สำหรับเพื่อนๆคนไหนก็ตามที่ได้มีเงินฝากเอาไว้ในธนาคารนั้นก็อาจจะเห็นแล้วว่า
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารนั้นไม่สามารถที่จะทำให้เราได้
เงินก้อน หรือมีมูลค่าเงินที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นจากเงินที่เราได้ทำการฝากธนาคารเอาไว้มากนัก ฉะนั้นผู้คนส่วนใหญ่จึงมักนำเงินก้อนที่ตัวเองมีส่วนหนึ่งมาใช้ในการลงทุนกับสิ่งต่างๆเพื่อเป็นการเพิ่มจำนวนเงินให้เพิ่มมากขึ้นจากที่มี ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วนั้นเพื่อนๆก็มักที่จะหาตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงน้อยและได้รับผลประโยชน์ตอบแทนที่ดี และหนึ่งในตราสารหนี้ที่เพื่อนๆหลายคนมักจะนิยมนำเงินไปลงทุนกันนั้นก็คือ การลงทุนในตั๋วแลกเงิน ฉะนั้นแล้วสำหรับในวันนี้เราก็จะมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของ
ตั๋วแลกเงินนี้กัน โดยตั๋วแลกเงินนั้นมันก็จะประกอบไปด้วยกันทั้งหมด 3 ฝ่าย ซึ่งก็ได้แก่
1.ผู้สั่งจ่าย หรือความหมายของมันก็คือ ผู้ที่ได้ทำหน้าที่ในการออกหรือเขียนตั๋วแลกเงินใบนั้นโดยจะต้องทำการระบุชื่อผู้อื่นเอาไว้ในตั๋วแลกเงินนั้น
2.ผู้จ่าย หรือความหมายของมันก็คือ ผู้ที่ถูกระบุชื่อในตั๋วแลกเงินว่าจะเป็นผู้จ่ายเงินตามจำนวนตัวเลขที่ปรากฏในตั๋วแลกเงินซึ่งผู้สั่งจ่ายได้ระบุเอาไว้ในตั๋วแลกเงินใบนั้น หรือก็คือ ผู้ที่เป็นคนลงลายมือชื่อในด้านหน้าของตั๋วแลกเงินใบนั้นเพื่อเป็นการรับรองว่าจะจ่ายเงินตามคำสั่งของตัวแลกเงินใบนั้น
3. ผู้รับเงิน หรือผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินตามจำนวนที่ได้ระบุเอาไว้ในตั๋วแลกเงิน ซึ่งผู้รับเมืองสามารถที่จะทำการโอนกรรมสิทธิ์ในการรับเงินจากตัวแลกเงินนี้ไปให้แก่ผู้อื่นได้ ด้วยการทำการสลักหลังเพื่อส่งมอบซึ่งมันก็คือการลงชื่อไว้ได้หลังตั๋วแลกเงินเพื่อทำการโอนสิทธิ์นั้นเอง
แล้วเมื่อเรารู้แล้วว่าตั๋วแลกเงินนั้นมีด้วยกัน 3 ฝ่ายและเป็นฝ่ายใดบ้างนั้น มาดูกันดีกว่าว่าในปัจจุบันนั้นตั๋วแลกเงินมีอยู่ด้วยกันกี่ประเภท ซึ่งโดยหลักแล้วนั้นตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange) หรือ ดราฟท์ (Dr
aft) มีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภทก็คือ
1.ตั๋วแลกเงินที่เป็น Sight Draft มันก็หมายความว่า เป็นตั๋วแลกเงินที่จะต้องจ่ายเงินเมื่อได้ทำการทวงถาม โดยในตัวนั้นจะระบุให้จ่ายเงินเมื่อเห็น ซึ่งถ้าหากว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ทางธนาคารได้รับตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange) หรือ ดราฟท์ (Draft) นี้แล้วนั้นก็จะต้องทำการจ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิ์ได้รับเงิน ซึ่งทางธนาคารนั้นจะสั่งเรียกให้ผู้ซื้อมาจ่ายเงินพร้อมกับส่งมอบเงินนั้นให้แก่ธนาคารที่เจรจาต่อรองทันที
2.ตั๋วแลกเงินที่เป็น Time Draft มันก็หมายความว่า เป็นตั๋วแลกเงินที่จะต้องทำการจ่ายเงินตามกำหนดระยะเวลาในภายภาคหน้าตามที่ได้กำหนดเอาไว้ในตั๋วแลกเงินนั้น ซึ่งอาจจะเป็น 15 วัน, 30 วัน หรือ 60 วัน เป็นต้น และจะจ่ายในวันใดวันหนึ่งตามวันที่ที่ได้มีการกำหนดเอาไว้ หรือจ่ายเมื่อสิ้นกำหนดระยะเวลานับตั้งแต่วันที่ออก และให้จ่ายเงินเมื่อสิ้นสุดกำหนดระยะเวลานับแต่วันที่รับรองตั๋วแลกเงิน