
พลังความรักความอาลัยของคนไทยและทั่วโลกยังคงหลั่งไหลสู่เมืองไทยไม่หยุด ในการจากไปของ “วิชัย ศรีวัฒนประภา” ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ THE POSSIBLE MAN VS : ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้
“ประธานวิชัย” มักพูดในตอนมีชีวิตอยู่ให้เพื่อนฝูงได้ฟังเสมอ ๆ ว่า แม้จะยากลำบากขนาดไหนก็จะยึดมั่นใน “พลังความดี” นำธุรกิจก้าวผ่านมรสุมต่าง ๆ ไปให้ได้ และพร้อมจะปกป้องศักดิ์ศรีคนไทย “รักษาธุรกิจที่คนไทยเป็นเจ้าของ” ไว้ด้วยการเลือกใช้เครื่องมือ วิธีการ อย่างถูกต้อง มีน้ำใจนักกีฬา เล่นในเกม ทุกครั้งเมื่อกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เข้าสู่สนามแข่งขันการประมูล
งาน จึงพร้อมจะใส่ตัวเลขตามกติกาให้กับหน่วยงานรับผิดชอบนั้น ๆ และรัฐบาลได้รับประโยชน์อย่างคุ้มค่ามากที่สุด
การทำธุรกิจด้วยจิตวิญญาณจากหัวใจของ “ประธานวิชัย” กระทั่งตอนนี้กลายเป็น “ปรากฏการณ์ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่” จนผู้คนพากันเรียกว่า “อาณาจักร คิง เพาเวอร์” ซึ่งมีเบื้องหลังการเติบโตอย่างเข้มแข็งต่อเนื่องมาเป็นเวลา 30 ปี ด้วยพื้นฐานเดียวกันกับการลงทุนทั่วไป นั่นคือ 20 ปีแรกต้องบริหารจัดการเงินลงทุนโดย “กู้หนี้-ยืมสิน” มูลค่านับร้อยนับพันล้านบาท ผ่านเหตุการณ์ความร้อนหนาว ในวันที่คิง เพาเวอร์ ยังต้องเดินหน้าแต่ขาดเงินพัฒนาโครงการ เชื่อหรือไม่ว่าแม้แต่สถาบันการเงินบางแห่งก็ยังไม่ยอมให้เงินกู้หรือสนับสนุนด้วยซ้ำ

ดังนั้นกว่าที่ “อาณาจักร คิง เพาเวอร์” จะรุ่งเรืองมาถึงทุกวันนี้ แล้วไปสร้างชื่อเสียงให้กับ “ประเทศไทย” โด่งดังทั่วโลกได้ ด้วยการทำให้มีเงินและสินทรัพย์หมุนเวียนปัจจุบันตามการรวบรวมของนิตยสาร Forb ระบุ 1.62 แสนล้านบาท
“ประธานวิชัย” ต้องใช้พลังใจและพลังกายมหาศาลทุ่มเทนำองค์กรต่อสู้กับทุกอุปสรรคปัญหา โดยเฉพาะในประเทศต้องทนอยู่กับการถูกกล่าวหาโจมตีว่าเป็น “ผู้ผูกขาดสัมปทาน” ทั้ง ๆ ที่ในการลงแข่งขันเข้าร่วมประมูล ตามเงื่อนไขของทุกหน่วยงานกำหนดไว้ชัดเจนว่า “ผู้ที่เสนอผลประโยชน์ตอบแทนรัฐสูงสุด” คือ “ผู้ชนะ” ได้สิทธิเข้าดำเนินธุรกิจอย่างชอบธรรม