เป็นการต้อนรับเทศกาลตรุษจีนด้วยข่าวที่สร้างความหวั่นวิตกให้กับผู้ที่กำลังเดินทางไปยังท่องเที่ยวยังประเทศจีน และผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศปลายทางยอดนิยมของชาวจีนอย่างประเทศไทย กับข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ที่แพร่ระบาดออกเป็นวงกว้างออกมาจากเมืองอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย ในภาคกลางของสาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านระบบทางเดินหายใจ แล้วเราคนไทยควรจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้อย่างไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป สินมั่นคง ประกันสุขภาพ มีข้อมูลมาฝากกันค่ะ
‘ไวรัสโคโรน่า’ คืออะไร?
‘ไวรัสโคโรน่า’ เคยระบาดมาแล้วก่อนหน้านี้ทั้งหมด 6 สายพันธุ์ และสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้เป็นสายพันธุ์ที่ 7 สามารถแพร่เชื้อติดต่อได้จากหลายปัจจัย เช่น การสัมผัสคนป่วย หรือ พื้นผิวที่คนป่วยสัมผัสไว้ ซึ่งอาจมีน้ำมูก น้ำลาย เสมหะปนเปื้อน และเกิดจากการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมจากการหายใจที่สามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายช่องทาง เช่น เยื่อบุทางเดินหายใจ ตา จมูก ปาก จากการ ไอ จาม หรือ ละอองฝอยที่ฟุ้งจากฝุ่น
‘ไวรัสโคโรน่า’ เกิดจากสาเหตุอะไร?
เดิมทีโรคปอดอักเสบจาก ‘ไวรัสโคโรน่า’ สายพันธุ์ใหม่อยู่ในตระกูลเดียวกับไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคซาร์ส (SARS) หรือโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรงที่เคยระบาดหนักใน 37 ประเทศทั่วโลกซึ่งเป็นเชื้อที่ติดต่อจากคนสู่คน และจากการสอบสวนโรคเบื้องต้นในประเทศจีน พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ทำงานในตลาด หรือมีประวัติเดินทางไปที่ตลาดค้าส่งอาหารทะเลแห่งหนึ่งกลางเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นตลาดที่มีการค้าสัตว์หลายชนิด เช่น นก, ไก่ฟ้า, งู, เครื่องในกระต่าย และสัตว์ป่าอื่นๆ และขณะนี้ตลาดดังกล่าวได้มีการจัดการด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม และถูกปิดไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563
ผู้ติดเชื้อ ‘ไวรัสโคโรน่า’ มีอาการอย่างไร?
อาการป่วยของ ‘ไวรัสโคโรน่า’ สายพันธุ์ใหม่ 2019 มีลักษณะหลายกลุ่ม ตั้งแต่เป็นหวัดเพียงเล็กน้อยและรุนแรงไปจนถึงขั้นเสียชีวิต อาทิ กลุ่มอาการคล้ายไข้หวัด คือ น้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอ กลุ่มอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ คือ ไข้สูง ปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัว ไอ หรือลุ่มอาการปอดอักเสบซึ่งมีทั้งรุนแรงและไม่รุนแรง
ข้อควรระวัง
ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า หากผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศจีน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง (ผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยเรื้อรัง/ผู้เดินทางไป-กลับจากพื้นที่เสี่ยง) มีอาการต่อไปนี้ในระยะ 14 วัน ให้รีบพบแพทย์โดยด่วน ได้แก่
• มีไข้สูงเกินกว่าอุณหภูมิปกติของร่างกาย หรือมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส
• ไออย่างต่อเนื่อง
• มีอาการเจ็บคอ คอแดง
• น้ำมูกไหล
• เหนื่อยหอบ
‘ไวรัสโคโรน่า’ ป้องกันได้อย่างไร?
‘ไวรัสโคโรน่า’ เป็นไวรัสที่ไม่ทนต่อความร้อน จึงสามารถป้องกันได้ง่าย ๆ ด้วยการ
1. กินของร้อน
2. ใช้ช้อนกลาง
3. ล้างมือบ่อย ๆ
4. ใส่หน้ากากอนามัย
แม้ว่าภายนอกนั้น เราจะไม่สามารถจำแนกได้เลยว่า อาการลักษณะใดคือป่วยหนักหรือไม่หนัก เนื่องจากโดยธรรมชาติของการติดเชื้อไวรัส ความรุนแรงในการก่อโรคของแต่ละคนจะมีอาการไม่เหมือนกัน หรือคนที่เคยสัมผัสเชื้อมาก่อนก็จะมีภูมิต้านทานบางส่วนในการป้องกันโรคในครั้งถัดไปได้ด้วย นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการติดไวรัสชนิดนี้ได้อีกทางหนึ่ง
ขอบคุณข้อมูลจาก www.smk.co.th