วันนี้ผู้ช่วยคุณแม่จะมาแนะนำอาหารที่เหมาะสำหรับลูกน้อยของคุณแม่กันค่ะ คุณแม่สามารถให้อาหารแก่ลูกน้อยได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป แต่บางอย่างไม่ควรให้ทานก่อนอายุครบ 1 ขวบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของเด็กแต่ละคนและประวัติการแพ้ของคนในครอบครัว หากไม่แน่ใจควรปรึกษาแพทย์ก่อนนะคะ
>>กล้วย
อุดมด้วยคาร์โบไฮเดรตและไฟเบอร์ แต่ต้องเป็นกล้วยสุกเท่านั้น ลูกน้อยมือใหม่หัดกิน ให้กินกล้วยบดไปก่อน พอโตหน่อยค่อยหั่นเป็นชิ้นๆ ให้เขาหยิบกินเอง
>>อะโวคาโด
มีโปรตีนสูง อุดมด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวซึ่งเป็นไขมันดี แต่ต้องเป็นอะโวคาโดสุกเท่านั้น แค่ล้าง ปอกเปลือกและบดจนเนื้อเนียน ก็พร้อมเสิร์ฟ ควรให้กินครั้งละน้อยคู่กับอาหารอื่น ๆ เช่น เนื้อหรือไก่บด
>>ไข่ไก่
ไข่ขาวให้โปรตีนเป็นหลัก ส่วนไข่แดงให้สังกะสีและวิตามินเอ ดี อีและบี 12 นอกจากนี้ยังมีโคลีนอีกด้วย
>>แครอต
อุดมด้วยเบตา-แคโรทีนซึ่งจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอเมื่ออยู่ในร่างกาย แครอตปรุงสุกมีรสหวานตามธรรมชาติ แต่ต้องสุกจนนิ่มมากจริง ๆ
>>โยเกิร์ต
ให้แคลเซียม โปรตีนและฟอสฟอรัสซึ่งทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง และยังมีโพรไบโอติกซึ่งดีต่อระบบย่อยอาหารและระบบภูมิคุ้มกัน ควรเลือกโยเกิร์ตที่ทำจากนมครบส่วนและหลีกเลี่ยงโยเกิร์ตรสผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง หากอยากเพิ่มรสชาติจะผสมผลไม้บดเล็กน้อยลงไปก็ได้
>>เนื้อไก่
อุดมด้วยโปรตีนและวิตามินบี 6 ถ้าลูกไม่ชอบรสชาติของเนื้อไก่ ให้ผสมด้วยผักหรือผลไม้ที่เขาชอบ
>>ผลไม้ตระกูลส้มหรือเบอร์รี่
อุดมด้วยวิตามินซีที่ช่วยสร้างคอลลาเจนในกล้ามเนื้อ กระดูกและเนื้อเยื่ออื่น ๆ ช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก ผลไม้ตระกูลส้มยังมีโพแทสเซียมซึ่งทำให้กล้ามเนื้อหดตัวและช่วยรักษาสมดุลของสารน้ำในร่างกาย แต่ผลไม้เหล่านี้มีความเป็นกรดสูง จึงควรให้กินหลัง 1 ขวบไปแล้ว
>>ฟักทอง
อุดมด้วยเบตา-แคโรทีน ทั้งยังให้วิตามินซี โพแทสเซียม ไฟเบอร์ โฟเลต วิตามินบีและมีแม้กระทั่งกรดไขมันโอเมกา-3 ปรุงด้วยการปอกเปลือก นึ่งหรือต้มจนนิ่ม แล้วบดจนเนียน
>>ปลา
ปลาเนื้อขาวอุดมด้วยโปรตีน ส่วนปลาที่มีไขมันสูงอย่างแซลมอนก็ให้วิตามินชนิดที่ละลายในไขมัน รวมทั้งกรดไขมันจำเป็นอย่าง DHA
เครดิต : KHANPAK และ MUMHELPER