สวัสดีค่ะ วันนี้มีเมนูคลายร้อนมาส่งต่อกันอีกแล้ว ครั้งนี้คุณแมวเหมียวโมจิ แห่งกระทู้พันทิปดอทคอม เธอมาพร้อมเมนูหวานเย็นทานเล่นให้เย็นชื่นใจอย่าง “วุ้นกะทิผลไม้” มาฝากกันด้วย ดูแล้วไม่ยากเกินความสามารถทุกคนแน่นอนค่ะ
ส่วนผสม 1.วุ้นผง
2.ผลไม้ตามชอบหั่นเต๋าชิ้นเล็กๆ (องุ่นกับแก้วมังกร)
3.น้ำตาลทราย
4.กะทิ (ใช้กะทิผงเพราะหากะทิสดไม่ได้และกะทิกล่องหมดค่ะ)
5.เกลือป่นเล็กน้อย
6.น้ำลอยดอกมะลิ (ใช้น้ำเปล่าแทน)
7.ใบเตยมัด (ไม่ใส่ก็ได้)
ภาชนะที่เราจะใส่วุ้นก็เป็นพิมพ์แบบในรูปค่ะ ใครมีถ้วยวุ้นแบบพลาสติกก็ใช้ได้ จะใส่ถ้วยหรือภาชนะอื่นๆ ที่มีก็ตามสะดวกเลยค่ะ

วิธีทำ 1.นำวุ้นผงใส่ลงในหม้อตามด้วยน้ำเปล่าคนจนวุ้นไม่จับตัวเป็นก้อน
2.ต่อมาเรามาจัดเรียงผลไม้ใส่ลงในพิมพ์รอกันเลยค่ะ
3.นำหม้อที่ละลายผงวุ้นแล้วขึ้นตั้งเตา ใช้ไฟกลางคนเรื่อยๆ
4.พอวุ้นละลายหมดแล้วใส่น้ำตาลทรายตามลงไป
ความหวานแล้วแต่คนชอบนะคะ
5.พอดีเรามีใบเตยอยู่เยอะแล้วน้ำที่ใส่มันก็เป็นน้ำเปล่า ไม่ใช่น้ำลอยดอกมะลิเลยใส่ใบเตยมัดลงไปกะว่าอาจจะได้มีกลิ่นหอมๆ กับเค้าบ้าง ในรูปนี้วุ้นเดือดแล้วแล้วนะคะ เรารีบตักใบเตยมัดออกโดยบีบให้น้ำที่อุ้มใบเตยอยู่ออกมาด้วยเพราะไม่งั้นพอมันแห้งแล้วจะกลายเป็นวุ้น (เกาะ) ใบเตยแทนค่ะ
6.ตักวุ้นใส่พิมพ์ที่มีผลไม้รออยู่ที่ทางช้างเผือกเอ้ย รออยู่ในถาดค่ะ ตักวุ้นใส่ไปประมาณ 2/3-3/4 ของพิมพ์ ขั้นตอนนี้เราใช้ถาดใส่น้ำเย็นช่วยจะทำให้วุ้นแข็งตัวเร็วขึ้นนะคะ
7.ต่อไปก็มาทำหน้าที่เป็นกะทิกันต่อค่ะ ขั้นนี้เราไม่มีรูปบนเตานะคะพอดีค่อนข้างวุ่นวายเพราะเจ้าลูกชายตัวเล็กเริ่มงอแงด้วย เรานำกะทิผงผสมกับน้ำเปล่าคนให้เข้ากันตามด้วยผงวุ้นคนอย่าให้วุ้นจับตัวเป็นก้อน แล้วก็น้ำขึ้นตั้งไฟอ่อนคนจนวุ้นละลาย ตามด้วยเติมน้ำตาลทรายและเกลือป่นเล็กน้อยค่ะ ขั้นนี้คุณพิมบอกว่าให้ระวังอย่าให้กะทิแตกพล่านเพราะเวลาราดหน้าแล้วมันจะไม่สวยค่ะ เราคนไปเรื่อยๆจนกะทิเดือดปุดๆก็เอาลงจากเตา แล้วตักใส่พิมพ์ที่มีวุ้นรออยู่อย่างเบามือ
8.ขั้นนี้สำคัญนะคะ ก่อนราดกะทิต้องเช็คหน้าวุ้นก่อนว่ามันเริ่มเซ็ทตัวแล้ว ต้องกะเวลาให้ดีเพราะถ้าวุ้นแข็งกระด้างไปพอราดกะทิลงไปแล้วมันอาจจะแยกชั้นไม่ยอมติดกันตอนถอดออกจากพิมพ์ ถ้าวุ้นยังไม่เซ็ทตัว กะทิที่เราราดก็จะไปผสมกับตัววุ้น กลายเป็นพังแทนที่จะปังอะค่ะ
9.วางวุ้นทิ้งไว้ให้เซ็ทตัวดี ขั้นตอนนี้ใครใจร้อนอยากให้มันเสร็จเร็วขึ้นอาจจะเอาเข้าตู้เย็นก็ได้ค่ะ ใครอยากจะทานทั้งในพิมพ์นั้นเลยก็ได้ แต่เราอยากถอดออกมาก็เอาไม้จิ้มฟันแงะๆที่ขอบพิมพ์เอาค่ะ