โรงงาน Shenyang Interconnected Refrigerator Factory ของบริษัทไฮเออร์ (SHA: 600690) ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดในจีน เป็นโรงงานใหม่หนึ่งใน 18 แห่งที่ได้รับเลือกให้เข้าร่วมเครือข่าย Global Lighthouse Network ของ World Economic Forum (WEF) ซึ่งประกอบด้วยบรรดาผู้นำด้านการผลิตขั้นสูงที่ประสบความสำเร็จในการใช้เทคโนโลยีสุดล้ำในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (4IR) นับเป็นครั้งที่สองที่ไฮเออร์ได้รับการยอมรับจาก WEF หลังจากที่โรงงาน Qingdao Central-AC (CAC) Interconnected Factory ได้รับเลือกให้เข้าร่วมเครือข่ายเมื่อเดือนกันยายน 2561
โรงงานที่ผ่านการคัดเลือกมีชื่อเรียกว่า "Lighthouse" (ประภาคาร) เนื่องจากเป็นผู้บุกเบิกและผู้นำในระดับโลก ทาง WEF คัดเลือกโรงงานโดยพิจารณาจากความสำเร็จในการนำเทคโนโลยี 4IR มาใช้ในการกระบวนการผลิตอัจฉริยะ จนก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งในส่วนของการดำเนินงาน การเงิน และสิ่งแวดล้อม
เทคโนโลยีสุดล้ำแห่งยุคประกอบด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ การวิเคราะห์บิ๊กดาต้า การพิมพ์ 3 มิติ และ Internet of Things (IoT) ในบรรดาโรงงาน Lighthouse แห่งใหม่นั้น ครึ่งหนึ่งเป็นโรงงานครบวงจร ซึ่งหมายความว่าโรงงานเหล่านี้ไม่เพียงสร้างคุณค่าในส่วนของการผลิตเท่านั้น แต่ยังสร้างผลกระทบตลอดห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดด้วย ซึ่งโรงงาน Lighthouse ของไฮเออร์ทั้งสองแห่งก็เป็นโรงงานครบวงจร
"โรงงาน Shenyang Interconnected Refrigerator Factory ของไฮเออร์ ซึ่งเป็นโรงงานแรกที่มีระบบนิเวศแบบ interconnected ได้รับเลือกเพราะใช้หลักการผลิตแบบ mass customization ที่มีความยืดหยุ่นและคำนึงถึงผู้ใช้เป็นหลัก โดยได้รับการสนับสนุนจาก COSMOPlat แพลตฟอร์ม mass customization ที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งบริษัทพัฒนาขึ้นเอง" ถิงอี้ โหว ผู้อำนวยการโรงงาน กล่าว
Haier Smart Home นำประสบการณ์ด้านการผลิตอัจฉริยะของโรงงาน Interconnected Factory รวม 15 แห่งทั่วประเทศมาใช้พัฒนามาตรฐานการผลิต 328 ประการ ระเบียบวิธี 87 ขั้นตอน และคู่มือ 56 ฉบับ เพื่อบูรณาการแพลตฟอร์ม COSMOPlat กับระบบคลาวด์ นำไปสู่การยกระดับระบบอัตโนมัติและการผลิตอัจฉริยะของโรงงาน 122 แห่ง
เมื่อเทียบกับการผลิตแบบดั้งเดิม แพลตฟอร์ม COSMOPlat สามารถผนวกกระบวนการในโรงงานและห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดในรูปแบบดิจิทัล โดยอาศัยบิ๊กดาต้า คลาวด์คอมพิวติ้ง และ IoT แพลตฟอร์มนี้เชื่อมซัพพลายเออร์กับผู้บริโภคเข้าด้วยกัน ช่วยให้ลูกค้าสามารถสื่อสารความต้องการให้โรงงานรับทราบได้โดยตรง ซึ่งไม่เพียงเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมในขั้นตอนของการออกแบบและการผลิตเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผลิตสินค้าได้ตามความต้องการของผู้บริโภค แม้จะเป็นความต้องการพิเศษที่ไม่เหมือนใครก็ตาม
การผลิตรูปแบบดังกล่าวช่วยให้ผลิตสินค้าได้ด้วยความแม่นยำสูงตามความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ทำให้มีประสิทธิภาพมากกว่าและสร้างความเป็นไปได้ให้แก่ผู้ใช้งานมากกว่า โดยสายการผลิตอัจฉริยะระบบอัตโนมัติและระบบข้อมูลดิจิทัลถูกนำมาใช้ในกระบวนการทั้งหมด ส่งผลให้ผลิตภาพแรงงานเพิ่มขึ้นถึง 28%
ในฐานะสมาชิกของ Global Lighthouse Network ไฮเออร์มุ่งมั่นแบ่งปันประสบการณ์ในการพลิกโฉมอุตสาหกรรม เพื่อช่วยยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลก โดยบริษัทเป็นผู้นำในการเสนอ Hannover Proposal of Global Lighthouses เพื่อกำหนดและใช้มาตรฐานอุตสาหกรรมร่วมกัน ทั้งในส่วนของมาตรฐานต่าง ๆ เทคโนโลยี ความปลอดภัย บุคลากร ฯลฯ
สามารถดูสมุดปกขาวฉบับเต็มของ Global Lighthouse Network ได้ที่ http://www3.weforum.org/docs/WEF_Global_Lighthouse_Network.pdf
รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20200116/2694575-1
