กระแสสังคมกรณี "น้องคาร์เมน" หรือคนไทยอยากจะเห็นการอุ้มบุญเชิงพาณิชย์?

[เมื่อ:]

ที่มา มติชนออนไลน์ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1446449092

โดย อดิเทพ พันธ์ทอง

ยังไม่จบง่ายๆ สำหรับคดีการแย่งสิทธิในตัว "น้องคาร์เมน" เด็กที่เกิดจากการอุ้มบุญหรือการตั้งครรภ์แทน ระหว่างคู่รักเพศเดียวกัน กอร์ดอน เลก ชาวอเมริกัน และ มานูเอล ซานโตส สามีชาวสเปน กับ ออย แม่อุ้มบุญชาวไทย ซึ่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลางได้กำหนดสืบพยานในคดีดังกล่าวอีกครั้งในเดือนมีนาคมปีหน้า

ขณะเดียวกันคนไทยจำนวนมากได้แสดงออกถึงความรู้สึกเห็นอกเห็นใจคู่รักเกย์คู่นี้ ทั้งคอยติดตามและให้กำลังใจทั้งคู่อย่างล้นหลาม เห็นได้จากเฟซบุ๊ก Bringcarmenhome ที่มีผู้ติดตามนับแสน และมีแฟนเพจคอยอัพเดตสถานการณ์ตลอดเวลา นอกจากนี้ ยังมีผู้ลงชื่อรณรงค์สนับสนุนการให้น้องคาร์เมนอยู่ในความปกครองคู่รักคู่นี้บนเว็บไซต์ change.org อีกกว่า 1.6 แสนรายชื่อ แม้จะไม่อาจระบุได้ว่า ผู้ที่ลงชื่อเป็นคนไทยเท่าไหร่ แต่ก็พอเห็นได้ว่า คนไทยไม่น้อยเห็นด้วยกับการกระทำของคู่รักเพศเดียวกันคู่นี้ ที่ว่าจ้างให้หญิงไทยตั้งครรภ์บุตรของตัวเอง ซึ่งเข้าลักษณะเป็น "สัญญาจ้างทำของ" โดยของที่เป็นสาระสำคัญของสัญญาในกรณีคือ "ทารก"

เมื่อพิจารณาว่า สัญญาที่ทำการว่าจ้างผลิตกันในครั้งนี้คือ "ชีวิตของมนุษย์" จึงมีประเด็นของศีลธรรมมาเกี่ยวข้องอย่างเลี่ยงไม่ได้ หลายประเทศไม่ยอมรับการว่าจ้างตั้งครรภ์แทนในลักษณะนี้ด้วยเหตุผลด้านศีลธรรม เช่นเดียวกับประเทศไทยที่เพิ่งออกกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ที่บัญญัติห้ามมิให้ผู้ใดดําเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้า โดยผู้ฝ่าฝืนอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี แต่ด้วยหลักประกันด้านสิทธิเสรีภาพ ทำให้กฎหมายอาญาไม่มีผลย้อนหลัง ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์ "น้องคาร์เมน" ขึ้นมาจึงไม่มีความผิด

กฎหมายฉบับดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ในสายตาของผู้มีอำนาจในการออกกฎหมายของไทยยังคงเชื่อว่า ชีวิตของมนุษย์ไม่อาจถูกนำมาใช้เป็นสินค้าได้โดยไม่มีข้อยกเว้น อีกทั้งไม่เปิดโอกาสให้กับคนโสด หรือคู่รักเพศเดียวกันที่จะมีลูกโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ขัดกับกระแสสังคมที่น่าจะอยากเห็นการอุ้มบุญเพื่อประโยชน์ทางการค้า และการเปิดโอกาสให้กับชาวเกย์มีลูกตามสายเลือดของตน

แต่ด้วยโครงสร้างทางกฎหมายในปัจจุบันทำให้คู่รักชาวเกย์คู่นี้อยู่ในสถานะที่เสียเปรียบทุกๆ ด้าน เนื่องจากสัญญาว่าจ้างตั้งครรภ์แทนของพวกเขาย่อมถูกมองว่าขัดต่อศีลธรรม ทำให้สัญญาตกเป็นโมฆะไม่อาจบังคับได้ แม้ในขณะที่พวกเขาทำการว่าจ้างจะไม่ได้มีกฎหมายห้ามไว้ชัดเจนก็ตาม และแม้ว่า น้องคาร์เมนจะเป็นสายเลือดทางพันธุกรรมของพวกเขา แต่ "แม่ผู้ให้กำเนิด" ในกรณีนี้คือ "ออย" ยังมีสถานะทางกฎหมายที่เหนือกว่า เนื่องจากกฎหมายไทยถือว่า "เด็กเกิดจากหญิงใดก็ย่อมเป็นบุตรของหญิงนั้น เว้นแต่จะบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น"

ด้วยเหตุนี้ ชะตากรรมของน้องคาร์เมนที่แม้จะยังอยู่ในการพิจารณาของศาลเยาวชนและครอบครัว แต่โอกาสที่เด็กจะได้ใช้ชีวิตกับพ่อทางพันธุกรรมยังคงต้องอาศัยความยินยอมของแม่ผู้ให้กำเนิดต่อไป ซึ่งหลายคนมองว่าไม่ยุติธรรม เพราะแม่ผู้ให้กำเนิดไม่มีความเชื่อมโยงใดๆ ทางสายเลือด แต่หากมองให้ลึกลงไปจะเห็นได้ว่าแม่ผู้ให้กำเนิดคือผู้ที่รับภาระตั้งท้องเป็นระยะเวลานานถึงเก้าเดือน แม้จะไม่ได้ผูกพันด้วยสายเลือด แต่ก็มีความผูกพันทางกายภาพยิ่งกว่าคนที่เป็นเจ้าของเซลล์ต้นกำเนิด กฎหมายว่าด้วยการอุ้มบุญจึงต้องมีการกำหนดความเป็นบิดา มารดา และบุตร อย่างชัดเจน เพื่อมิให้เกิดปัญหาเช่นนี้ แต่กรณีของน้องคาร์เมนไม่ได้เข้าหลักเกณฑ์ตามกฎหมายใหม่ เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้ออกแบบมาสำหรับคู่รักแบบ "สามี-ภรรยา" ไม่รวมไปถึงคู่รักเพศเดียวกัน และยังห้ามการว่าจ้างการตั้งครรภ์แทนอย่างชัดเจน กรณีนี้ศาลจึงต้องนำหลักการทั่วไปมาใช้บังคับ

กฎหมายใหม่ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงน่าจะยังไม่ใช่กฎหมายที่ตอบโจทย์ความต้องการของสังคมที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ด้วยกลุ่มชาวเกย์พยายามเรียกความเท่าเทียมทางเพศ ทั้งการให้กฎหมายรับรองสถานะคู่สมรสของพวกเขา รวมถึงสิทธิที่จะมีทายาทตามสายเลือด แต่การที่กฎหมายฉบับนี้ห้ามการอุ้มบุญเพื่อประโยชน์ทางการค้า ย่อมทำให้พวกเขายากที่จะมีลูกของตัวเอง เนื่องจากต้องอาศัยความสมัครใจของเครือญาติที่จะต้องมารับภาระแทน โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ เป็นหลัก ซึ่งลำพังการให้ญาติๆ ยอมรับการแต่งงานของคนเพศเดียวกันก็ถือเป็นเรื่องที่ยากอยู่แล้ว

กรณีของคู่รักชาวเกย์คู่นี้จึงเป็นที่น่าเห็นใจอย่างยิ่งที่อุตส่าห์เดินทางมาถึงประเทศไทยเพื่อทำการว่าจ้างให้หญิงไทยตั้งครรภ์แทน ทั้งๆ ที่ไทยมิได้มีกฎหมายรับรองสัญญาลักษณะดังกล่าว ทำให้เสี่ยงอย่างยิ่งที่สุดท้ายพวกเขาอาจต้องเสียเงิน เสียเวลา และอาจไม่ได้ลูกกลับไป ขณะที่สังคมไทยต้องไตร่ตรองให้ดีว่า สุดท้ายแล้วไทยควรจะเปิดให้มีการอุ้มบุญเพื่อประโยชน์ทางการค้าหรือไม่ และชาวเกย์มีสิทธิที่จะใช้ชีวิตคู่โดยกฎหมายรับรอง รวมถึงสิทธิที่จะมีทายาทตามสายเลือดของตนเองหรือไม่

[ตอบ #1 เมื่อ:]

การว่าด้วยบทกฏหมายและ บทศีลธรรม นั้นเกื้อหนุนกัน กฏหมายกำหนดศีลธรรม หรือศีลธรรมช่วยกำหนดกฏหมายให้สังคม เกิดความสงบสุข สันติ บิดามารดา สายเลือดต้นกำเนิด จำเป็นด้วยหรือที่จะแบ่งชนชั้นวรรณะทางเพศ หรือเราควรมองในความเท่าเทียมในความเป็นมนุษย์เหมืิอนกัน เชื่อมั่นในความเมตตากฏหมายไทยสู่สากล

[ตอบ #2 เมื่อ:]

คงจะง่ายขึ้น ถ้าพ่อแม่น้องคาร์เมน เป็นคู่สามีภรรยาชายหญิงอ่ะ

[ตอบ #3 เมื่อ:]

สนุกไม่ควรเอาบทความของมติชนมาลงนะคะเพราะบทความที่เขียน ศาลท่านยังไม่ตัดสิน แต่มติชนหาข้อมูลมาตัดสินก่อนศาล ซึ่งไม่ใช่ข้อมูลที่ถูกต้องคะ แล้วเป็นการเขียนให้อีกฝ่ายเสียหาย เพราะบทความเขียนเอนเอียงคะ

[ตอบ #4 เมื่อ:]

แม่อุ้มบุญมีลูกแล้วหนึ่งคน แต่ไม่เลี้ยง ให้ไปอยู่สระบุรีกับญาติ??? แล้วจะมาเลี้ยงน้องคาร์เมน???? แล้วศาลให้ไปตรวจดีเอ็นเอ บอกเลย เป็นการอุ้มบุญแท้ ที่เอาเสปิร์มและไข่จากคนอืนมาใส่ในท้องคนอุ้มบุญ คนอุ้มบุญไม่มีทางที่จะมีดีเอ็นเอตรงกับเด็ก

[ตอบ #5 เมื่อ:]

ผู้หญิงที่หิวเงิน เห็นแก่เงิน คือคนที่จะทำให้การอุ้มบุญเป็นเชิงพาณิชย์ ผู้หญิงที่เค้ามีการมีการงาน มีความรู้ มีสติเค้าไม่รับทำแบบนี้กันหรอกค่ะ แล้วตอนนึ้ก็มีกฎหมายเป็นเรื่องเป็นราว และเรื่องน้องคาร์เมน ไม่ใช่กระแสสังคม เป็นเรื่องความถูกต้องที่น้องต้องได้รับ คนไทยส่วนใหญ่แค่ไม่อยากเห็นความจริงถูกบิดเบียน จึงออกมาพูด มาเป็นเสียงสะท้อนให้ พ่อที้งสองและน้องคาร์เมนชีวิตน้อย ๆ ที่เกิดมาแล้วกำลังตกอยู่ ในความคิดแย่ๆ ไร้ศีลธรรม ของคนบางกลุ่มคน
หยุดกินหญ้ากันเถอะค่ะ !!

[ตอบ #6 เมื่อ:]

คู่เกย์เค้าไม่ได้ทำเพื่อการพาณิชย์ เค้าทำด้วยความรัก ไปศึกษามาใหม่ใครกันแน่ที่ทำเพราะเงิน ข้อมูลเอนเอียง หรือว่าหน้าข่าวหน้านี้ถูกซื้อพื้นที่ข่าวจากใครบางคน หมดศรัทธาเว้บนี้ จะไม่สนันสนุนอีกต่อไป

[ตอบ #7 เมื่อ:]

นี่ไตร่ตรองด้วยมันสมอง ติดตามความเคลื่อนไหวในฐานะผู้สื่อข่าวไม่เป็นหรือครับว่าต้นเหตุของเรื่องมันคืออะไรกันแน่ ??? ถึงไปเอาบทความแบบนั้นมาน่ะ

พวกเรามองที่ความถูกต้องครับ เหตุการณ์เป็นไงคงไม่ขออธิบาย แต่คุณบทความที่ลงมานี้น่ะโคตรจะหลงประเด็น บ้าบอครับ เป็นผู้สื่อข่าวมาได้ยังไง ???

[ตอบ #8 เมื่อ:]

ในกรณีนี้คนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่จะให้เด็กไปอยู่กับหญิงอุ้มบุญเพราะการสนับสนุนคนที่ตั้งใจโกงก็ทำให้ประเทศเสื่อมเสียชื่อเสียงเหมือนกัน

[ตอบ #9 เมื่อ:]

ช่วยแยกประเด็นด่วยว่านังนั่นมันคือคนรับจ้างมันอายุเท่าไหร่แล้วมีลูกคนนึงแล้วใครหลอกมัน มันเต็มใจรับจ้างต้องการเงิน จะช่วยใครช่วยแยกแยะด้วย อย่าทุยค่ะ

[ตอบ #10 เมื่อ:]

ถ้า สนุก จะนำเสนอข่าวนี้ก็ช่วยเสนอให้ถูกต้องด้วยนะคะ มติชนเขียนไร้จรรญาบรรณมาก นำเสนอข่าวแต่ไม่หาข้อมูล นั่งเทียนเขียนข่าว หรือว่าสนุกจะเป็นแบบนั้นไปด้วย

[ตอบ #11 เมื่อ:]

[ตอบ #12 เมื่อ:]

บทความแสดงความ "อ่อน" ทางการหาข้อมูล และแสดงข้อมูลไม่ละเอียดทั้งสองด้าน ไม่แสดงเบื้องหลังที่เกิดขึ้นว่าแม่อุ้มบุญมีความเหมาะสมในการเป็นแม่หรือไม่ สิ่งที่บทความพยายามโน้มนำคือการเอาเรื่องการเป็นรักร่วมเพศมาเป็นประเด็นหลัก มากกว่าความเป็นพ่อ แม่ ของบุคคลนั้น

[ตอบ #13 เมื่อ:]

ครอบครัวน้องคาร์เมนพยายามให้มีน้องคาร์เมนเพราะความรัก แต่แม่อุ้มบุญหวังเงินเลยรับจ้างอุ้มบุญ!! ประเด็นคือคนไทยไม่ได้อยากเห็นการอุ้มบุญเชิงพาณิชย์หรอกนะ คนไทยส่วนใหญ่คงรู้จักแยกแยะว่าคนไหนทำเพราะความรัก คนไหนทำเพื่อการค้า คนไหนทำเพื่อเงิน และคนไทยแบบฉัน ก็ไม่อยากให้ใครมาว่าว่าคนไทยขี้โกง ใจคับแคบ ล้าหลัง หรือเป็นพวกกีดกันทางเพศนะ

รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและผู้ที่เกี่ยวข้อง คงไม่สนับสนุนให้คนไทยมีนิสัยขี้โกง สับปลับ เป็นที่ตราหน้าของคนอื่นหรอกมั๊งคะ

[ตอบ #14 เมื่อ:]

สนุก ควรหาบทความที่สร้างสรรค์ มาลงหน่อยนะ แล้วช่วยวอเคราะห์ด้วยว่า กรณีคาร์เมนเกิดขึ้นก่อนที่กฏหมายใหม่ออก แล้วการอุ้มบุญของคาร์เมนเกิดจากความต้องการของคุณพ่อ และเกิดจากความต้องการเงินของคนให้เช่ามดลูก บางทีสนุกก็น่าจะหาบทความดีๆสร้างสรรค์ๆมาลงนะ ชาวบ้านจะได้ชื่นชม

[ตอบ #15 เมื่อ:]

ประเด็นมันไม่ใช่ว่าเป็นเชิงไหน ประเด็นคือ ผู้หญิงคนนั้น ไม่ทำตามสัญญาใช้เด็กเป็นเครื่องหาเงิน ลูกมันเองยังเลี้ยงไม่ได้ แล้วมันจะเลี้ยงเด็กคนนี้ได้เหรอ

[ตอบ #16 เมื่อ:]

ไม่ทราบว่าตอนเขียนใช้ส่วนไหนของร่างกายคิด

ไม่อยากจะคิดว่าถูกจ้างให้เขียนหรือเปล่า แต่พออ่านข้อเขียนแล้วมันอดสงสัยไม่ได้

[ตอบ #17 เมื่อ:]

สื่อยังเป็นเครื่องมือของพวกคนเลวฉันใด สื่อที่ตั้งใจทำตัวเลวก็เลวไม่ต่างกันฉันนั้น อาชีพทนายความเช่นกัน หากมีหน้าที่แก้ต่างให้คนเลวก็ควรมีขอบเขตของการแก้ต่างเพื่อลดหย่อนผ่อนโทษเท่านั้น ไม่ใช่แก้ผิดให้เป็นถูก ทำไมสังคมที่ได้รับรู้เรื่องราวความเป็นไปกรณีนี้ หากพิจารณาโดยไม่อิงตัวบทกฎหมายนัก ต่างรับรู้ได้ชัดเจนว่าฝ่ายใดแสดงถึงความรัก ฝ่ายใดแสดงถึงแต่ด้านผลประโยชน์กันแน่

[ตอบ #18 เมื่อ:]

ถ้าไม่มีผู้หญิงไทยคนไหนทำอุ้มบุญให้ต่างชาติเราก็จะไม่มีปัญหาเช่นวันนี้เพราะผู้หญิงคนนี้อยากได้เงินเพราะคำว่าเงินไม่ช่ายเหรอไม่ช่ายความผิดของต่างชาติเลยด้วยซ้ำในเมื่อเด็กออกมาแล้วก็สมควรที่จะคืนเขาไปจิงไหมดิฉันอายมากตอนที่คนต่างชาติที่นี้ถามว่าบ้านเมืองคุณขี้โกงแม้กระทั้งเด็กเชียวเหรอสงสารคนไทยที่อยู่ต่างบ้านต่างเมืองบ้างน่ะค่ะ

[ตอบ #19 เมื่อ:]

สนับสนุนคู่รักเกย์ แปลว่าสนับสนุนการอุ้มบุญเชิงพาณิชย์ ใช้เหตุผลมั่วมาก ควรตำหนิภาครัฐที่ปล่อยให้ลักลอบทำธุรกิจแบบนี้ เชื่อว่าถ้าคู่รักมาขอเสียงสนับสนุนก่อนการทำอุ้มบุญ คงไม่มีใครสนับสนุน แต่นี่คือเสียงสนับสนุนหลังเด็กเกิดแล้ว แต่หญิงที่ทำการอุ้มบุญไม่ยอมมอบเด็กให้ เค้าเลยสนับสนุนคู่รักเกย์เพื่อให้ได้รับลูกคืน ไม่ใช่สนับสนุนให้มีการอุ้มบุญเชิงพาณิชย์

[ตอบ #20 เมื่อ:]

ส่วนตัวคิดว่าคนไทยไม่ได้สนับสนุนให้มีการรับตั้งครรภ์ในเชิงพาณิชย์หรอก เพียงแต่ว่าเห็นใจมากกว่า
ครอบครัวของน้องคาร์เมน
- ต้องการเป็นพ่อแม่ อยากมีลูกที่เป็นสายเลือดของตัวเอง แต่ไม่สามารถทำได้เพราะเป็นคู่รักเพศเดียวกัน (ซึ่งประเทศไทยยอมรับได้ เสมือนคนรักชายหญิงทั่วไป)
- ยอมเสียสละเวลาและค่าใช้จ่าย เพื่อพาน้องคาร์เมนกลับบ้าน
- เสียเปรียบด้านกฎหมายของไทย เรื่องของสถานะบุตร

ประกอบกับการกระทำของหญิงที่รับจ้างอุ้มบุญ ไม่ว่าจะเป็น
- ความต้องการที่อยากจะมีลูกเป็นชาวต่างชาติอยู่แต่เดิม
- การรับจ้างอุ้มบุญจากชาวต่างชาติ ก่อนหน้าน้องคาร์เมน
- การผิดสัญญาจ้าง และการบ่ายเบี่ยงที่จะคืนน้องคาร์เมน
- การออกมาเรียกร้องความเห็นใจ โดยใช้สื่อเป็นเครื่องมือ

คุณเองเป็นสื่อเหมือนกัน ควรจะต้องระวังบ้าง

[ตอบ #21 เมื่อ:]

ถามคนเขียนข่าวว่า คิดได้แค่นี้จริง ๆ หรือคะ เป็นฉันคงเอะใจแล้วว่าทำไมคนถึงเข้าข้างคุณพ่อเยอะนัก หาข้อมูลสักนิดจะได้ไม่เขียนอะไรง่อย ๆ ให้เสียชื่อนะคะ

ไม่พูดถึงกฎหมาย ต้องให้ศาลท่านเมตตาพิจารณา (ถือว่าเป็นงานยาก แต่ยังภาวนาให้ท่านนึงถึงน้องเป็นสำคัญ)

คุณพ่อทั้งสองอยากมีลูก เรื่องนึง พลาดมาใช้บริการของคนที่ตั้งใจโกง ก็มุ่งมั่นพิสูจน์ตัวทุกอย่าง ทุกทาง ว่าไม่ได้เป็นอย่างที่คนชั่วใส่ร้าย ถ้าไม่โง่มากก็คงเคยได้เห็นข้อมูลบ้าง ก็แถนู่น นี่ นั่น เรื่องนี้จบที่ความจริงว่า ผู้หญิงสองคนนั้นโกหกม

ถ้าพูดถึงความสามารถในการเลี้ยงดูเด็กให้ดี โอ้ยยยยย ถ้าน้องได้อยู่กับอิบร้านั้นจริง มันคือนรกสำหรับเด็กเลยนะคะ ไม่ต้องพูดถึงอนาคต แค่ความสะอาดในชีวิตประจำวันมันยังไม่มีเลย จะเอาสิ่งดี ๆ ที่ไหนไปปลูกฝังน้อง นิสัยก็ขี้โกง แย่งสามีชาวบ้าน ยังไม่นับเรื่องแย่ ๆ ในอดีตที่เคยทำจนมีการแจ้งความอีกนะ ถามจริง จะให้เด็กอยู่กะคนแบบนี้เนี่ยนะ แค่คิดก็สงสารน้องแล้ว เพราะทุกวันนี้ก็สงสารลูกแท้ ๆ ของนางออยมาก (เลี้ยงลูกตัวเองให้ดีก่อนไหม)

ย้อนกลับไปดูคุณพ่อเลี้ยงน้อง สะอาด น้องอารมณ์ดี น่ารัก ทุกคนถึงอยากให้น้องได้กลับไป เพราะคนไทยใจดี และแยกแยะเป็นว่าสิ่งไหนดีกับน้อง เข้าใจไหมมมมมมม

[ตอบ #22 เมื่อ:]

เอากับเค้าด้วยเหรอเว็บนี้อ่ะ ก่อนจะเลือกบทความมาลงซักอัน ศึกษาหรือรู้เรื่องราวดีพอรึยัง อย่างเคสนี้คนเค้าเห็นใจคุณพ่อกันแทบทั้งนั้น เพราะเคสน้อง คุณพ่อเค้าอยากมีลูกจริงๆแต่ท้องเองไม่ได้ ถ้าเป็นกฎหมายตอนนี้ใครจะทำทั้งๆที่รู้ แต่สื่ออย่างพวกคุณกลับปิดหูปิดตากับข้อเท็จจริง แต่เอามาตั้งประเด็นให้มันดูแย่ ไม่มีจรรยาบรรณ ไม่มีศีลธรรม ตกลงจะเลือกสนับสนุนให้คนเลวๆโกงได้แบบไม่ผิดรึไง

[ตอบ #23 เมื่อ:]

ทำไมถึงใช้คำว่า สัญญาการทำของ,สัญญาว่าจ้างการผลิตคะ ขออนุญาตแนะนำว่า ความรู้ที่มีอยู่ในตัวคุณ เลือกใช้คำให้มันสร้างสรรค์หน่อยนะคะคนดี จุ๊บุ จุ๊บุ

[ตอบ #24 เมื่อ:]

ก่อนที่คุณจะนำข่าวมาลง ควรวิเคราะห์ก่อนว่า
1. คำจัดกัดความของการอุ้มบุญเชิงพานิชย์คืออะไร? คือการที่คู่รักสองคนจดทะเบียนแต่งงานกันอย่างถูกต้องแต่ไม่สามารถมีลูกได้จึงจำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อได้บุตรมาเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ หรือ อุ้มบุญเชิงพานิชย์คือการให้ใครก็ได้ไม่ต้องเป็นคู่รักก็ได้ซึ่งไม่มีจุดประสงค์และความจำเป็นที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีการแพทย์เพื่อเติมเต็มครอบครัวให้สมบูรณ์แต่มาว่าจ้างแม่อุ้มบุญผลิตทารกให้เขาหลายๆคนอาจเพื่อจุดประสงค์อย่างอื่น? (กรณีคุณพ่อกอร์ดอนเขาก็แสดงหลักฐานแล้วว่าพวกเขาจำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์เพื่อเติมเต็มครอบครัวให้สมบูรณ์เพียงแค่นั้น )
2) ลำดับช่วงเวลา: การอุ้มบุญผิดกฏหมาย ? คุณพ่อได้แสดงหลักฐานให้เห็นตลอดมาว่าพวกเขามีการดำเนินการทำอุ้มบุญตั้งแต่ตอนที่เมืองไทยอนุญาติให้มีการทำอุ้มบุญได้ กฏหมายใหม่ที่ห้ามการอุ้มบุญนี้เพิ่งออกมาระหว่างมีการตั้งครรภ์ทารกนั้น แต่ถึงอย่างไร พรบ.การอุ้มบุญล่าสุดที่ประกาศใช้ก็อนุญาติให้ทำการอุ้มบุญได้สำหรับครอบครัวที่จำเป็นต้องพึ่งเทคโนโลยี
3. วินาทีนี้ทารก้เกิดมาแล้ว ควรคำนึงถึงสวัสดิถาพของ้เด็กเป็นหลักสูงสุด ใครจะสามารถให้คุณภาพชีวิตและคุณภาพจิตใจที่ดีกว่าสำหรับเด็กได้ และใครคือพ่อแม่ที่แท้จริง นี่คือประเด็นที่สำคัญที่สุดและrelavant มากที่สุดมิใช่หรือ (ไม่อย่างนั้นศาลท่านจะให้ตรวจดีเอ็นเอทำไม)
4. คุณภูมิใจไหมคะ ผู้ที่เขียนข่าวและนำเสนอข่าวนี้

[ตอบ #25 เมื่อ:]

บทความเอียงงกะเท่เร่เลย เอามาลงได้ยังไง

[ตอบ #26 เมื่อ:]

ทำไมเขียนข่างเอนเอียงอย่างนี้ละค่ะ คุณไม่ได้ติดตามข่าวหรอกหรือ ประโยคที่ใช้ในการเขียนก็ไม่เหมาะสม "สัญญาจ้างทำของ" ใช้ประโยคนี้ได้ไง. แล้วที่บอกว่า ทำให้เสี่ยงอย่างยิ่งที่สุดท้ายพวกเขาอาจต้องเสียเงิน เสียเวลา และอาจไม่ได้ลูกกลับไป คุณไปตัดสินแทนศาลได้ไง ในเมื่อศาลที่มีคำสั่งให้ไปตรวจ DNA นั่นก็หมายความว่า หนึ่งในหลักฐานที่สำคัญก็คือ DNA อันนี้คุณพ่อเอาไปเลย 100คะแนนเต็ม ส่วนอิเงือก 0....

[ตอบ #27 เมื่อ:]

"เพราะแม่ผู้ให้กำเนิดไม่มีความเชื่อมโยงใดๆ ทางสายเลือด แต่หากมองให้ลึกลงไปจะเห็นได้ว่าแม่ผู้ให้กำเนิดคือผู้ที่รับภาระตั้งท้องเป็นระยะเวลานานถึงเก้าเดือน แม้จะไม่ได้ผูกพันด้วยสายเลือด แต่ก็มีความผูกพันทางกายภาพยิ่งกว่าคนที่เป็นเจ้าของเซลล์ต้นกำเนิด "

คุณอดิเทพ พันธ์ทองคะ
เค้ายอมอุ้มท้อง 9 เดือนเพราะเค้าได้เงิน เงิน เงิน เงินค่ะ

ไม่ใช่ว่าเค้ายอมเสียหุ่นเสียทรงฟรีๆค่ะ เสร็จแล้วนะคะ เค้าไอเดียบรรเจิดขึ้นมาทีหลังว่าเฮ๊ย.. ประเทศนี้ลูกครึ่งหน้าตาดีทำเงินได้มากมายนี่นา ทำไมเราไม่เก็บเด็กไว้เองล่ะ เลี้ยงไว้ซัก 2 ปีก็ทำงานได้แล้ว ขึ้นปกถ่ายโฆษณาอะไรก็เงินทั้งนั้น .. กระสือหิวเงินแท้ๆ

สรุปค่ะ แม่อุ้มบุญคนนี้ เน้นว่าคนนี้เท่านั้น นอกจากจะหิวเงินยอมอุ้มทองแทนแล้ว ยังขี้โกง สับปลับ หลอกลวง ไร้สัจจะวาจา ไร้ความน่าเชื่อถือใดๆอีกด้วยค่ะ

เวรกรรมมีจริงนะคะ ตั้งใจพรากพ่อพรากลูกเค้า บาปหนักค่ะ สุดท้ายลูกตัวก็จะทิ้งตัวไป ตัวต้องตายอย่างหมาข้างถนนเดียวดายเพียงลำพังเพราะผลกรรมอันนี้ล่ะค่ะ

[ตอบ #28 เมื่อ:]

คุณเอาข้อความของมติชนมาลงได้ไง เพศที่สามไม่ใช่คนเหรอ เหยียดเพศชัดๆ โลกแคบใจแคบไร้ศีลธรรม เค้ามาจ้างอุ้มบุญก่อนมีกฏหมายใหม่ ก่อนหน้านี้ก็มีแจ้งอุ้มบุญเยอะแยะไม่มีปัญหา แต่มามีปัญหาแค่พ่อเขาเป็นเพศที่สามนี่นะ คนอุ้มตอนแรกก็ยินยอมและรับเงิน แยกแยะสิ ดูด้วยว่าพ่อเลี้ยงลูกให้ความรักแค่ไหน ศาลยังไม่ตัดสินเลย คุณจะมาลงแบบนี้ได้ยังไง ไม่มีความเป็นกลางเอนเอียงมาก .. ทำให้รู้ว่าคนเอาข่าวมาลงดูถูกเพศที่สามแค่ไหน แย่มากๆๆ คนที่เข้ามาเชียร์พ่อน้องยังรู้ว่าอะไรเป็นอะไร อะไรถูก อะไรผิด แต่คนเขียนข่าวกับไม่รู้จริงๆเหรอ ถึงเขียนได้ไม่เป็นกลางขนาดนี้

[ตอบ #29 เมื่อ:]

ศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนนะค่ะก่อนจะลงข้อมูล ไม่ได้เห็นด้วยในเรื่องการอุ้มบุญเชิงพาณิชย์ แต่ยึดถึงความถูกต้อง หญิงมดลูกเช่าต้องการเงินค่าจ้าง ติดต่อเข้าไปรับจ้าง ลูกตัวเองมีไม่ได้เลี้ยงให้ญาติเลี้ยง แต่ฝั่งคนพ่อจ้างเพราะอยากได้ลูกสาวมาเติมเต็มให้ครอบครัว ถ้าเป็นคนในครอบครัวของคุณๆๆๆๆๆๆๆๆ ถามหน่อย จะยอมให้เลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง ไปให้ใครก้อไม่รู้มาเลี้ยงเจตนาตั้งแต่แรกคือ เงินอยากได้เงินถึงมารับจ้างท้อง อยากมีลูกจริงทำใหมไม่มีกับสามีตัวเองละ อีมดลูกเช่า อย่าดึงผู้หญิงไทย เข้าข้าง ฉันคนหนึ่ที่ไม่ต้องการให้มาอ้างสิทธิ์

[ตอบ #30 เมื่อ:]

ไม่มีใครบังคับ พู้หญิงไทยไห้ทำอุ้มบุญหรอ แต่คนที่ทำสมัคใจไปเอง แล้วจะมาเรียกร้องอะไรกับสังคม ขอความสงสารหรอ แล้วใครบังคับมิทราบ

[ตอบ #31 เมื่อ:]

เรื่องที่เกิด คือการคดโกงและไม่มีความซื่อสัตย์ ด้วยเหตุนี้ ทำให้ครอบครัวหนึ่งชีวิตต้องทุกข์ ไม่น่าเป็นแบบนี้ ลองคิดดูเพราะใคร ????

[ตอบ #32 เมื่อ:]

เห็นด้วยกะบทความค่ะ มันไม่จริงเหรอถ้าไม่มีกฤหมายนี้ออกมาจะมีคู่รักเกย์มาให้หญิงไทยอุ้มบุญเท่าไหร่เรียก่สวยๆอุ้มบุญแต่จริงๆก็คือการค้ามนุษย์นั่นแหละ ไม่เกี่ยวกับเค้ารักกันมากแค่ไหนแต่มันคือการยอมรับว่าเพศหญิงจะกลายเป็นแค่เครื่องผลิตลูกสำหรับเกย์ที่อยากมีลูกแต่มีไม่ได้แทน

[ตอบ #33 เมื่อ:]

จะเอาบทความคนอื่นมาโพสทำไม โดยเฉพาะมติชน วิเคราะห์ได้ ไร้สาระมากเรื่องพวกนี้ กฎหมายไทยล้าหลังและไร้ความยุติธรรมกว่าประเทศอื่นยิ่งนัก ไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ ไม่ทันยุคทันสมัย ถ้าเป็นประเทศอื่นเขามองเรื่องผลประโยชน์ของเด็กเป็นหลัก ไม่ได้พิจารณาเฉพาะตัวบทกฎหมาย มีแต่ประเทศไทยนี่แหละ กบในกะลา จะเอาผิดจริงๆๆ แม่อุ้มบุญนี่แหละตัวต้องโดน รับจ้างท้อง ยิ่งหญิงค้าประะเวณีที่ยินยอม รู้ไว้ด้วย ไม่ใช่เอาผิดแต่ผู้ใช้บริการฝ่ายเดียว น่าสมเพชยิ่งนักกับกฎหมายไทย

[ตอบ #34 เมื่อ:]

ถ้าไม่มีนายหน้า ไม่มีคนรับจ้างท้อง ไม่มีหมอที่รับอุ้มบุญให้ก็คงไม่มีเรืองแบบนี้เกิดขึ้น ตำหนิคนของตัวเองก่อนไหม มันจะมีการอุ้มบุญไหมถ้าคนของเราไม่ไปเสนอให้เขา อย่ามัวแต่โทษคนอื่น ชื่อเสียงที่มันเน่าเหม็นอะทำตัวเองแท้ๆ...แย่งลูกเขามาจากพ่อแท้ๆ...นอกจากจะผิดศิลธรรมแล้วน้องก็เหมือนสินค้าที่ถูกยึดเอาไว้แล้วมันช่วยลบภาพลักษณ์การอุ้มบุญเชิงพาณิชย์หรือลบภาพการค้ามนุษย์ตรงไหน

[ตอบ #35 เมื่อ:]

ให้เด็กผู้หญิงอยู่กับผู้ชาย 2 คน โตมาจะปลอดภัยเหรอ ขนาดพ่อแท้ๆๆๆยังทำชั่วกับลูกสาวได้บ่อยไป เสี่ยงไปไหม

[ไอค่อนข้อความ:]

	ปรากฎข้อผิดพลาดตังต่อไปนี้ขณะส่งข้อความนี้:
	คำเตือน: ความคิดเห็นนี้ถูกล็อกไว้! เฉพาะผู้ดูแลเท่านั้นที่ตอบได้
ชื่อ:
	แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:	ไอค่อนขณะนี้ กระทู้ทั่วไปเหมาะสำหรับผู้ชมทุกวัย กระทู้สำหรับเด็กก่อนวัยเรียน กระทู้สำหรับเด็ก กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำ กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 13 ปี กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี กระทู้เฉพาะไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชน
	ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา ขนาดตัวอักษร เล็กมาก เล็ก ปกติ ใหญ่ ใหญ่มาก เปลี่ยนสี สีดำ/ขาว สีแดง สีเหลือง สีชมพู สีเขียว สีส้ม สีม่วง สีนํ้าเงิน/ฟ้า สีเทา สีน้ำตาล สีเขียวฟ้า สีกรมท่า สีเลือดนก สีเหลืองอมเขียว
	[เพิ่มเติม]
	กลับไปกระทู้นี้ หลังจากการตั้งความคิดเห็น ไม่ใช้สัญลักษณ์แสดงอารมณ์
แนบไฟล์:	(แนบไฟล์เพิ่ม) ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ :	ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
	ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ: