หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: ลุงตู่รักเหล่าเจ้าสัวจริงหรือ??  (อ่าน 104 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 25 ธ.ค. 17, 16:27 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 
ในต่างประเทศเป็นที่รู้กันว่ารัฐบาลมักจะต้องอาศัยภาคเอกชนที่เป็นยักษ์ใหญ่มาช่วยสนับสนุนการทำงานของภาครัฐในหลายๆโครงการเสมอ ที่เรารู้จักกันในนามของ PPP (Public Private Partnership) แล้วเพราะอะไรรัฐถึงทำเองไม่ได้นะหรือ หลักๆก็ต้องขอบอกว่าเป็นเรื่องของเงินทุน เทคโนโลยีและ know how ต่างๆ ตลอดจนทรัพยากรกรบุคคลที่ภาครัฐนั้นมีจำกัด และภาคเอกชนนั้นมักจะสามารถเกื้อกูลสิ่งเหล่านี้ให้กับทางภาครัฐได้ โดยเฉพาะในด้านที่เอกชนทำธุรกิจด้านนั้นอยู่แล้ว ก็ไม่แปลกใจที่จะเห็นลุงตู่ของเราจับมือกับเหล่านายทุนอย่างแน่นแฟ้น

ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้ามองให้ลึกจริงก็เพื่อที่พยายามจะจูงใจภาคเอกชนให้มาสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติ เพื่อให้เกิดการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี ตลอดจนสังคมและการศึกษา เมื่อเราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าบริษัทยักษใหญ่เหล่านั้นสามารถช่วยในเรื่องของการจ้างงาน ค่าแรง ตลอดจนสวัสดิการต่างๆที่สามารถช่วยให้ประชาชนนั้นมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นได้ เพราะถ้าจะหวังรอการทำงานจากภาครัฐอย่างเดียวนั้นอาจจะต้องใช้เวลาอีกหลายสิบปี หรืออีกหลายชั่วอายุคนเลยก็ว่าได้ จุดนี้จึงทำให้ลุงตู่ดูสนิทสนมกลมเกลียวกับเอกชนบริษัทใหญ่ๆ นั่นก็เพราะว่าท่านยังต้องใช้บริษัทเหล่านั้นทำงานตอบแทนประเทศให้ท่านอีกมากนั้นเอง

เมื่อ 30 ปีที่แล้วไทยกำลังจะเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเซีย แต่ปัจจุบันเหมือนจะกลายเป็นแมวหลงทางอย่างไรไม่รู้ มาเลเซียที่เศรษฐกิจใกล้เคียงประเทศไทยเมื่อประมาณสิบกว่าปีก่อน ปัจจุบันมีรายได้ประชากรเฉลี่ยต่อหัวมากกว่าประเทศไทยเราเกือบสองเท่า โดยปี 2016 ของไทยอยู่ประมาณ 6,000 USD ในขณะที่มาเลเซียนั้นอยู่ที่ประมาณ 11,000 USD (ข้อมูลจาก tradingeconomics.com) และถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปอีกหน่อยประเทศลาว หรือเวียดนามรายได้ประชากรก็จะนำเราไปเป็นแน่ ปัจจุบันก็เรียกว่าแทบจะหายใจรดต้นคอกันแล้ว

ล่าสุดลุงตู่ก็ได้ให้ของขวัญปีใหม่ธุรกิจเอกชนขนาดกลางและรายย่อย โดยที่ประชุมบอร์ดใหญ่ สสว. (สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อย) ได้อนุมัติงบฟื้นฟูกิจการ SMEs กว่า 3,000 ล้านบาท โดยให้การอุดหนุนแบบมีเงื่อนไขชำระคืนอย่างผ่อนปรนหรือเงินร่วมทุนจำนวน 2,000 ล้านบาท และการจัดสรรเงินกองทุน สสว. อีก 1,226 ล้านบาท เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และแก้ปัญหาที่ชาวบ้านเรียกกันว่ารวยกระจุกจนกระจายนั่นเอง


ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะต้องดึงศักยภาพที่ดีที่สุดออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นจากภาครัฐ หรือเอกชนทั้งใหญ่ กลางและเล็ก หรือรัฐวิสาหกิจก็ดี มาร่วมมือกันให้ได้มากที่สุด รักกันสิดี ดีกว่ามานั่งทะเลาะกันไปมา เผื่อว่าในอนาคตอีกห้าปีหรือสิบปีข้างหน้าเราจะกลับไปเป็นเสืออีกครั้ง

White Knight.


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 ธ.ค. 17, 16:47 น โดย sanddy55 » noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

Tags:
Tags:  

หน้า: 1

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม