ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายจ่อเข้ามาแทรกจริงๆ กับเรื่องที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ยังไม่สามารถสร้างความกระจ่างให้แก่ผู้คนในสังคมต่อกรณีไล่เบี้ยเอาผิดและลงโทษ“ทรูวิชั่นส์”ผู้ประกอบการเคเบิ้ลทีวีและเพย์ทีวีรายใหญ่ของไทย ที่“หักดิบ” ลูกค้าสมาชิกด้วยการยกเลิก 6 ช่องรายการหนังแม่เหล็ก HBO ไปตั้งแต่วันที่1 มกราคมที่ผ่านมาโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า
ด้วยข้ออ้างไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางธุรกิจกับผู้ให้บริการได้ แถมยังมัดมือชกให้ต้องซื้อเหมารวมทั้งแพคเกจ บริษัทจึงต้อง “ปิดฉาก”ล้มโต๊ะเจรจา ก่อนที่ผู้บริหารทรูวิชั่นส์จะโอ่ผลงาน“ชิ้นโบว์แดง”ด้วยการยัดช่องรายการใหม่ 7 ช่องที่อ้างว่าได้รับความนิยมไม่แพ้ HBO เข้ามาเสียบแทนอาทิ Warner TV, Paramount Channel HD, Food network ,Celestial Classic Movies เป็นต้นทำเอาสมาชิกทรูวิชั่นส์ถึงกับ "ปวดตับ" อยากจะบุกขึ้นไปแหวกอกผู้บริหารทรูวันละ 3 เวลาซะให้รู้แล้วรู้รอด เพราะช่องรายการที่ทรูวิชั่นส์เข็นมาเสียบแทนนั้น มันหนังคนละม้วนกันเลย!
แต่กระนั้นบอร์ดกสท.ก็ไฟเขียวอนุมัติให้ทรูวิชั่นส์ยกเลิกช่องแม่เหล็กดังกล่าวไปดื้อๆ ทั้งที่ยังไม่เห็นแผนเยียวยาลูกค้าผู้ใช้บริการแม้แต่น้อย เออ!ให้มันได้อย่างนี้ซิองค์กรกำกับดูแลกิจการวิทยุโทรทัศน์ไทย! แถมถัดมาอีกสัปดาห์ยังมีข่าวทรูวิชั่นส์ดอดยกเลิกช่องรายการอื่นๆ ตามมาอีกถึง 11 ช่องด้วยข้ออ้างผู้ให้บริการยุติการให้บริการในไทย งานนี้จึงยิ่งทำให้ลูกค้าสมาชิกทรูวิชั่นส์แน่นจุกอก อยากจะบุกไปแหวกอก กสท.ด้วยอีกองค์กร!!!
ก่อนที่คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ในกสทช.จะออกโรงไล่บี้ให้ทรูวิชั่นส์เสนอมาตรการเยียวยาผู้บริโภคที่เป็นสมาชิก แต่ก็ยังไม่สามารถจะหาข้อยุติที่เหมาะสมได้ เพราะนัยว่ามาตรการเยียวยาที่ทรูวิชั่นส์เสนอมานั้นยังไม่สอดคล้อง หรือเป็นไปตามประกาศ กสทช. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์พ.ศ.2555 และเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาต
แต่ที่ทำเอาหมู่มวลสมาชิกทรูวิชั่นส์กำสรวลหนักก็เพราะ ในขณะที่ยังรอความชัดเจนถึงมาตรการเยียวยาที่เป็นธรรม ทั้งอันเก่าที่ถูกทรูวิชั่นส์หักดิบแบบไม่แยแส และอันใหม่อีกนับสิบช่องนั้น วันวันคืนดีค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ “เอไอเอส” ก็สร้าง“บิ๊กเซอร์ไพร์ซ”แถลงข่าวใหญ่ระหว่างการประกาศวิสัยทัศน์เอไอเอสปี 2560 ด้วยการประกาศว่า ได้คว้าลิขสิทธิ์หนังช่อง HBO แถมพ่วงด้วย 21 ช่องของ FOX มาอยู่ใต้ชายคาเรียบร้อยแล้วและเตรียมเปิดให้บริการผ่าน Mobile และ “บรอดแบนด์IPTV” เต็มสตรีมในไตรมาส 2 ของปีนี้
เจอไม้นี้เข้าก็ก็ทำเอาลูกค้าทรูวิชั่นส์ออกอาการเหวอและ"หงายเงิบ" อยากจะลุกขึ้นไปแหกอกผู้บริหารทรูวิขั่นส์เป็นหนสอง ก็ไหนว่าที่ต้องล้มโต๊ะเจรจาปิดฉากช่อง HBO เพราะถูกมัดมือชกจะให้เหมาหมดทุกรายการแต่ไหง HBO โผไปซบอกคู่แข่งซะงั้น!
เจอน้องใหม่ร้ายบริสุทธ์แถมใจถึงพึ่งได้ปาดหน้าคว้าลิขสิทธิ์แบบนี้ แทนที่ทรูวิชั่นส์จะหันไปสำรวจตนเองว่ามีอะไรจะงัดขึ้นมาปลอบประโลมลูกค้าสมาชิกไม่ให้ลุกฮือขึ้นมาแหกอก หรือพาเหรดไปซบอกอก “เอไอเอส” ที่ประกาศเปิดตัว AIS Play Digital for Live แถมยังขนเอาเทคโนโลยีใหม่อย่าง Google Cromecast มาเปิดตัวกันสุดกระหึ่มหวังดึงลูกค้าทรูวิชั่นส์เต็มพิกัด
แต่ก็กลับมีกระแสข่าวว่า ผู้บริหารทรูวิชั่นส์กลับไปงัดลูกไม้เก่าไล่สกัดคู่แข่ง ถึงขั้นดอดร้องเรียนไปยังกสท.ให้เข้ามากระตุกเบรกเอไอเอสที่จะเปิดบริการ HBO และ FOX ทั้งที่ยังไม่ได้มีการลงนามในสัญญา โดยอ้างว่าเป็นการจงใจ “ตีท้ายครัว” ทำลายธุรกิจทรูวิชั่นส์โดยตรง เป็นการทำธุรกิจที่ไม่มีความเป็นธรรมอะไรเบอร์นั้น!!!
แม้ผู้บริหารทรูวิชั่นส์จะออกโรงยืนยัน นั่งยันไม่เคยมีพฤติกรรมอะไรที่ว่าและไม่ได้ส่งหนังสือร้องเรียนอะไรที่ว่าแถมออกอาการหัวหัดหัวเหวี่ยงกับกระแสข่าวที่เล็ดรอดออกมา แต่หากพิจารณาจากกรณีที่กสทช.คนดัง "สุภิญญา กลางณรงค์" ในฐานะประธานอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ที่ทวิตเตอร์ข้อความโดยระบุว่าในมุมของงานคุ้มครองผู้บริโภคนั้นไม่ได้ดูว่าดีลธุรกิจระหว่างทรูวิชั่น HBO และ AIS เป็นอย่างไร แต่จะดูแค่ว่าเอกชนละเมิดสัญญากับสมาชิกเพย์ทีวีหรือไม่เป็นสำคัญ
“ข้อเท็จจริงสำหรับสมาชิกคือ ทางเอกชน(ทรูวิชั่นส์) มาขอยกเลิก 6 ช่องรายการโดยไม่แจ้งสมาชิกล่วงหน้าและกสท.ก็ให้ยกเลิกสิทธิ์นั้นไปแล้ว ในมุมกลับกันถ้ากสท.ยังไม่มีมติให้ยกเลิก 6 ช่องเอกชนยังถือว่ามีสิทธิ์อยู่ แต่ในทางกฎหมายขณะนี้คือสละสิทธิ์ 6 ช่องรายการนั้นไปแล้ว”
ส่วนดีลระหว่างเอไอเอสกับ HBO นั้นแม้จะเป็น Exclusive แต่ก็ครอบคลุมเฉพาะการให้บริการบนเครือข่ายมือถือและอินเตอร์เน็ต" IPTV"เท่านั้น ไม่ได้ครอบคลุมไปถึงเคเบิ้ลทีวีและดาวเทียมแต่อย่างใด กลายเป็นว่าตอนนี้ HBO ถือไพ่เหนือกว่าหากจะกลับไปเจรจากับผู้ให้บริการเคเบิ้ลเดิมหรือดาวเทียมจะทำให้มีช่องทางให้บริการกว้างกว่าเดิม
เป็นการส่งสัญญาณไปถึงใครหรือไม่ และกรณีร้องเรียนดังกล่าวมีจริงหรือไม่ก็ให้น่าคิด?!!!
คงต้องฝากเตือนไปยังบอร์ดกสท.และกสทช.ลำพังแค่ที่หลวมตัวไปเห็นชอบให้เขายุติช่องรายการแม่เหล็ก ลอยแพสมาชิกแบบไม่แยแส โดยไม่แจ้งล่วงหน้าทั้งที่ยังไม่ได้ดำเนินมาตรการเยียวยาที่เป็นธรรมแก่มวลสมาชิกนั้น ก็ทำเอาผู้คนในสังคมเอือมระอากับบทบาทการทำหน้าที่ของ กสท.กันมากพออยู่แล้ว เพราะจนป่านนี้ก็ยังไม่เห็นว่าบอร์ดกสท.และกสทช.จะลงโทษ “เด็กเกเร” ที่ไม่ทำตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตตามประกาศของกสทช.แต่อย่างใด
วันนี้ผู้คนในสังคมต่างโหยหาคอนเทนต์ใหม่ ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆที่จะทำให้อุตสาหกรรมวิทยุโทรทัศน์และโทรคมนาคมไทยก้าวข้ึนไปอีกขั้น ซคางน่าจะเป็นโอกาสดีที่ กสท.และกสทช.จะได้หวนกลับมาทบทวนบทบาทตัวเอง (Turnaround ) เพื่อสนองความต้องการของคนส่วนใหญ่ของประเทศกันเสียที
ที่ผ่านมานั้นก็ได้ให้การโอบอุ้มค่ายมือถือค่ายนี้กันจนแทบจะสำลักกันอยู่แล้ว หาก กสท.และกสทช.ยังไปบ้าจี้สั่งสอบเอไอเอสตามที่มีกระแสข่าวมาจริงก็ให้ระวังสังคมจะตั้งคำถามตกลงองค์กรนี้ตั้งขึ้นมาทำ(ซาก)อะไรกันแน่??? !