตผลไม้ที่ได้มาตรฐานนั้นแข่งขันกันที่จะผลิตส่งออกกันเพื่อจะได้ลดทอนการส่งออกที่ไม่ได้มาตรฐานและมีราคาถูกกันนั้นได้

ประเทศต่าง ๆ จะต้องแข่งขันกันในเรื่องผลผลิตนั้นที่จะมาประกวดกันเพื่อจะได้รับรับการการันตีที่จะเป็นที่ยอมรับในทั่วโลกนั้นได้

สำหรับประเทศไทยก็ต้องมีการผลิตปุ๋ยที่ได้มาตรฐานและเร่งผลิตงานวิจัยต่าง ๆ ที่จะไปนำเสนอให้ต่างชาติเข้าร่วมแข่งขันกันนั้นได้ คิดว่าเรื่องนี้ก็มีความสำคัญในอนาคตข้างหน้าที่จะได้ลดทอนการแก้ปัญหาผลผลิตตกต่ำนั้นหนาในประเทศไทย q*061

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #194 เมื่อ: 8 ก.ย. 14, 16:38 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ที่จริงผลไม้ไทยเราเป็นผู้ผลิตน่าจะเป็นผู้กำหนดราคาได้ แต่นี่นายทุนเป็นผู้กำหนดราคาก็แปลกดีนะคุณจู

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #195 เมื่อ: 8 ก.ย. 14, 16:48 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ทราบชื่อผู้ที่ถูกรถไฟชนแล้วครับ...


รถไฟชนคนเดินข้ามขาด 2 ท่อน แยกยมราช



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (8 ก.ย.) เมื่อเวลา 07.38 น. เกิดเหตุรถไฟชนคนเสียชีวิต บริเวณทางรถไฟแยกยมราช ขบวนรถไฟขวางเส้นทางทั้งด้านถนนพิษณุโลก ถนนหลานหลวง ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก

ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยเปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตเป็นหญิงไม่ทราบชื่อ สวมเสื้อสีแดง โดยขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่รถไฟได้ทำการเปิดสัญญาณเตือนแล้ว แต่หญิงคนดังกล่าวก็ยังก้มหน้าก้มตาเดิน ทำให้รถไฟชนและลากร่างไปไกลกว่า 10 เมตร สภาพศพร่างกายขาด 2 ท่อน เบื้องต้น คาดว่าหญิงคนดังกล่าวน่าจะเป็นคนในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างติดต่อหาญาติ

ติดตามข่าวด่วน เกาะกระแสข่าวดัง บน Facebook คลิกที่นี่!!





(8 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กศูนย์ประชาสัมพันธ์และบริการท่องเที่ยว การรถไฟแห่งประเทศไทย (ทีมพีอาร์ การรถไฟแห่งประเทศไทย) ได้โพสต์คลิปวิดีโอนาทีเกิดอุบัติเหตุ ขบวนรถชานเมืองที่ 384 ชุมทางฉะเชิงเทรา-กรุงเทพฯ เฉี่ยวชน น.ส.ศิริลักษณ์ เพ็งเลา อายุ 41 ปี บริเวณทางตัดแยกยมราช เป็นเหตุให้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ระบุข้อความดังนี้

"เมื่อเวลาประมาณ 7:00 นาฬิกา เกิดเหตุขบวนรถชานเมืองที่ 384 ชุมทางฉะเชิงเทรา-กรุงเทพ เฉี่ยวชนคนบริเวณทางตัดแยกยมราชเป็นเหตุให้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อ นางสาวศิริลักษณ์ เพ็งเลา อายุ 41 ปี

เบื้องต้นเครื่องกันถนนและสัญญาณเตือนทำงานเป็นปกติดีค่ะ และจากการสอบถามสามีของผู้เสียชีวิตทราบว่า ตนและผู้เสียชีวิตพักอาศัยอยู่บริเวณชุมชนโค้งทางรถไฟสายแปดริ้ว และ ผู้เสียชีวิตไม่ทันได้สังเกตรถไฟจากทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งที่ตนได้ร้องเตือนแล้ว ทำให้เกิดเหตุน่าเศร้าขึ้นค่ะตามภาพวีดีโอค่ะ

การรถไฟฯ ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต มา ณ โอกาสนี้ และหวังว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นเหตุเตือนใจให้ผู้ข้ามทางรถไฟได้สังเกตขบวนรถไฟจากทั้ง 2 ฝั่ง และ สัญญาณกั้นถนน ก่อนข้ามทางทุกครั้ง ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของท่านค่ะ"

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #196 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 07:51 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ไอเดียบรรเจิด เริ่ดแบบพอเพียง ปลูกผักสวนครัวบนต้นกล้วย
ปลูกผักบนต้นกล้วย เป็นการปลูกพืชผักที่น่าสนใจมากเนื่องจากเกือบจะไม่ต้องใช้น้ำเลย และ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้เกษตรกรที่มีสวนกล้วยหรือปลูกอยู่แล้ว ได้ใช้ต้นกล้วยที่ตัดแล้วให้เกิดประโยชน์อีกทางหนึ่ง



วัสดุ – อุปกรณ์
เมล็ดพันธุ์ผัก ประเภท กินใบ อายุการเก็บเกี่ยวสั้น เช่น ผักกาดหอม(ไม่ห่อหัว) จำพวกผักสลัด
กระบะเพาะกล้า หรือ ตะกร้าสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ถาดหลุมพลาสติก
กระดาษหนังสือพิมพ์
ขี้เถ้าแกลบ,ทราย
ปุ๋ยคอก/ปุ๋ยหมัก
ผักที่ปลูกไม่ควรมีอายุเกิน 40 วัน และควรปลูกผักกินใน ที่ไม่ต้องการแสงแดดจัด
ขึ้นตอนที่ 1 การเตรียมหรือการเพาะต้นกล้า
เตรียมดินเพาะกล้า โดยใช้ปุ๋ยคอก ผสม ขุยมะพร้าวหรือขี้เลื้อย และหรือเศษวัสดุอื่นๆ แล้วเพาะกล้า ลงแปลงเพาะกล้าไว้เมื่อต้นกล้าผักเจริญเติบโตมีใบประมาณ 3-4 ใบ จึงนำออกมาปลูกบนต้นกล้วยได้
ขั้นที่ 2 สำหรับการปลูกผักไร้ดินบนต้นกล้วย
สำหรับการปลูกผักไร้ดินบนต้นกล้วย ให้เจาะรูที่ต้นกล้วยให้รูมีขนาดเท่ากับที่จะนำกล้าลงไปปลูกในต้นกล้วยจำนวนผักที่จะปลูกมากหรือน้อย ให้ดูขนาดของต้นกล้วยว่าใหญ่หรือเล็ก
ไม่ต้องรดน้ำ ให้ต้นกล้วยแต่อย่างใด ให้ผักที่นำมาปลูก ใช้เวลา ประมาณ 30 – 40 วัน ถ้าเกินนี้ต้นกล้วยจะโทรมและเหี่ยวแห้งตายเสียก่อน
เก็บเกี่ยวผักไปกินหรือนำไปขายได้เลย ผักที่ได้จะมีรสชาติดีมาก หวาน และกรอบ ใบเป็นเงางาม ทั้งนี้ เป็นเพราะต้นกล้วยมีธาตุโพแทสเซียมสูงนั่นเอง ผักที่ปลูกควรเป็นผักกินใบที่ไม่ต้องการแสงแดดที่แรงมากนัก
ภาพและข้อมูลจาก : monmai.com
ที่มา : www.smartsme.tv
http://www.smartsme.tv/breaking_detail.php?id=7748

โพสจัง



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #197 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 08:48 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก DrPavich

WEF เผยคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไทยรั้งอันดับ 7 ของอาเซียน ส่วนคุณภาพของระบบอุดมศึกษาอยู่อันดับ 8 ต่ำกว่าลาวและกัมพูชา

วันที่ 8 กันยายน 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.ภาวิช ทองโรจน์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เผยแพร่ข้อมูลการประชุมของเวทีเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum : WEF) เรื่อง Global Competitiveness Report 2014-2015 ซึ่งระบุว่า คุณภาพของการศึกษาขั้นพื้นฐานของไทยอยู่ที่อันดับ 7 ของอาเซียน ตกลงมาจากปีที่แล้วซึ่งอยู่อันดับ 6 ส่วนคุณภาพของระบบอุดมศึกษาอยู่ที่อันดับ 8 ซึ่งต่ำกว่าลาวและกัมพูชา

รายงานระบุว่า เวทีเศรษฐกิจโลกได้ออกรายงานประจำปีการเปรียบเทียบขีดความสามารถในการแข่งขันได้ของประเทศต่าง ๆ ที่เลือกมาศึกษารวม 144 ประเทศ โดยสรุปว่า ขีดความสามารถในการแข่งขันได้ของไทยอยู่เป็นอันดับที่ 31 ของโลก และเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน ตามหลังสิงคโปร์ซึ่งอยู่อันดับ 2 ของโลก และมาเลเซีย ซึ่งอยู่อันดับ 20

แต่ถ้าพิจารณาเฉพาะดัชนีด้านการศึกษาแล้ว จะเห็นว่ามีความน่าวิตกเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากคุณภาพของการศึกษาขั้นพื้นฐานของไทยอยู่ที่อันดับ 7 ของอาเซียน (ตกจากปีที่แล้วซึ่งอยู่อันดับ 6) และคุณภาพของระบบอุดมศึกษาอยู่ที่อันดับ 8 แม้ว่าขีดความสามารถด้านคณิตศาสตร์-วิทยาศาสตร์จะค่อนข้างดี คืออยู่ที่อันดับ 5 ก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์มวลรวมต่อหัวประชากร (GDP per Capita) พบว่าไทยร่ำรวยเป็นที่ 3 ของอาเซียน ซึ่งเป็นที่น่าประหลาดใจอย่างยิ่งว่าประเทศที่ยากจนกว่าสามารถจัดการศึกษาได้ดีกว่าเรา


กระปุกดอทคอม
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
คิดเพื่อประเทศไทย
เรทกระทู้
« ตอบ #198 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 10:07 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*061 สวัสดีค่ะคุณดีสฯ เรื่องการจัดอันดับการศึกษานี่คิดว่าหากยึดติดอยู่แค่ที่ว่าต่างชาติภาษาเขาจะคิดพิจารณาและเป็นข่าวมาบอกว่าโน่นนี่นั่น แต่ความมั่นคงของไทยนั้นสั่นคลอนกระนั้น ให้วัดจากอะไรที่จะบอกว่าระดับการศึกษาจะต้องให้อยู่เหนือระดับจิตใจ สำหรับประเทศไทยคิดว่าเป็นประเทศที่อยู่ในระดับที่เรียกว่า จิตวิญญาณ สามัญสำนึกย่อมมีความสำคัญกว่าในเรื่องการศึกษาอย่างมากมาย หากว่าการศึกษาสูงในระดับที่ว่ายังลากปืนออกมากราดยิ่งผู้คนเพื่อนนักเรียน นักศึกษา ได้นี่สมควรที่จะจัดอยู่ในการศึกษาดีและจิตวิญญาณไม่ดีนี่สังคมจะเป็นเยี่ยงใด สำหรับประเทศไทย การศึกษาดีแต่หากว่าจิตสำนึกไม่ดีมันก็คงจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันไม่ได้ที่จะให้สังคมไทยนี้มั่นคงดำรงอยู่ได้ การศึกษาและจิตสำนึกนี่จะต้องควบคู่กันไป

อาจจะแปรความหมายได้ว่า พวกที่จัดอันดับประเทศไทยในเรื่องการศึกษาให้มาปรึกษาหารือกับผู้บริหารทางการศึกษาของไทยดีกว่าได้ไหมว่าจะยกเกณฑ์มาตรฐานตรงจุดไหนล่ะที่จะเรียกว่า เกิดความมั่นคงในประเทศหรือภูมิภาคนี้ที่ประชาชนคนไทยจะไปสร้างปัญหาให้กับโลกใบนี้กันนั้นได้

แต่หากยังมีคนไทยที่มีการศึกษาและระดับจิตสำนึกต่ำกว่าที่จะให้การยอมรับในเรื่องการจัดอันดับการศึกษาที่ดีนั้นได้ และไปทำความวุ่นวายให้กับโลกใบนี้ที่จะชี้ว่าให้เอาโลกล้อมประเทศไทย ประเทศไทยก็มีสิทธิ์ที่จะคิดกลับได้เหมือนกันว่าโลกใบนี้นั้นมันยุติธรรมแค่ไหน หรือว่ามันจัดอันดับเพื่อที่ว่าจะยกตนข่มท่านให้กับทุกชาติภาษาในโลกนี้กันนั้นได้ q*061

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #199 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 10:11 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

หลวงพ่อพิมพ์ วัดเวฬุวัน ประกาศละสังขารล่วงหน้า วันที่ 9 เดือน 9
โพสต์เมื่อ : 9 กันยายน 2557 เวลา 08:30:18


หลวงพ่อพิมพ์ วัดเวฬุวัน ประกาศละสังขารล่วงหน้า วันที่ 9 เดือน 9

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร

หลวงพ่อพิมพ์ เจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน ประกาศละสังขารวันที่ 9 เดือน 9 เวลา 21.00 น. ยันไม่ใช่เป็นการฆ่าตัวตายแต่เป็นการละสังขารด้วยเจริญภาวนา ญาติโยมแห่ทำบุญ

เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2557 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พระครูเวฬุวันจันทะรังสี หรือ หลวงพ่อพิมพ์ อายุ 65 ปี เจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน หมู่ 4 บ้านท่าเริงรมย์ ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ประกาศละสังขารล่วงหน้าในวันที่ 9 เดือน 9 เวลา 21.00 น. จึงเดินทางไปตรวจสอบ

โดยที่วัดเวฬุวัน พบชาวบ้านนับพันคนส่วนใหญ่แต่งกายนุ่งขาวห่มขาว นั่งสงบนิ่งในกุฏิสงฆ์เจ้าอาวาสและบนศาลาการเปรียญขนาดใหญ่ 3 หลัง โดยมี หลวงพ่อพิมพ์ เจ้าอาวาส ทำพิธีสวดมนต์ให้พรแก่ชาวบ้านที่มีปัญหาชีวิตมาให้ช่วยขจัดปัดเป่า

หลังจากเสร็จพิธีสวดเมตตาให้ชาวบ้านแล้ว หลวงพ่อพิมพ์ได้เปิดเผยถึงการประกาศละสังขารว่า ที่ผ่านมาได้ใช้ชีวิตในชาติหนึ่งอย่างสมบูรณ์แล้ว เมื่อเกิดมาตัวเปล่าต้องไปด้วยตัวเปล่าเช่นกัน ชีวิตไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร ตนจึงประกาศให้ญาติโยมทราบว่าจะขอละสังขารไปสู่ปรภพ ในวันที่ 9 เดือน 9 เวลา 21.00 น. หมายถึงวันที่ 9 กันยายน 2557 ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของตน โดยเลือกละสังขารที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างกุฏิภายในวัด ด้วยวิธีเข้าไปนอนภาวนาในโลงที่เตรียมไว้

ทั้งนี้ในช่วงวันที่ 9-10 กันยายน 2557 ห้ามไม่ให้ญาติโยมเข้าพบหลวงพ่อหรือเปิดโลงอย่างเด็ดขาด รอให้ถึงวันที่ 11 กันยายน 2557 จึงค่อยให้แพทย์และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องมาชันสูตรศพ ซึ่งการละสังขารครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการทำอัตวินิบาตกรรมหรือฆ่าตัวตายแต่อย่างใด เป็นการละสังขารภายในโลงศพด้วยการเจริญภาวนาจนกระทั่งสิ้นลมหายใจ

ขณะที่ทางด้านนายธนกร นวลมะรัง อายุ 56 ปี ส.อบต.ทุ่งพระและกรรมการวัดเวฬุวัน เปิดเผยว่า หลวงพ่อพิมพ์เป็นผู้ก่อตั้งวัดแห่งนี้เมื่อ 7 ปีที่แล้ว เป็นพระนักพัฒนาสายวิปัสสนากรรมฐาน ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด อุปสมบทมานาน 20 กว่าพรรษา ก่อนจะสร้างวัดแห่งนี้ได้เดินธุดงค์ผ่านมาแล้วปักกลดในบริเวณป่าเนินเขานอกหมู่บ้าน ชาวบ้านเกิดแรงศรัทธาจึงนิมนต์ท่านให้จำพรรษาที่ดินบริเวณเชิงเขาจนสร้างวัดเป็นผลสำเร็จ

ส่วนเรื่องที่หลวงพ่อประกาศละสังขารนั้น ท่านได้ประกาศล่วงหน้าหลายเดือนแล้ว พอชาวบ้านรู้ข่าวต่างแห่มาทำบุญจนแน่นวัดแทบทุกวัน ยิ่งใกล้ถึงวันที่ประกาศละสังขาร คือวันที่ 9 เดือน 9 เวลา 21.00 น. คนยิ่งเพิ่มเป็นทวีคูณ

กระปุกดอทคอม



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ข้าคิดไกล!
เรทกระทู้
« ตอบ #200 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 10:24 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*061 คุณดีสฯ นี่จะเป็นการยกตัวอย่างระดับการศึกษาระหว่างประเทศที่เจริญก้าวหน้าและประเทศที่กำลังพัฒนาคือประเทศไทยนี่ ตอนนี้อยู่ในระดับที่ ยกพวกตีกันเท่านั้น แต่ยังไม่ถึงขั้นเอาปืนไปยิงกราดกันในสถานศึกษานั้นได้ ก็ให้ดูแล้วกันหากประเทศไทยเจริญก้าวหน้าทัดเทียมไปกับเขาในเวลานี้มิเอาปืนไปกราดยิงกันอย่างเต็มที่และเมามันส์แล้วหากเป็นเยี่ยงนั้นก็จะสามารถยกระดับไปเท่าเทียมกับต่างชาติภาษาที่เจริญก้าวหน้าเฉกเช่นกันใช่หรือไม่

นี่จะยกเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้นแต่หากมีข่าวมาภายหลังที่จะให้ประเทศไทยมีการกราดยิงในสถานศึกษานั้นก็จะคิดว่าเป็นการสร้างข่าวกันขึ้นมาหลังจากที่แสดงความคิดเห็นนี้ได้ นี่ก็จะเป็นการป้องกันภัยเอาไว้ก่อนหนาเพราะว่ามักจะมีคนไปทำข่าวที่บิดเบือนและนำความคิดนี้ไปทำให้เกิดปัญหาเกิดขึ้นที่ในไทย และก็ให้มีจิตสำนึกกันด้วยว่าการจัดระดับและวัดการศึกษาหรือจัดอันดับใด ๆ มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์สิ่งแวดล้อมของชาตินั้น ๆ ว่าเขาจะบริหารจัดการกันในระบบไหน ที่จะรักษาความมั่นคงของชาติตนเองและรักษาความมั่นคงในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยจะบอกเอาไว้ให้ q*061

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ตาวิเศษเห็นน๊ะ!
เรทกระทู้
« ตอบ #201 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 10:56 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*061 คุณดีสฯ คุณจูคิดว่าขอให้นำภาพสุนัขขึ้นไปยืนบนหัวช้างออกดีกว่าน๊ะเพราะว่าช้างคือสัตว์คู่บ้าน คู่เมืองไทย คือที่เห็นว่าสุนัขกับช้างนี้หนาเป็นของคู่กันได้ เพราะว่าสุนัขก็เป็นสัตว์ที่แสดงออกถึงความซื่อสัตย์แก่ผู้ที่ให้อาหารให้ที่อยู่อาศัย และช้างก็เป็นสัตว์ใหญ่ที่ในประวัติศาสตร์ชาติไทยได้สร้างคุณประโยชน์ให้อย่างมากมาย สมควรยกย่องมากกว่าเพราะว่าเป็นประวัติศาสตร์ของชาติไทยที่ได้จารึกเอาไว้และให้คนไทยได้ภาคภูมิใจ แต่เมื่อถึงหน้าน้ำอย่างนี้น่ะจะให้สุนัขมาขอความช่วยเหลือด้วยการไปยืนหนีน้ำนี่ก็เห็นว่าดีอยู่หรอกน๊ะที่จะมีการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน แต่หากตีอีกความหมายหนึ่งนั้นก็เป็นการไม่ยกย่องให้เกียรติกันสักเท่าไหร่ ก็ขอให้นำภาพที่จะทำให้คิดแปลกแยกกระนั้นได้

เดี๋ยวนี้ประเทศไทยคิดบวกแล้วบวกอีกมันก็ยังเป็นลบอยู่ดีเพราะบวกในประเทศไทยนี้คือการชนช้างกัน รถขับมาบวกกันพอดีมันก็เลยเละกันไปทั้งสองคันเลยที่ไม่ได้ประโยชน์อันใด ซึ่งก็หมายถึงการรวมพรรคพวกเป็นการคิดบวกแบบมีผลประโยชน์อีกนั้นได้ คิดแล้วก็ไอขึ้นมาทันทีเสมือนว่าเป็นเรื่องจริง ณ ปัจจุบันนี้ได้ คือต้องคิดบวกเพื่อชาติและประชาชนคนไทย มิใช่คิดบวกแบบเอาพรรคพวกคิดลบมาแปรเปลี่ยนกระนั้นได้(แต่เสมือนไม่จริงใจ) อย่าน๊ะจะบอกให้ตอนนี้ประชาชนเขาฉลาดคิดขึ้นมากแล้วน๊ะ คลิปต่าง ๆ ที่ส่งมาเป็นข่าวนั้นน่ะเขาก็แยกแยะออกหรอกน๊ะว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ทำอะไรก็แล้วแต่ขอให้ยึดชาติไทยเป็นหลัก หากยึดตัวเองและพรรคพวกเป็นหลักในทางที่ไม่ส่งเสริมประเทศไทย ทำอย่างไรมันก็เละอยู่ดีและนี่เป็นความจริงนี่ ประชาชนเขาฉลาดขึ้นแล้วน๊ะจะบอกให้ q*061

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #202 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 11:17 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คุณจูโทรทัศน์เพิ่งเสียเมื่อสักครู่นี้เอง...แปลกดีนะ...เป็นไปได้นะ...

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
เรื่องจริงไม่อิงนิยาย!
เรทกระทู้
« ตอบ #203 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 11:21 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*064 ขอบคุณค่ะและคิดว่าเราจะต้องทำให้ดีที่สุดให้จงได้ในการที่จะคิดรักษาความมั่นคงและให้เกียรติซึ่งกันและกันสำหรับคนไทย วัฒนธรรมแบบเก่า ๆ ของเราที่จะบอกเล่าความเป็นไทยของเราได้นั้นยิ่งใหญ่กว่าชนชาติใดน๊ะและก็น่าจะนำกลับมาใช้กันใหม่ เพราะที่ผ่านมาไม่มีความเสถียรนั้นหนาในความเป็นไทย และคงไม่มีใครไม่คิดที่จะลืมรากเหง้าเผ่าไทยของเรากระนั้นได้

นอกเสียจากกลัวว่าจะไม่ทันสมัย กลัวว่าคนอื่นจะว่าตัวเองล้าหลังไม่ทันสมัย แต่ประเทศไทยก็ไม่เคยคิดถึงความบ้าระห้ำ หรือความกระสันต์ที่อยากจะได้ข้าวของของชนชาติใด คิดอยู่ตลอดเวลาจะดำรงรักษาความเป็นไทยเอาไว้ได้อย่างไร ที่จะไม่ให้ชนชาติใดมากลืนชาติภาษาของตัวเองกระนั้นได้ ใช่ถึงแม้จะเป็นความภาคภูมิใจ แต่ก็ต้องคิดด้วยว่าจะทำอย่างไรที่จะให้เป็น ต้นแบบ แม่แบบ ของโลกใบนี้กระนั้นได้ นี่สิคือชัยชนะอันแท้จริงคิอ ทำอย่างไรที่จะเป็น ต้นแบบ แม่แบบ แห่งโลกใบนี้ที่ก็ไม่มีเห็นมีชนชาติไหนที่จะมากำหนดรูปแบบให้กับประเทศไทยได้

คิดไป คิดมา ก็ชาติไทยนี่แหละหนาคือ ต้นแบบ ของโลกใบนี้น๊ะจะบอกเอาไว้ให้ q*062q*062

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
รู้กัน!
เรทกระทู้
« ตอบ #204 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 11:23 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*061 คุณดีสฯ คิดว่าอย่างไรล่ะ และนี่คือสิ่งที่แปลกมากเป็นเสมือนสื่อที่นำพามาให้ทางจิตวิญญาณ เพราะคนนั้นคงจะทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องลงที่ข้าวของหรืออย่างไร q*061

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
มันยังเหมือนเดิมเลย
เรทกระทู้
« ตอบ #205 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 11:39 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*061 นี่แหละคุณดีสฯ ถึงให้ย้อนไปคิดถึงประเทศไทยนี้ไง หากทำคนไม่ได้ ก็จะลงที่ข้าวของอันเป็นสมบัติชาติที่จะสูญเสียไง คิดดูน๊ะทุกอย่างจะสะท้อนมาให้เห็นทั้งหมดที่เกิดขึ้นแก่เราจูดิส และให้คิดถึงประเทศไทย คงเป็นหมอผี แม่มด ปีศาจ แต่คงไม่ใช่ชาติเอเซียสักเท่าไหร่ ก็นี่แหละเพราะยังยึดติดอยู่กับเรื่องนี้ไง มิเข้าไปหาพ่อมด หมอผีในอาฟริกาใต้หรือไม่ก็ตะวันออกกลาง คงจะเป็นที่ไหนสักอย่างที่ไม่ใช่ทางเอเซียนี้นั้นได้น๊ะคุณดิสฯ คิดเอาเองแล้วกันจิตวิญญาณนั้นสื่อสารกันได้ q*061

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ใครอ่ะ!
เรทกระทู้
« ตอบ #206 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 11:43 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*061 คุณดีสฯ ตอนนี้ไม่รู้ว่าไปเปลี่ยนเป็นศาสนาใดแล้วกระนั้นได้ เพราะจะต้องต่ออายุไปเรื่อย ๆ เหมือนฆ่าตัดตอนชีวิตตัวเองไงมิให้ศาสนาใดจะติดตามตัวเองได้ (คงคิดด้วยสมองของตัวเองไง) เดี๋ยวไทย เดี๋ยวคริสต์ เดี๋ยวอิสลาม ตอนนี้มิเป็นประเภทหมอผี ฤาษี หรือไม่ก็ผีดิบหรือซอมบี้ไปแล้วก็อาจจะเป็นได้ coco (เอาหมดทุกอย่างที่จะไม่ให้อายุขัยตัวเองนั้นสิ้นไปได้)

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
5555555
เรทกระทู้
« ตอบ #207 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 12:01 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*073 คิดดูแล้วกันทั้งศาสดา ศาสนา ผู้นำของโลกต่างๆ ยังวุ่นวายกระนั้นได้ แล้วโลกใบนี้จะเหลืออันใด มันเล่นหมดทุกอย่างทั้งทางวิทยาศาสตร์ จิตวิญญาณ เล่นได้ทุกอย่างด้วยเงินตราที่จะพาตัวเองไปได้


แต่อยากจะบอกว่าท่านเหล่านี้นั้นหนาเล่นด้วยไม่ได้

พระนางมณีเมขลา

พระแม่คงคา

พระแม่ธรณี

พระแม่โพสฬ

แล้วคิดดูแล้วมีข่าวออกมาว่ามีจังหวัดหนึ่งที่ไปทำพิธีเรียกขวัญพระแม่โพสฬในเวลาหน้าน้ำ แทนที่จะไหว้พระแม่คงคาให้ทรงเมตตากลับไม่ทำนั่นไหว้ผิดที่ผิดทางก็เป็นอย่างนี้ไง สรุป ต้องไหว้ให้หมดทุกที่ไม่ว่าจะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตย์อยู่ที่ประเทศไทย และเหนือกว่านั้น ท่านธรรมชาติ นั่นไง ส่งข่าวถึงคนนั้นอย่าออกนอกสถานที่อาคารบ้านเรือนแล้วกันจะบอกให้ เพราะยังมี พระสายฟ้าฟาดอสุนีบาติอยู่น๊ะเคยไหว้หรือเปล่าล่ะคงคิดไม่ได้ แล้วเวลากำลังสือสารแนบที่หูนี่ก็ระวังให้ดีคลื่นบัดสีอาจจะสื่อไปถึงโกลนหูได้ q*073

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
คิด น๊ะ คิด
เรทกระทู้
« ตอบ #208 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 12:47 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*061 คุณดีสฯ วันนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับโลกของเราใบนี้ โลกเรานี้มีประเทศรวมกันนี่ก็น ๑๙๓ ประเทศ แยกเป็น

ทวีปเอเซียมี ๔๘ ประเทศ
ทวีปยุโรปมี ๔๓ ประเทศ แยกเป็น แอฟริกาใต้มี ๑๓ ประเทศ
ทวีปออสเตรเลียมี ๑๔ ประเทศ
ทวีปแอฟริกามี ๕๓ ประเทศ
และยังมีประเทศที่ยังไม่มีการยอมรับอีก ๑๐ ประเทศ

ประเทศที่อาวุธนิวเคลียร์มีทั้งหมด ๘ ประเทศ มี อินเดีย ปากีสถาน จีน อังกฤา ฝรั่งเศส อิสราเอล สหรัฐ เกาหลีเหนือ

ระเบิดนิวเคลียร์ทั้งหมดมี ๓๑,๐๐๐ นัด มากกว่าสงครามโลกครั้งที่สองหลายหมื่นพันเท่านั้นหนาจะบอกให้(ข้อมูลจากกรูเกิลล์)

ตอนนี้เราก็มาดูว่าประเทศที่มีปัญหามักมากจากประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์อยู่กระนั้นได้ ซึ่งทั้งหมดนี้มีสหรัฐฯ ประเทศเดียวที่เป็นทวีปแปลกแยกไปไม่ติดกับทวีปอื่นใด แต่ไม่ทราบว่าเขากลัวอะไร กลัวประเทศอื่นรุกรานเขาหรือซึ่งก็มีมหาสมุทรแอตแลนติคกั้นขวางอยู่อย่างมากมาย แต่เขาข้ามฝั่งมามีปัญหากับเกาหลีเหนือ รัสเซีย อินเดีย ปากีสถาน แอฟริกา อิสราแอล ซึ่งทั้งหมดนี่มีนิวเคลียร์เป็นคู่แข่งขันกับเขาแทบทั้งสิ้นกระนั้นได้ ในฐานะที่เราเป็นประเทศสุ่มเสี่ยงนั้นหนาเราก็ต้องคิดให้ได้ว่าจะหนีนิวเคลียร์นี้ได้อย่างไรเพราะทุกชาติอยู่ในทวีปเดียวกับเรา ที่จะบอกเล่าถึงอนาคตข้างหน้าว่าจะคิดการณ์กันอย่างไร ที่จะทำให้ประเทศตัวเองเป็น พระปิดตา นี่จะทำได้ไหมนี่ถามหน่อยได้ไหม q*038q*034

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ข้าคิดไกลฯ
เรทกระทู้
« ตอบ #209 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 13:01 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*061 ความจริงเราไม่ต้องคิดก็ได้น๊ะเพราะว่าเป็นเพียงประเทศเล็ก ๆ ในภูมิภาคนี้ แต่คิดดูความยิ่งใหญ่นี่สิมันเกิดขึ้นได้อย่างไร เดินทางจากประเทศมองโลเลีย แล้วยังผ่านประเทศจีนลงมาได้ถึงสมรภูมิสุดท้ายคือประเทศไทยนี้คงไม่ใช่เรื่องธรรมดาแต่อย่างใด อยู่ในทวีปนี้ก็ไม่มีบทบาทอันใด มีพื้นที่อย่างมากมายก็มีชาติมาเบียดเบียกระนั้นได้ แบ่งสันปันส่วนก็เหลือเพียงขวานทองเล่มเดียวนี้ แต่ก็ยังมีประเทศพม่านี่มาเอาไปอีกนั่นคือเพลง พม่ารำขวาน
นี่หากไม่แย้งนี่ก็จะมาเอาประเทศไทยไปอีกล่ะสิที่จะคิดได้ อยากจะคิดผนวกกันหมดเลยมีญี่ปุ่นอยู่โน้นก็อยากจะมาผนวกกับไทย มีแต่คนอยากจะวิ่งเข้าหาประเทศไทยไม่รู้เป็นอย่างไรมันมีเสน่ห์ตรงไหน บอกว่ามีรอยยิ้ม พวกก็ขโมยไปอีกนั้นได้ไม่ให้ยิ้ม มีความสามัคคีพวกก็ทำให้แตกเสียนี่ไม่ให้มีความสามัคคีแต่อย่างใด แล้วจะเอาอะไรอีกล่ะที่ประเทศไทย มันเอาไปเสียหมดแล้ว ป้จจุบันจะคืนความสุขให้ประชาชนคนไทย แล้วประเทศไหนล่ะมันเอาไป หรือคนไทยขโมยกันไปเก็บเอาไว้ยิ้มกับพวกเดียวกันเท่านั้น ต่างพวกต่างสายพันธุ์ยิ้มให้กันไม่ได้ คือยิ้มให้เหมือนกัน แต่สะแหยะยิ้มให้กันนั้นคงจะได้ แต่ก็แปลกน๊ะสามารถรวมตัวกันอยู่ได้แม้จะไม่ถูกกัน แต่ก็ยังร่วมอยู่กันบนเรือลำเดียวกันได้ ไม่คิดโทษต่างชาติภาษาอีกน๊ะโทษคนไทยด้วยกันนั้นได้ เพราะหากโทษต่างชาติภาษาเดี๊ยวเขาจะบอมม์ให้นั้นหนากลัวกันอย่างมากมาย อยากจะถามว่าหากให้มีการเลือกตั้งของโลกใบนี้นั้นได้คิดว่าใครจะชนะ หากให้ดูในเรื่องชาด ติ พันธุ์ ๑๙๓ ประเทศนี้่น่ะแล้วให้เลือกผู้นำโลกมาเลือกตั้งกันนี่ คิดว่าใครจะได้รับการแต่งตั้งเป็น ผู้นำโลก อย่างแท้จริงกระนั้นได้ แค่ดูตัวเลขของชาติต่าง ๆ นั้น ประเทศไทยพ้นผ่านวิกฤติไปได้นั้นอย่างสบาย พวกที่กลัวอย่างก้นขวิดนั้นหนามันก็มหางอสระโอไม้เอกกระนั้นได้ q*061

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
คนคิดไกลฯ
เรทกระทู้
« ตอบ #210 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 13:10 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*061 ความจริงเราไม่ต้องคิดก็ได้น๊ะเพราะว่าเป็นเพียงประเทศเล็ก ๆ ในภูมิภาคนี้ แต่คิดดูความยิ่งใหญ่นี่สิมันเกิดขึ้นได้อย่างไร เดินทางจากประเทศมองโลเลีย แล้วยังผ่านประเทศจีนลงมาได้ถึงสมรภูมิสุดท้ายคือประเทศไทยนี้คงไม่ใช่เรื่องธรรมดาแต่อย่างใด อยู่ในทวีปนี้ก็ไม่มีบทบาทอันใด มีพื้นที่อย่างมากมายก็มีชาติมาเบียดเบียกระนั้นได้ แบ่งสันปันส่วนก็เหลือเพียงขวานทองเล่มเดียวนี้ แต่ก็ยังมีประเทศพม่านี่มาเอาไปอีกนั่นคือเพลง พม่ารำขวาน
นี่หากไม่แย้งนี่ก็จะมาเอาประเทศไทยไปอีกล่ะสิที่จะคิดได้ อยากจะคิดผนวกกันหมดเลยมีญี่ปุ่นอยู่โน้นก็อยากจะมาผนวกกับไทย มีแต่คนอยากจะวิ่งเข้าหาประเทศไทยไม่รู้เป็นอย่างไรมันมีเสน่ห์ตรงไหน บอกว่ามีรอยยิ้ม พวกก็ขโมยไปอีกนั้นได้ไม่ให้ยิ้ม มีความสามัคคีพวกก็ทำให้แตกเสียนี่ไม่ให้มีความสามัคคีแต่อย่างใด แล้วจะเอาอะไรอีกล่ะที่ประเทศไทย มันเอาไปเสียหมดแล้ว ป้จจุบันจะคืนความสุขให้ประชาชนคนไทย แล้วประเทศไหนล่ะมันเอาไป หรือคนไทยขโมยกันไปเก็บเอาไว้ยิ้มกับพวกเดียวกันเท่านั้น ต่างพวกต่างสายพันธุ์ยิ้มให้กันไม่ได้ คือยิ้มให้เหมือนกัน แต่สะแหยะยิ้มให้กันนั้นคงจะได้ แต่ก็แปลกน๊ะสามารถรวมตัวกันอยู่ได้แม้จะไม่ถูกกัน แต่ก็ยังร่วมอยู่กันบนเรือลำเดียวกันได้ ไม่คิดโทษต่างชาติภาษาอีกน๊ะโทษคนไทยด้วยกันนั้นได้ เพราะหากโทษต่างชาติภาษาเดี๊ยวเขาจะบอมม์ให้นั้นหนากลัวกันอย่างมากมาย อยากจะถามว่าหากให้มีการเลือกตั้งของโลกใบนี้นั้นได้คิดว่าใครจะชนะ หากให้ดูในเรื่องชาด ติ พันธุ์ ๑๙๓ ประเทศนี้่น่ะแล้วให้เลือกผู้นำโลกมาเลือกตั้งกันนี่ คิดว่าใครจะได้รับการแต่งตั้งเป็น ผู้นำโลก อย่างแท้จริงกระนั้นได้ แค่ดูตัวเลขของชาติต่าง ๆ นั้น ประเทศไทยพ้นผ่านวิกฤติไปได้นั้นอย่างสบาย พวกที่กลัวอย่างก้นขวิดนั้นหนามันก็มหางอสระโอไม้เอกกระนั้นได้ q*061

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #211 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 13:14 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เชื้อระบบทางเดินหายใจระบาดสหรัฐฯ เด็กป่วยนับพัน
โพสต์เมื่อ : 9 กันยายน 2557 เวลา 10:40:15
สุขภาพดีได้ทุกที่ ทุกเวลา บทความสุขภาพทางมือถือ คลิกที่นี่

เชื้อระบบทางเดินหายใจระบาดสหรัฐฯ เด็กป่วยนับพัน
เชื้อระบบทางเดินหายใจระบาดสหรัฐฯ เด็กป่วยนับพัน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก wtvr.com

เชื้อเอนเทอโรไวรัส ดี 68 ทำเด็กอเมริกันนับพันคนล้มป่วย

เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2557 เว็บไซต์วอชิงตันโพสต์ รายงานว่า เด็กชาวอเมริกันนับพันคนในไม่ต่ำกว่า 10 รัฐทั่วสหรัฐฯ พากันล้มป่วยจากการติดเชื้อเอนเทอโรไวรัส ดี 68 (Enterovirus D68) ซึ่งส่งผลให้พวกเขามีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น มีอาการคล้ายหอบหืด อย่างไรก็ดียังไม่มีรายงานเด็กเสียชีวิตจากไวรัสดังกล่าว

รายงานระบุว่า รัฐที่มีการระบาดของไวรัสตัวนี้ ได้แก่ มิสซูรี, โคโลราโด, อิลลินอยส์, นอร์ท แคโลไรนา, จอร์เจีย, โอไฮโอ, ไอโอวา, แคนซัส, โอคลาโฮมา และเคนตักกี เด็ก ๆ นับพันรายพากันล้มป่วยโดยมีอาการไข้ ไอ และน้ำมูกไหล ก่อนจะแสดงอาการผิดปกติเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มียารักษาและไม่มีวัคซีนตัวใดป้องกันโรคนี้ได้ แต่จะหายเองได้

เชื้อระบบทางเดินหายใจระบาดสหรัฐฯ เด็กป่วยนับพัน

โดยในรัฐมิสซูรี พบว่าโรงพยาบาลแห่งหนึ่งต้องรักษาเด็กที่ป่วยด้วยเอนเทอโรไวรัส ดี 68 มากกว่า 300 คน และในจำนวนนี้กว่า 45 คน ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ดี ในที่สุดแล้วเด็ก ๆ จะดีขึ้น

ทั้งนี้ปัจจุบันมีเชื้อเอนเทอโรไวรัสอยู่มากกว่า 100 ชนิด และทำให้เด็ก ๆ ชาวอเมริกันกว่า 15 ล้านคนล้มป่วยในแต่ละปี

อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นทางการได้ประกาศระวังการล้มป่วยจากเชื้อเอนเทอโรไวรัส ดี 68 ด้วยการล้างมือบ่อย ๆ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย


กระปุกดอทคอม

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #212 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 13:15 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ StormChasingVideo , Dusty Beard Photography สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

เผยคลิปพายุทรายขนาดมหึมาพัดถล่มเมืองฟินิกซ์ รัฐแอริโซนาของสหรัฐฯ ฝุ่นคลุ้งทั่วเมืองทำลายทัศนวิสัย เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับผลกระทบ

เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2557 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า เกิดพายุฝุ่นทรายลูกใหญ่ เข้าพัดถล่มเมืองฟินิกซ์ รัฐแอริโซนาของสหรัฐอเมริกา โดยก่อตัวขึ้นเป็นแนวยาวตามเส้นขอบฟ้าและเคลื่อนตัวเข้าปกคลุมหลายพื้นที่ของเมืองฟินิกซ์

รายงานระบุว่า เหตุดังกล่าวนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา โดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ ต้องประกาศเตือนภัยพายุฝุ่นทรายในพื้นที่เมืองฟินิกซ์ ซึ่งจะก่อให้เกิดทัศนวิสัยที่เลวร้าย ก่อนที่จะประกาศยกเลิกคำเตือนในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา หลังพายุฝุ่นทรายคลายความรุนแรง และเคลื่อนตัวออกจากเมืองฟีนิกซ์ อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานผู้ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเหตุการณ์นี้


กระปุกดอทคอม
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #213 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 13:18 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เชื้อระบบทางเดินหายใจระบาดสหรัฐฯ เด็กป่วยนับพัน



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #214 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 13:31 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เหยื่ออีโบลาพุ่ง 2,000 ราย WHO แนะใช้เลือดผู้รอดชีวิตรักษาผู้ป่วย



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบจาก DOMINIQUE FAGET / AFP

อีโบลาระบาดหนัก ยอดผู้เสียชีวิตทะลุ 2,000 รายแล้ว WHO แนะเลือดผู้รอดชีวิตเอามาช่วยรักษาผู้ป่วยได้

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2557 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า เชื้ออีโบลาระบาดหนักในแอฟริกาตะวันตก คร่าชีวิตผู้ป่วยทะลุ 2,000 คนแล้ว องค์การอนามัยโลกเตรียมใช้เลือดผู้รอดชีวิตจากอีโบลามารักษาผู้ป่วยอีโบลาด้วยกันเอง

รายงานระบุว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) เร่งหาวิธีรักษาอีโบลา เล็งใช้เลือดของผู้ป่วยที่รอดชีวิตจากอีโบลา มารักษาผู้ป่วยอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก โดยทางทฤษฎีระบุว่า ร่างกายของคนเราจะหลั่งสารภูมิคุ้มกัน หรือ แอนตี้บอดี้ ออกมาเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นผู้ป่วยที่รอดชีวิตจากเชื้ออีโบลา แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีภูมิคุ้มกันดังกล่าว จึงมีความเป็นไปได้ที่จะนำสารภูมิคุ้มกันจากเลือดของผู้รอดชีวิตไปฉีดในร่างกายของผู้ป่วย เพื่อให้สารภูมิกันต่อสู้กับเชื้ออีโบลา

องค์การอนามัยโลกเผยว่า แม้งานวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวิธีการรักษาด้วยสารภูมิคุ้มกันผู้รอดชีวิตนี้ ยังคงแคบเกินไป โดยจากการวิจัยในปี 1995 ซึ่งมีการระบาดของเชื้ออีโบลาในสาธารณรัฐคองโก พบว่าผู้ป่วย 7 ใน 8 ราย รอดชีวิตหลังจากได้รับสารภูมิคุ้มกันจากผู้รอดชีวิต แต่วิธีการรักษาดังกล่าวก็น่าจะมีประสิทธิภาพสูง ขณะที่ตอนนี้ก็มีผู้รอดชีวิตจากเชื้ออีโบลาหลายรายแล้ว พวกเขาสามารถบริจาคเลือดเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยได้

ส่วนเรื่องวัคซีนรักษาอีโบลานั้น ขณะนี้คณะวิจัยจากหลายแห่งยังคงอยู่ในขั้นทดลองยา โดยผู้เชี่ยวชาญกว่า 150 คน ได้ใช้เวลา 2 วันที่ผ่านมาในการดำเนินเรื่องเพื่อนำยาทดลองมาใช้กับผู้ป่วยอย่างเร็วที่สุด และน่าจะนำมาใช้ได้ทันเดือนพฤศจิกายนนี้

ทั้งนี้สำหรับสถิติผู้เสียชีวิตจากเชื้ออีโบลาล่าสุด องค์การอนามัยโลกเปิดเผยเมื่อวันที่ 5 กันยายนว่า ตอนนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2,105 ราย โดยประเทศที่มีการเสียชีวิตจากเชื้ออีโบลามากที่สุดยังคงเป็นไลบีเรีย ด้วยตัวเลขผู้เสียชีวิต 1,089 ราย รองลงมาคือ กินี 517 ราย, เซียร์ราลีโอน 491 ราย และไนจีเรีย 8 ราย

กระปุกดอทคอม

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ถาม......
เรทกระทู้
« ตอบ #215 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 13:31 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*061 คุณดีสฯ แค่ ๑๙๓ ประเทศนี่รู้สึกมันจิ๊บจ๊อยน่ะนี่สำหรับประเทศไทย เพราะหากคิดนี่คนที่อยู่ในประเทศไทยนี้มันเกินพิกัดแล้วน๊ะนี่จะบอกให้ที่เดินทางเข้าออกเป็นว่าเล่น ๑๙๓ ประเทศนี่ไม่เป็นพิษภัยต่อประเทศไทยเลยกระนั้นได้ เพราะทุกชาดติพันธุ์มาอยู่ไทยนั้นแสนสุขสบายใครจะทำอะไรก็ได้แต่ต้องอยู่ภายใต้กฏหมายไทย ทุกชาติมีความสุขน๊ะเราถึงว่าการผลิตเสื้อผ้าที่มีสีสันสดใสยังเผื่อแผ่ไปถึงประเทศแอฟริกาที่เขาก็ชื่นชอบอีกนั้นได้ ทำใส่เสื้อผ้าเหมือนดั่งเป็นเมืองขึ้นของอเมริกาไม่รู้สิน่ามันคิดยังไง ให้ไปดุหนังมนต์รักลูกทุ่งนั่นมันคือกำพืดของไทย ทำเป็นใส่เสื้อขมุกขมัวกลัวจะไม่ใช่สีผู้ดีแต่อย่างใด แล้วมันยกย่องไทยให้เป็นผู้ดีไหมนั่นโง่สะบั้นกับต่างชาติภาษาเขาร่ำไป ไม่รู้เป็นไง ก็ไม่รู้สิน๊ะเป็นคำตอบหรืออย่างไร หัดใช้สมองที่มีปัญหาคิดหาทางออกให้กับประเทศตัวเองเสียบ้างมิใช่จะเดินตามก้นฝรั่งมังค่านั้นที่ก็หาคุณค่าสาระประโยชน์อันใดไม่ได้ เห็นแก่ตัวก็อันดับหนึ่งและยกระดับขึ้นไปทุกวันแต่ที่ไทยก็กดให้ตกต่ำด้วยกดระดับให้มันต่ำอย่างอย่าโงหัวขุึ้นมานั้นได้ เฮ๊ย! ประเทศของข้ามิได้แพ้สงครามเหมือนชาติยุ่นนั้นหนาจะบอกให้ แล้วยุ่นมาเกี่ยวอะไรกับประเทศของข้าที่มิได้มีปัญหากับชนชาติใด คิดกันให้ตกสะเก็ดเสียบ้างสิสมองนี่เอาไว้คิดให้ชนชาติใดหากไม่ใช่ประเทศไทย q*061

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
งง อ่ะ!
เรทกระทู้
« ตอบ #216 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 13:34 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*061 มีชาติใดเขาสงสารไหมล่ะแต่ต้องเอาน้ำรดหัวก่อนน๊ะถึงจะให้เงินกระนั้นได้ ยังมีข้อแม้อีกน๊ะให้อย่างไม่ต้องมีข้อแม้ไม่ได้ ถึงอย่างไรก็ต้องแข่งขันกันก่อนแหละถึงจะได้เงินมานั่นใช่ไหม ผิดกับไทยเขาบอกว่า หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ แต่นี่ยกน้ำรดหัวเลย รอให้หลั่งมาเองมันช้าเกินไป มันต้องแข่งขันแม้กระทั่งจะบริจาคนั่นก็ยังจะแข่งขันกันอีกจนหยดสุดท้าย ซวด ซวด q*061

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
อยากจะถาม!
เรทกระทู้
« ตอบ #217 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 13:39 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*073 คุณดีสฯ เราดูปรเทศไทยเหมือนดูลิเกที่พระเอกรบกับผู้ร้ายรบแล้วถอยร่นลงมาถึงประเทศไทย แล้วยืนรบกับอ้ายพวกผู้ร้ายแบบชนิดที่ว่ามันท้าพนันขีดวงกลมให้อีกน๊ะว่าหากมันรบออกนอกวงกลมนี่เองต้องแพ้น๊ะจะบอกให้ ไทยก็ต้องยืนรบกับพวกมันอยู่อย่างนี้จะออกนอกวงกลมนี้ไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่พวกมันที่มารบกับไทยมันก็ไม่มีอะไรดีสักกะอย่าง ก็ยังทำตามกฏกติกาของมันอยู่นั้นได้ ออกนอกวงไม่ได้น๊ะหากออกนั้นน่ะเองแพ้น๊ะคิดอยู่อย่างนี้ทุกวันไป ทำอะไรก็ต้องให้อยู่ในกรอบของพวกต่างชาติภาษามันหากรบออกนอกวงกลมนั้นพวกเองแพ้กระนั้นใช่หรือไม่ q*061

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #218 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 16:15 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ช็อค!! น้ำถล่มบ้านผาหมี ใช้เวลาแค่10นาที (ชมคลิป)



วานนี้( 8 ก.ย.) เฟสบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า ใบเฟิร์นนน นน. ได้นำคลิปเหตุการณ์น้ำป่าไหลท่วม บ้านผาหมี 22 ม.6 ใช้เวลาแค่ 10นาที มาโพสต์ เพื่อบอกเล่าถึงเหตุการณ์น้ำไหลหลากเข้าท่วมบ้านอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่นาที



ผู้เป็นพ่อที่เป็นคนถ่ายคลิป ถึงกับสะอื้นไห้ ถ่ายคลิปไปก็ร้องไห้ไป เพราะกลั้นน้ำตาไม่ไหว เข่าอ่อน เมื่อเห็นมวลน้ำไหลบ่าเข้าถล่มบ้านพังอย่างรวดเร็ว เพียงใช้แค่10นาที รถที่ใช้งานก็นำออกมาได้แค่ 1 คัน นอกนั้นโดนน้ำท่วมหมดไม่เหลืออะไรเลย เหตุการณ์ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาในครั้งนี้ จึงเป็นสาเหตุให้ถึงกับร้องให้ออกมา

สรุปน้ำท่วมสุโขทัย ตาย 2 ศพ เดือดร้อนกว่า 2 หมื่นคน

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมสุโขทัยตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย. 57 จนถึงวันที่ 7 ก.ย. 57 รวม 4 วัน มีพื้นที่ประสบภัยใน 8 อำเภอ 46 ตำบล 243 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 2 หมื่นคน นาข้าวจมน้ำหลายพันไร่ ถนนเสียหาย 2 สาย มีคนตาย 2 คน พนังกั้นน้ำยมพัง

น้ำท่วมสุโขทัย


สำหรับเส้นทางที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยขณะนี้ ได้แก่ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 ตอนแยกโตโยต้า-ศรีสัชนาลัย (บริเวณหน้าการประปาฯ สุโขทัย) น้ำแห้งหมดแล้วการจราจรผ่านได้ตามปกติ และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 0095 ตอน สวรรคโลก–สุโขทัย (สายสุโขทัย – วังไม้ขอน) มีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 20 เซนติเมตร การจราจรผ่านได้ 1 ช่องทางจราจร

ทั้งนี้ ทางจังหวัดสุโขทัยได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยจังหวัดสุโขทัย ที่ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดสุโขทัย โทรศัพท์ 055-616236-9 และที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง

MThai News

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #219 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 16:46 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อินเดีย - ปากีสถานเร่งช่วยเหยื่อน้ำท่วม
เรื่องโดย Nation TV
วันที่ 8 กันยายน 2557 13:13 น.60 views
ทางการอินเดียและปากีสถานเร่งช่วยเหลือประชาชน ที่ยังติดอยู่ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม หลังยอดผู้เสียชีวิตในสองประเทศพุ่งสูงขึ้นเป็นเกือบ 350 คนแล้ว

ทหารอินเดียพยายามช่วยเหลือประชาชนหลายพันคน ที่ติดอยู่ในพื้นที่ประสบภัยอุทกภัยในแคว้นจัมมูแคชเมียร์ ที่เป็นอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 50 ปี ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 150 คน และทำให้เมืองศรีนคร ซึ่งเป็นเมืองเอกของแคชเมียร์ในฝั่งที่อยู่ภายใต้การปกครองของอินเดีย อยู่ในสภาพจมน้ำ

หมู่บ้านราว 350 แห่งจมอยู่ในน้ำ นับตั้งแต่เกิดฝนตกหนักในฤดูมรสุม ทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม นอกจากนี้น้ำในแม่น้ำเชลุมเอ่อเข้าท่วมหลายพื้นที่ของเมืองศรีนคร เมื่อวันอาทิตย์ ทำให้ประชาชนต้องหนีขึ้นไปอยู่บนหลังคา จนถึงขณะนี้ทหาร, ตำรวจและบุคลากรฉุกเฉินหลายพันนาย ที่สนับสนุนโดยเรือ 7 ลำและเฮลิคอปเตอร์ 25 ลำสามารถช่วยอพยพประชาชนออกมาได้แล้ว 14,800 คน

นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ได้ลงพื้นที่ประสบภัย และเปรียบเทียบว่าเป็นหายนะระดับชาติ นอกจากนี้เขาได้ส่งจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีนาวาซ ชารีฟ ของปากีสถาน แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหยื่ออุทกภัยและเสนอให้ความช่วยเหลือด้านการบรรเทาทุกข์
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดปันจาบและจังหวัดแคชมียร์ในฝั่งที่ปากีสถานปกครอง มีผู้เสียชีวิตแล้ว 193 คน หมู่บ้าน 108 แห่งและพื้นที่เกษตรได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่กองทัพเร่งช่วยผู้ประสบภัยออกจากบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วม ด้านนายกรัฐมนตรีนาวาซ ชารีฟ ได้ลงตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัย และให้ความมั่นใจแก่ประชาชนอย่างจะให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทั่วถึง นอกจากนี้กระทรวงต่างประเทศปากีสถานออกแถลงการณ์แสดงความพร้อมให้ความช่วยเหลืออุทกภัยในอินเดียด้วยเช่นกัน

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
นี่ก็อีกรูปแบบหนึ่ง!
เรทกระทู้
« ตอบ #220 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 16:55 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*061 คุณดีสฯ นี่ก็เหมือนกันน๊ะหมดไปพันกว่าบาทเขาเหมือนกระตุ้นการขายทีวี เครื่องใช้ไฟฟ้า กันหรือเปล่าน๊ะแปลกจริงน๊ะน่าสงสัย คือผลไม้ราคาตกไง แต่ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าต้องไม่ตกใช่ไหมล่ะแล้วตอนนี้ไง อยู่กับพวกทุนนิยมนี่ต้องคิดหนักเพราะว่าเงินในกระเป๋าไม่ได้หนักเหมือนกับที่จะให้ไปในทิศทางเดียวกันได้ หากเป็นเยี่ยงนี้กันทุกบ้านจะเป็นอย่างไร เพราะว่ามันน่าแปลกใจเพิ่งซื้อมาไม่ถึงสิบปีน๊ะไม่น่าจะเป็นไปได้ อย่างทีวีซื้อมาก็แค่ห้าปีกว่า ๆ น๊ะมันเสียได้อย่างไร พร้อมกับเครื่องซักผ้ารับประกันสิบปีซื้อมาแค่สามปีเองน๊ะนี่ที่จะบ่งชี้ถึงความเป็นไปที่เหมือนกันเลยน๊ะ หากเป็นทั้งครอบครัวประเทศไทยจะเป็นอย่างไร มิต้องซื้อใหม่กันหมดหรือแล้วจะเอาเงินจากที่ไหน หนี้ครัวเรือนก็มากยากที่จะแก้ไข หากมีเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเสียหายอีกนี่โดยที่ไม่ได้มีภัยพิบัติใด ๆ นี่จะให้คิดอย่างไร มีการป้องกันแก้ไขกันไหมนี่ที่บ้านนี่หมดไปห้าหมื่นกว่าบาทแล้วที่จะต้องซื้อใหม่หมดนี่จะให้ทำอย่างไร q*061

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
สัจจธรรม!
เรทกระทู้
« ตอบ #221 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 17:02 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*064 คุณดีสฯ ก็ดีไปอย่างไม่ต้องมานั่งคิดสู้รบกันอย่างไร สู้กับภัยพิบัติกันให้จงได้ เพราะว่ามนุษย์คือคนที่อยู่อาศัยไม่มีความพอเพียงกันนั้นไง แล้วเป็นไงตัดต้นไม้กันไปปลูกสร้างบ้านกันยกใหญ่ แล้วน้ำก็มาพัดพาเอาบ้านเอาไม้ที่ปลูกนั้นพังทลายไป แทนที่จะอยู่กันอย่างพอเพียงไม่ต้องแข่งขันอยู่กันแบบคิดว่าหาไปตัดไม้ทำลายป่าพวกเราก็อยู่กันไม่ได้ แล้วเกิดเรื่องแบบนี้จะมานั่งคิดกันใหม่ไหมที่จะไม่ไปตัดไม้ทำลายป่ากัน นี่แค่ ๑๐ ยังมากไปมัีงอีกหน่อยนั่นแค่โคลมเดียวกระมังไม่มีเวลาถ่ายคลิปนั่นหรอกจะบอกให้ เพราะว่ามันจะรุนแรงมากกว่าที่เป็นอยู่ได้ เพราะกว่าต้นไม้จะเติบโตขึ้นมาต้องใช้เวลานานสักแค่ไหน ตอนนี้ที่ทำได้ก็ไปปลูก หญ้าแฝก กันดีกว่า แต่ก็อย่างว่าอีกน๊ะไปแย่งกันซื้อ หญ้ารีแพร์ กันยกใหญ่ ลืม หญ้าแฝกไปเสียกระนั้นก็นี่นั่นแหละมนุษย์ไง คงจะช่วยอะไรไม่ได้เพราะพวกเราทำกันเอาไว้ตอนที่ไม่เกิดผลก็ไม่คิดอะไร แต่พอเกิดขึ้นนั้นก็มานั่งเสียใจกันอยู่นี่ไง q*061

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
มโนไง!
เรทกระทู้
« ตอบ #222 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 17:07 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*061 ถ้าหากยังไม่หยุดก่อสร้างกันนั้นหนารับรองว่ายังไม่พ้นภัย มีเงินก็หันมาก่อสร้างบ้านโดยไม่คิดอ่านว่ามันจะไปทำลายหน้าดินทำให้แผ่นดินต่ำไปกว่าพื้นน้ำกันนั้นไหม มีข้อคิดอย่างหนึ่งว่าที่อินเดียน้ำทะเลหนุนมากกว่าที่ประเทศไทยเพราะเป็นพื้นดินที่ยื่นลงไปในทะเลมากกว่าที่ไทย ส่วนประเทศไทยอนุมานว่า แผ่นดินจะยกสูงขึ้นไหมหนาเพราะว่าน้ำลงเร็วมากน๊ะจะบอกให้

หรือว่าการสั่นไหวของแผ่นดินที่เชียงรายจะไปกระทบถึงกันโดยทำให้พื้นผิวดินนั้นส่วนหนึ่งยกตัวสูงขึ้น อีกประเทศหนึ่งยกตัวต่ำลงกระนั้นได้ หากเป็นเยี่ยงนั้น ความดีของประเทศไทยนั้นก็เห็นเร็วฉับพลันสิใช่ไหม นี่แสดงว่าประเทศไทยพื้นผิวดินคงจะยกตัวสูงขึ้นจากแผ่นดินที่สันนั้นก็อาจจะเป็นได้ q*061

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
คิดแล้วอย่าทำ!
เรทกระทู้
« ตอบ #223 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 17:31 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*061 คุณดีสฯ มาเตือนคนที่อยากจะทำลายข้าวของประชาชนให้เสียหายเพื่อที่จะได้ซื้อหามาใหม่กันนี่รับรองว่าขายดีแต่อาจจะถูกชักดาบได้ และที่จะทำให้ข้าวของเสียหายเพื่อประหยัดไฟฟ้าของไทยอีกนี่เพื่อนำไปขายก็ต้องบอกว่าความคิดเยี่ยงนี้หนาไม่น่าให้อภัยและมีอีกหลายอย่างหลายประการที่จะบ่งบอกว่าหากข้าอยู่ไม่สบายพวกเองก็อย่าได้สบายไปด้วยนั้น ก็ต้องคิดค้นหาวิธีป้องกันเอาไว้ให้จงได้ เพราะตอนนี้มันเสมือนน้ำนิ่ง ไหลลึกไง เราไม่สามารถที่จะคาดเดาสถานการณ์ต่าง ๆ นั้นได้ แต่อยากจะบอกว่าอย่าทำให้ประชาชนเดือดร้อนนั้นหนาเพราะว่าจะอยู่กันอย่างไม่เป็นสุขกระนั้นได้ q*061

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ทำใจ!
เรทกระทู้
« ตอบ #224 เมื่อ: 9 ก.ย. 14, 17:40 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*064 มาร้องเพลงนี้กันดีกว่าประเทศไทย โลกใบนี้ชักจะไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ สู้หันมาเรียกสติกันดีกว่าในไทย เพราะว่าหากมีสตินั้นไซร้ก็สามารถสู้กับปัญหาต่าง ๆ นั้นได้

แสงเทียน
SAENG TIEN

ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช
คำร้อง: พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ

จุดเทียนบวงสรวงปวงเทพเจ้า
สวดมนต์ค่ำเช้าถึงคราวระทมทน
โอ้ชีวิตหนอล้วนรอความตายทุกคน
หลีกไปไม่พ้นทุกข์ทนอาทรร้อนใจ
ต่างคนเกิดแล้วตายไป
ชดใช้เวรกรรมจากจร


นิจจังสังขารนั้นไม่เที่ยงเสี่ยงบุญกรรม
ทุกคนเคยทำกรรมไว้ก่อน
เชิญปวงเทวดาข้าไหว้วอน
ขอพรคุ้มไปชีวิตหน้า
ทนทรมานมามากแล้วจะกราบลา
หนีปวงโรคาที่เบียดเบียน


แสงแววชีวาเปรียบแสงเทียน
เปรียบเทียนสิ้นแสงยามแรงลมเป่า
ชีพดับอับเฉาเหมือนเงาไร้ดวงเทียน
จุดเทียนถวายหมายบนบูชาร้องเรียน
โรคภัยเบียดเบียนแสงเทียนทานลมพัดโบย
โรครุมเร้าร้อนแรงโรย
หวนโหยอาวรณ์อ่อนใจ


ทำบุญทำทานกันไว้เถิดเกิดเป็นคน
ไว้เตรียมผจญชีวิตใหม่
เคยทำบุญทำคุณปางก่อนใด
ขอบุญคุ้มไปชีวิตหน้า
ทนทรมานมามากแล้วจะกราบลา
แสงเทียนบูชาจะดับพลัน
แสงเทียนบูชาดับลับไป q*064



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 ... 36

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม