หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: รีวิว สมรรถนะเครื่องยนต์ 2,800cc ใน Hilux Revo รุ่น 2.8G AT Double Cab 4x4  (อ่าน 1070 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 5 ก.พ. 16, 23:33 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

หลังจากได้ใช้งานมาสักระยะ วันนี้จะมารีวิวให้ชมกันครับ แต่ก่อนอื่นขอเล่าย้อนไปสักนิดถึงที่มาที่ไปของรถคันนี้ให้ฟังกันก่อน รีโว่คันนี้เป็นรถคันที่ 2 ของผม แต่เป็นรถกระบะคันแรก ซึ่งผมได้ตั้งโจทย์สำหรับการใช้งานเอาไว้ดังนี้

1. ต้องเป็นรถที่สามารถใช้โดยสาร และบรรทุกของได้ด้วย
2. ต้องเป็นรถเกียร์ออโต้ เพราะเน้นขับสะดวก เนื่องจากใช้งานในเมืองเป็นหลัก และมีออกต่างจังหวัดบ้าง ช่วงสุดสัปดาห์
3. ปัญหาจุกจิกน้อย อะไหล่หาง่าย รวมถึงบริการหลังการขาย

จากที่ผมได้ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับรถกระบะในบ้านเราอยู่หลายๆค่าย จากโจทย์ทั้ง 3 ข้อ สุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกรีโว่ ซึ่งเดิมทีเดียวตั้งใจว่าจะออกแค่รุ่น 2.4E หรือ 2.4G เท่านั้น แต่พอมาศึกษารายละเอียดและสเป็คของรถแล้ว ก็เปลี่ยนใจมาเลือกเป็นรุ่น 2.8G A/T Double Cab 4x4 ตัวท็อปสุดแทน เพราะมีออฟชั่นและระบบความปลอดภัยมาให้แบบจัดเต็ม


เรื่องแรกที่จะรีวิว คือ เรื่องสมรรถนะของเครื่องยนต์ครับ คันที่ผมใช้เป็น Toyota Hilux Revo Double Cab เครื่องยนต์ GD Efficient Boost ขนาด 2,800 ซีซี พร้อม VN Turbo แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ ซึ่งให้พละกำลัง 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที และให้แรงบิด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที วันธรรมดาส่วนใหญ่ก็จะไว้ใช้ขับทำงานในเมือง ซึ่งใช้รถค่อนข้างน้อย จะใช้หนักจริงๆก็ช่วงเสาร์-อาทิตย์ นี่แหละครับ ที่ส่วนใหญ่จะเน้นออกต่างจังหวัด เพื่อกลับบ้าน กรุงเทพ-นครนายก-ปราจีน หรือออกทริปท่องเที่ยวกับเพื่อนๆเป็นหลัก จับรถครั้งนึงก็มีไม่ต่ำกว่า 500-600 โล ช่วงนี้ผมก็เน้นใกล้ๆก่อนครับ เพราะอยากวอร์มเครื่องในช่วง 10,000 กิโลเมตรแรกก่อน เช่น เขาใหญ่ ชะอำ หัวหิน ปราณบุรี พัทยา สวนผึ้ง กาญจนบุรี ตอนนี้ใช้มาได้ประมาณ 5 เดือน วิ่งไปได้ประมาณ 13,000 กิโลเมตรแล้วครับ เข้าเช็คระยะ 10,000 กิโลเมตรแรกเรียบร้อย และก็ยังไม่เจอปัญหาอะไร เป็นรถที่ตอบโจทย์การใช้งานผมได้ดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นอัตราเร่ง แรงบิด พลังเหลือเฟือ ขับเร่งแซงได้แบบสบายๆ แรงดีไม่มีตก กดเป็นมา แม้จะเร่งแซงช่วงความเร็ว 120 ขึ้นไป ก็ยังเร่งขึ้นแซงได้แบบสบายๆ หรือถ้าขึ้นเขา-ลงเขาก็ยิ่งสบาย ขึ้นเขาก็แค่เหยียบคันเร่งอย่างเดียว แม้ว่ารถผมจะเป็นเกียร์ออโต้ แต่ก็ไม่มีอืดไม่มีตื้อครับ ตอบสนองการขับขี่ได้เป็นอย่างดี รอบเครื่องก็ไม่ได้สูงจนน่าเป็นห่วง เวลาขับลงเขาก็แค่ปรับเกียร์เป็นโหมด S แล้วเลือกทดเกียร์ต่ำๆได้ตามต้องการ อันนี้ต้องชมเลยว่า Revo เซ็ตระบบมาได้ดีมาก ที่สำคัญ ยังมีโหมด Eco และ Power มาให้ด้วย ถ้าอยากจะขับประหยัด หรือเน้นขับในเมือง กด Eco โหมด ซึ่งจะช่วยให้ขับขี่ได้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น แต่ถ้าหากอยากเร่งแรงแซงทันใจก็จัดโหมด Power ได้ง่ายๆเพียงแค่กดปุ่ม ไม่ต้องไปติดตั้งกล่องสปีดอะไรให้ยุ่งยาก เพราะรถผมเน้นใช้งานทั่วไปแบบครอบครัว แต่เมื่อไรก็ตามที่พ่อบ้านอย่างผมอยากนึกสนุก ก็เพียงแค่กดโหมด Power เท่านั้น ขับสนุกมากๆ


ปุ่ม ECO Mode สำหรับการขับแบบประหยัด และปุ่ม Power Mode สำหรับเน้นเร่ง แซง แรงสั่งได้ ขับสนุก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 6 ก.พ. 16, 10:24 น โดย gentlemann » noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags: toyota hilux revo
add
เรทกระทู้
« ตอบ #1 เมื่อ: 6 ก.พ. 16, 10:42 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

มาต่อด้วยเรื่องของการบรรทุกหนักบ้าง อย่างที่ผมได้เล่าไว้ข้างต้น ว่าจุดประสงค์ในการซื้อรถคันนี้ ก็คือต้องใช้โดยสารและใช้บรรทุกของได้ด้วย และส่วนใหญ่ผมก็จะใช้บรรทุกของ หรือขนของเวลาออกไปต่างจังหวัดเสียเป็นส่วนใหญ่ เช่น ขนต้นไม้ บรรทุกตู้ลำโพง ขนอุปกรณ์การทำงาน และไว้วิ่งซื้อของรับของมาขาย เพราะแม่ผมเปิดร้านขายของ ก็เลยมีโอกาสได้ใช้บรรทุกและขนของอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะเครื่องดื่มชูกำลัง น้ำอัดลม เบียร์ เหล้า โซดา และอื่นๆ ขนกันแต่ละรอบนี่เรียกว่ารถกระบะแบบ Smart Cab ยังมีอาย เพราะแม่ผมซื้อของแต่ละที ก็จัดแบบว่าเต็มคันตลอด เพื่อไม่ให้เสียเที่ยว ถึงจะบรรทุกกันหนักๆขนาดนี้ แต่กลับไม่รู้สึกอืดอย่างที่คิด ตอนแรกคิดว่าจะมีปัญหาด้วยซ้ำตอนบรรทุกของหนักๆ เพระเป็นรถสี่ประตู แต่ยิ่งบรรทุกหนักก็ยิ่งขับได้ดีขึ้น หนึบขึ้น คงเพราะมีการกระจายน้ำหนักบรรทุก บวกกับพละกำลังของเครื่องยนต์ด้วยแล้ว ไม่ว่าจะเหยียบ เร่ง แซง ก็เลยไม่รู้สึกอืด ยังคงให้ความรู้สึกขับสนุกเหมือนเดิม เพียงแต่ตอนเบรกอาจต้องใช้แรง และใช้ระยะมากขึ้นกว่าเดิมอีกนิดหน่อย


คนขับ+ผู้โดยสารรวม 6 คน (เด็ก 1) บรรทุกต้นไม้จากปราจีนบุรี ไปสมุทรสาคร

สำหรับเรื่องการประหยัดน้ำมัน จากที่ผมได้ใช้มาพักใหญ่ๆ และขับขี่แบบปกติทั่วไป ผมถือว่าประหยัดใช้ได้เลยทีเดียว กับรถกระบะเกียร์ออโต้ที่มีขนาดใหญ่แบบนี้ บรรทุกคน บรรทุกของ ก็ยังขับได้แบบสบายๆ แรงดีไม่มีตก แถมยังประหยัดน้ำมันอีกด้วย

นอกจากนี้แล้ว รีโว่ยังมีโหมดการขับขี่แบบ Eco ให้เลือกใช้ด้วยนะครับ ตามที่ได้เล่าให้ฟังไว้แล้วในเบื้องต้น เพียงแค่กดปุ่มที่อยู่ใกล้ๆกับเกียร์ และยังมีระบบ Stop & Start System ที่จะช่วยให้ขับขี่ได้อย่างประหยัดมากยิ่งขึ้น ซึ่งระบบนี้จะทำงานโดยอัตโนมัติ เมื่อเข้าเงื่อนไขการทำงาน เช่น เมื่อเราขับรถไปจอดหยุดนิ่งบนพื้นราบ ล้ออยู่ในตำแหน่งตรง เกียร์อยู่ในตำแหน่ง D เหยียบเบรกมั่นคง ประตูรถต้องปิดสนิททุกบาน อุณหภูมิเครื่องยนต์ หรือ แอร์ต้องเหมาะสม ผู้ใช้งานต้องรัดเข็มขัดนิรภัย มีไฟในแบตเตอรี่เพียงพอ ระบบก็จะทำงานเองอัตโนมัติด้วยการดับเครื่องยนต์ แต่เมื่ออุณหภูมิแอร์ลดลง หรือเรายกเบรกขึ้น ระบบก็จะติดเครื่องเอง หรือเราสามารถยกเลิกได้ด้วยการกดปุ่มที่อยู่ใต้คอนโซลแอร์ครับ ถ้าเน้นขับในเมืองซะเป็นส่วนใหญ่ ผมแนะนำให้ใช้โหมด Eco + Stop & Start System เลยครับ ช่วยให้ประหยัดน้ำมันขึ้นได้เยอะจริงๆ


ปุ่มเปิด/ปิด ระบบ Stop & Start System ที่อยู่บริเวณใต้คอนโซลแอร์
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags: toyota hilux revo
add
เรทกระทู้
« ตอบ #2 เมื่อ: 6 ก.พ. 16, 10:47 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ล่าสุดผมลองเติมน้ำมันเต็มถัง แล้วลองวิ่งใช้งานในกรุงเทพและต่างจังหวัดผสมกัน แต่รอบนี้ผมกดโหมด Eco และเปิดระบบ Stop & Start System ด้วย ก่อนเติมมีน้ำมันเหลือติดถังอยู่เกือบ 1 ขีด เติมเข้าไปเพิ่มอีก 56.88 ลิตร (ปกติเติมอยู่ประมาณ 62 ลิตร)


ปกติเติมน้ำมันเต็มถังของผมจะอยู่ที่ 62 ลิตร รอบนี้มีน้ำมันเหลืออยู่แล้ว 1 ขีด และเติมเข้าไปเพิ่มดังภาพ

ผมขับไปกับแฟน 2 คน ไม่ได้บรรทุกของอะไร มีแค่สัมภาระส่วนตัวเล็กน้อย ลองวิ่งด้วยความเร็วประมาณ 80-100 กม./ชม. ช่วงที่วิ่งอยู่ในต่างจังหวัด ทำอัตราการประหยัดได้ดีกว่าในเมืองมากๆ เนื่องจากถนนโล่ง รถไม่ติด สามารถรักษาความเร็วได้โดยไม่ต้องเหยียบเบรกและคันเร่งบ่อยๆ ทำได้ประมาณ 15.3 กม./ลิตร


ช่วงวิ่งอยู่ต่างจังหวัด จะทำอัตราการประหยัดได้ค่อนข้างดี อัตราประหยัดสะสมตามภาพอยู่ที่ 15.3 กม/ลิตร

แต่พอเริ่มกลับมาวิ่งในเมืองตัวเลขก็ค่อยๆลดลง เนื่องจากสภาพการจราจรติดขัด อย่างที่เห็นตามภาพด้านล่าง รถเยอะ ไฟแดงเยอะ เดี๋ยวเหยียบเบรกเดี๋ยวเหยียบคันเร่งอยู่ตลอดเวลา ก่อนจะแวะเข้าปั๊มอีกรอบ ผมถ่ายหน้าจอความประหยัดไว้ได้ 14.2 กม./ลิตร กับระยะทาง 794.8 และยังมีน้ำมันเหลืออีก 1 ขีด


ช่วงกลับเข้าเมือง อัตราการประหยัดสะสมก็ค่อยๆลดลงตามลำดับ ตกลงมาเหลือ 14.1 กม./ลิตร

กดดูหน้าจอแจ้งว่าวิ่งได้อีก 97 กิโลเมตร ผมเลยลองเอามาคำนวณดูคร่าวๆ 794.8+97 = 891.8 กิโลเมตร จากนั้นหารด้วย ปริมาณน้ำมันเต็มถังที่ผมเคยเติมประจำ นั่นคือ 62 ลิตร ตัวเลขที่ได้คือ 14.38 กม./ลิตร ถือว่าใกล้เคียงกับที่หน้าจอแจ้งเอาไว้ แม้จะไม่เป๊ะๆ แต่ก็โอเคครับ ถือว่าประหยัดมาก


สรุปทริปนี้ทำอัตราการประหยัดได้ 14.2 กม./ลิตร ด้วยระยะทาง 794.8 กม. และยังมีน้ำมันค้างถังวิ่งได้อีกประมาณ 97 กิโลเมตร

โดยรวมแล้ว เรื่องสมรรถนะเครื่องยนต์ และความประหยัด อยู่ในระดับที่ผมพอใจเลยครับ เรื่องการดูแลรักษาเครื่องยนต์ก็ง่ายๆดี แค่คอยหมั่นเช็คระดับน้ำมันเครื่อง กับระดับน้ำของหม้อน้ำเท่านี้ก็พอ เพราะมีผลกับเครื่องยนต์โดยตรง และที่ขาดไม่ได้ คือการนำรถเข้าตรวจเช็คระยะที่ศูนย์ตามกำหนด ทุกๆ 6 เดือน หรือ 10,000 กิโลเมตร แล้วแต่อย่างใดจะถึงก่อน เพื่อเป็นการเตรียมรถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และพร้อมที่จะปกป้องเราได้ทุกเวลาหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น

ส่วนตัวหลังจากที่ใช้มา 5 เดือน ผมได้ลองทดสอบระบบต่างๆของรถคันนี้ จากการใช้งานจริงมาเกือบทุกระบบ ประทับใจมากๆครับ ทุกระบบสามารถใช้งานได้จริง และช่วยเราในสถานการณ์ต่างๆได้ ประทับใจเกือบทุกอย่างในรถคันนี้ ใครกำลังมองหารถกระบะที่ถึก ทน ดูแลง่าย และประหยัด ผมว่า Hilux Revo เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจเลยครับ
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags: toyota hilux revo
add
เรทกระทู้
« ตอบ #3 เมื่อ: 6 ก.พ. 16, 13:47 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

สุดยอดครับ ขอบคุณรีวิวดีๆ
ผมเองก็ได้มีโอกาสไปลองขับรีโว่ตัวนี้ที่บางนามาเหมือนกัน ถูกใจครับ
เครื่องบล็อกใหม่นี่แรงมากๆ จากเดิมวีโก้เครื่อง 3.0 ผมว่าแรงแล้วนะ คุณรีโว่เครื่อง GD ตัวนี้มันแรงกว่าเดิม เครื่องเล็กลง แต่รอบนี้มาเต็มๆ ประหยัดน้ำมันขึ้นไปอีก ขนาดตอนลองเปิดโหมดอีโค่นะครับ แต่ว่าแรงไม่ได้ตกเลย แค่รอบมาช้ากว่าปกตินิดหน่อยครับ

แต่ที่ผมมองว่านอกจากเครื่องจะใหม่แล้ว ช่วงล่างของรีโว่นี่สุดยอดกว่าครับ เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย เกาะถนนดีมากๆ ช่วงล่างแน่นขึ้น อาการกระเด้งจากท้ายรถก็ลดลงไปเยอะ อาจจะมีอยู่บ้างเป็นปกติของกระบะครับ
โดยรวมผมว่าตัวนี้ดีมากๆ เลยครับ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags: toyota hilux revo
Guest
วิทวัฒน์
เรทกระทู้
« ตอบ #4 เมื่อ: 6 ก.พ. 16, 22:09 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ประหยัดใช้ได้เลยครับ ผมกำลังดูๆรีโว่เลย เพราะเห็นว่าส่วนลดเยอะ และรถโตโยต้าทนทานอยู่แล้วด้วย ซื้อแล้วคุ้มแน่นอน ได้เครื่องยนต์ใหม่ ช่วงล่างใหม่อีก เดี๋ยวจะหาเวลาไปทดลองขับ ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags: toyota hilux revo
Guest
Mr.know
เรทกระทู้
« ตอบ #5 เมื่อ: 13 มี.ค. 16, 15:20 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คุณลองหาวิธีคิดคำนวนอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันใหม่ดีมั้ยครับ ที่คุณบอกมานั่นคือน้ำมันเต็มถังครับไม่ใช่ 62 ลิตรนะครับ REVO 80 ลิตรนะครับแล้วในขณะที่เราเติมจริงมันจะเกินจากนี้อีกนะครับ ลองคิดดูนะครับอย่าไปคิดว่าเราเติมไปเท่าไหร่ครับแต่จำไว้ว่าในขณะที่เราเติมเสร็จแล้วน้ำมันมันเต็มถังแล้วนะครับ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags: toyota hilux revo
Tags:  toyota  hilux  revo 

หน้า: 1

 
ตอบ
ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:   Go
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม