มาเลเซีย20 ปีที่ผ่านมา เขาโต 6.2 เราโต 4.5 แล้วมหาเธร์ฯ นายกรัฐมนตรีของมาเลเซียประกาศตั้งแต่ปี 2533 จะเป็นประเทศพัฒนา ประชาชนทุกคนมีรายได้ 15,000 เหรียญสหรัฐ พอปี 2553 นายกฯ ราจิบ ราซะก์ บอกไม่พอต้องปฏิรูปอีกรอบเพื่อให้เป็นประเทศพัฒนาภายในปี2563ซึ่งวิธีปฏิรูปของเขาเป็นสิ่งที่ไทยต้องเรียนรู้อย่างยิ่ง เพราะมาเลเซียมียุทธศาสตร์ชัดเจน นายกฯ ราจิบ ไปเชิญรองประธานเชลล์ Dato Sri Idris Jala มา Turn Around ประเทศ มีการทำKPIเป็นข้อๆ กำหนดไว้เลยต้องมีการจ้างงาน 3.3 ล้านตำแหน่ง ต้องมีการลงทุน 14 ล้านล้านบาท แยกชัดเจนว่า อุตสาหกรรมลงทุนจำนวนเท่าไร เอกชน รัฐบาลลงทุนเท่าไร การศึกษาจะปฏิรูปใน8 ขั้นตอนชัดเจนเขาบอกตอนนี้ 2561 เขาเป็นประเทศพัฒนาแล้วได้แน่ ตอนนี้ทุกวันศุกร์ รัฐมนตรีทุกคนส่งข้อมูลKPI ผ่านไอแพดนายกฯ สามารถเรียกดูได้ตลอด ไปดูเวบไซต์ของเขาPEMANDU ข้อมูลเป๊ะ มาเลเซียตอนนี้ไม่ต้องพูดถึง เมื่อปี 2533 ตอนประกาศจะเป็นประเทศพัฒนาแล้ว รายได้ประชากรของเขา 70,000 บาทต่อปีไทย 50,000 บาทต่างกัน 20,000บาท ตอนนี้ไทย180,000 มาเลเซีย 340,000ต่างกัน 160,000 นี่คือผลที่ประเทศไม่มียุทธศาสตร์และทิศทางที่แน่นอน
เวียดนามวันนี้ประเทศต้องการส่งเสริมการลงทุน รัฐบาลเป็นสังคมนิยมก็จริง แต่บริหารเศรษฐกิจแบบตลาดเสรี วันนี้เวียดนามใช้ระบบผู้ว่าฯ ซีอีโอ ผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัดมีอำนาจตัดสินใจต่อรองกับเอกชนได้ ภายใต้กรอบที่รัฐบาลใหญ่ให้ เช่น ลดภาษีได้ภายใต้กรอบได้เท่านี้ จะพัฒนาถนนหนทางอย่างไร ตอนนี้เวียดนาม ถนนนิคมกว้าง 10 เลน ใหญ่ยิ่งกว่าไฮเวย์บ้านเรา แล้วแบ่งเป็นโซนที่อยู่อาศัย โซนโรงเรียน มีโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ไปตั้งรอ มีบริการแบบ ONE Stop Service ผู้ว่าฯ ดูแลหมด คอรัปชั่นเวียดนามดูเหมือนเยอะ แต่นักธุรกิจไทยที่ไปลงทุนในเวียดนามบอกว่า เวียดนามเรื่องเล็กๆ เอา แต่เรื่องใหญ่ไม่มีใครกล้าเอา เพราะฉะนั้นตัวเลขคอรัปชั่นเหมือนแย่กว่าเรา แต่ในเรื่องนโยบายเขาไม่กล้า เพราะฉะนั้นนักลงทุนก็กล้าไปลงทุกวันมากกว่า