สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดแผนการตลาดธุรกิจการจัดประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลปี 2560 จัดเซ็กเมนต์ใหม่เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายหลัก เดินหน้ากลยุทธ์เชิงรุกหวังสร้างรายได้ไมซ์ได้เพิ่มขึ้น ชูแคมเปญการตลาด Meet in Style, Meet in Thailand ดึงนักเดินทางกลุ่มไมซ์จากทั่วโลก พร้อมจัดงาน Industry Day 2016 แนะแนวโน้มตลาดโลกในปีหน้าต่อผู้ประกอบการไมซ์ไทย
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า "จากการศึกษาเรื่องผลกระทบเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศไทย พบว่า มูลค่าการใช้จ่ายทั้งหมดในระบบเศรษฐกิจจากการดำเนินกิจกรรมของอุตสาหกรรมไมซ์ในปี 2558 คิดเป็นจำนวน 2.2 แสนล้านบาท อุตสาหกรรมไมซ์ยังส่งผลต่อการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจประมาณ 164,427 อัตรา และยังส่งผลประโยชน์เชิงปริมาณที่เกิดจากการสร้างเครือข่าย การสร้างตราสินค้าและการแบ่งปันทักษะระหว่างอุตสาหกรรม สำหรับอุตสาหกรรมการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล หรือ MI นั้นพบว่า ในปี 2558 มีมูลค่าการใช้จ่ายทั้งหมดในระบบเศรษฐกิจจากการดำเนินกิจกรรมของอุตสาหกรรม MI คิดเป็นจำนวน 1 แสนล้านบาท และยังส่งผลต่อการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจประมาณ 73,000 อัตรา นับเป็นการแสดงให้เห็นถึงธุรกิจไมซ์ โดยเฉพาะในส่วนของ MI ที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่เศรษฐกิจของประเทศ
ด้านภาพรวมของธุรกิจไมซ์ ในช่วง 3 ไตรมาสของปีงบประมาณ 2559 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์รวม 750,742 คน สร้างรายได้ 60,593 ล้านบาท คิดเป็นนักเดินทางกลุ่ม MI จำนวน 393,859 คน สร้างรายได้ 29,664 ล้านบาท โดยมีนักเดินทางกลุ่มไมซ์จากอินเดียเป็นอันดับหนึ่ง รองมา คือ จีน และสิงคโปร์ โดยตลาดหลักของธุรกิจ MI คือภูมิภาคเอเชีย ตลาดรอง คือ ยุโรป สหรัฐอเมริกา และโอเชียเนีย ส่วนกลุ่มตลาดใหม่ที่กำลังศึกษาข้อมูลและเริ่มสร้างการรับรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทย คือ ยุโรปตะวันออก กลุ่มประเทศ CIS (Commonwealth of Independent States) ทั้งนี้สำหรับภาพรวมแผนตลาด MI ในปี 2560 นั้น ทีเส็บกำหนดแผนตลาดธุรกิจ MI เน้นกลยุทธ์เชิงลึก แบ่งกลุ่มเป้าหมายใหม่ตามเซ็กเมนต์หลักที่มีการใช้งบประมาณในการเดินทางและทำกิจกรรมต่อครั้งค่อนข้างสูง รวมทั้งกำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมายของแต่ละกลุ่ม และแนวทางการเจาะตลาดของกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้
ด้าน นางสาวนุช หอมรสสุคนธ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล ทีเส็บ กล่าวว่า "ในปี 2560 ตลาด MI มีการกำหนดเป้าหมายใหม่เป็น 3 กลุ่มหลักที่มีคุณภาพ ได้แก่ กลุ่มเมกะไซส์ ที่มีจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ 2,000 รายขึ้นไป เน้น กลุ่มธุรกิจขายตรง/ ประกัน/ โทรคมนาคม/ ไอที/ ยานยนต์ โดยเฉพาะประเทศจีน/ อินเดีย และกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก กลุ่มการจัดประชุมองค์กร โดยมีลักษณะเป็นการประชุมบอร์ด ประชุมประจำปี ประชุมระดับภูมิภาค ในธุรกิจอาทิ การเงิน การธนาคาร/ ยานยนตร์/ ไอที/ โทรคมนาคม/ เภสัชภัณฑ์ มุ่งเน้นที่ประเทศญี่ปุ่น/ สิงคโปร์/ มาเลเซีย/ สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย และ กลุ่มท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในระดับพรีเมียม ซึ่งเป็นกลุ่มขนาดเล็กแต่มีอัตราการใช้จ่ายต่อหัวสูง อาทิ ผู้บริหารระดับสูงของธุรกิจขายตรง/ ไอที/ โทรคมนาคม/ ยานยนต์ มุ่งเน้นที่ประเทศจีน/ สิงคโปร์/ สหรัฐอเมริกา/ ญี่ปุ่น/ อินเดีย/ ออสเตรเลีย และยุโรป"
ทีเส็บกำหนดแผนและแนวทางส่งเสริมการตลาดใน 5 รูปแบบหลัก เน้นทำงานร่วมกับภาคีพันธมิตร ขยายตลาดใหม่และสร้างกิจกรรมที่หลากหลายให้แก่นักเดินทางกลุ่มไมซ์ ประกอบด้วย แนวทางแรก การเข้าร่วมงานเทรดโชว์ครอบคลุมทุกภูมิภาค อาทิ งาน AIME 2017 / IMEX Frankfurt 2017 / IMEX America 2017 เป็นต้น แนวทางที่ 2 จัดกิจกรรมโรดโชว์ในตลาดเป้าหมาย อย่าง อินเดีย จีน ญี่ปุ่น แนวทางที่ 3 ตั้งเป้าหมายการขายในตลาดศักยภาพใหม่ อาทิ ตลาดพรีเมี่ยม แนวทางที่ 4 จัดกิจกรรมเชิญกลุ่มลูกค้าองค์กร และตัวแทนการขาย ร่วมเสวนาในเวทีการแลกเปลี่ยนความรู้ รวมถึงสร้างโอกาสทางธุรกิจ และสัมผัสประสบการณ์ไมซ์ในประเทศไทย โดยมีโครงการ Thailand Incentive and Meeting Exchange (TIME) เป็นงานประจำปีที่มี 3 กิจกรรมภายในงาน คือ Knowledge Exchange / Business Exchange และ Experience Exchange และแนวทางที่ 5 การขยายตลาดผ่านตัวแทนในต่างประเทศ ซึ่งในปีหน้าได้ขยายไปสู่ยุโรปและออสเตรเลีย จากปัจจุบันที่มีในจีน อินเดีย ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ ส่วนในประเทศที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงอย่างจีน ก็มีการขยายกิจกรรมจากเมืองหลักอย่างปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกวางโจว ออกสู่เมืองรอง ได้แก่ เซินเจิ้น เฉิงตู ฉงชิ่ง หังโจว ซูโจว และนานจิง